
อัยการเผยแพร่ความคืบหน้าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนส่งตัว ‘เสอ จื้อเจียง’ กลับจีนยืนยันเป็นไปตามสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายไทย-จีน ปัจจุบันคดีถึงที่สุดแล้ว
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่าเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน สำนักงานอัยการสูงสุดได้เผยเเพร่เอกสารข่าว ความคืบหน้าการของส่งผู้ร้ายข้ามเเดนว่า ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ส่งตัวนายเสอ จื้อเจียง หรือ SHE Zhijiang บุคคลสัญชาติจีนและกัมพูชา ผู้ถูกร้องขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนในความผิดฐานเปิดบ่อนกาสิโนโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาของจีน โดยผู้ถูกร้องขอถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ออกคำสั่งให้สร้างและดำเนินกิจการเว็บไซต์การพนันออนไลน์ โดยมีเว็บไซต์การพนันออนไลน์ที่ใช้งานอยู่ 239 แห่ง และมีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 2,775 พันล้านหยวน (หรือคำนวณเป็นเงินไทยประมาณ 12.63 ล้านล้านบาท) ทั้งยังมีส่วนในการสร้างเมืองใหม่แห่งเอเชียแปซิฟิกในเขตเศรษฐกิจพิเศษสุ่ยโกกู่ (ชเวโก๊กโก่) แห่งเอเชียแปซิฟิกของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และถูกกล่าวหาว่าได้เปิดและเป็นหุ้นส่วนในบ่อนกาสิโน 2 แห่งในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าว ซึ่งผู้ถูกร้องขอกับพวกได้ชักชวนนักพนันชาวจีนให้เล่นการพนันที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมามาอย่างต่อเนื่องผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ จนทำกำไรได้เป็นเงินจำนวนมหาศาล
การส่งตัวนายเสอ จื้อเจียง เป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ค.ศ. 1993 (พ.ศ. 2536) โดยเป็นคดีที่ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดและติดตามสถานะการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด
นายเสอ จื้อเจียง ผู้ถูกร้องขอเป็นบุคคลที่ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ส่งคำร้องขอให้จับกุมชั่วคราวมายังทางการราชอาณาจักรไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 โดยอัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลางตามพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 ได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือตามที่ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนร้องขอ และมอบหมายให้พนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินการประสานงานร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนกระทั่งเจ้าพนักงานตำรวจสามารถจับกุมตัวนายเสอ จื้อเจียง หรือ SHE Zhijiang ได้สำเร็จในเดือนเดียวกัน
หลังจากนั้น ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีคำร้องขอให้ส่งตัวนายเสอ จื้อเจียง หรือ SHE Zhijiang เป็นผู้ร้ายข้ามแดน และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 อัยการสูงสุดผู้ประสานงานกลางได้อนุมัติให้พนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้ส่งตัวนายเสอ จื้อเจียง หรือ SHE Zhijiang ผู้ถูกร้องขอ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และในวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ศาลชั้นต้นก็ได้มีคำสั่งให้ขังผู้ถูกร้องขอไว้เพื่อส่งตัวข้ามแดนไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อมา เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ผู้ถูกร้องขอได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น และเมื่อเดือนธันวาคม 2566 พนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ ได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายในกำหนดระยะเวลาที่ศาลได้อนุญาตให้ขยาย และศาลได้มีคำสั่งรับไว้พิจารณา
ต่อมา นายเสอ จื้อเจียง ได้ยื่นคำโต้แย้งในประเด็นข้อกฎหมายว่าพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 มาตรา 19 และมาตรา 21 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ศาลอุทธรณ์จึงได้ส่งคำโต้แย้งของผู้ถูกร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 212 หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่าพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 มาตรา 19 และมาตรา 21 ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และในวันนี้ 10 พฤศจิกายน 2568 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยให้ส่งตัวผู้ถูกร้องขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนภายใน 90 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ปัจจุบันคดีถึงที่สุดแล้ว
การดำเนินการเพื่อส่งตัวนายเสอ จื้อเจียง เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายทั้งพนักงานอัยการและเจ้าพนักงานตำรวจ การประสานงานที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่งของกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย รวมถึงความรวดเร็วในการดำเนินงานของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งล้วนเป็นกำลังสำคัญในความพยายามส่งตัวผู้กระทำความผิดที่อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยเพื่อกลับไปดำเนินคดีในสาธารณรัฐประชาชนจีน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับนาย เสอ จื้อเจียง เป็นชาวจีน ที่ได้สัญชาติกัมพูชา เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนสร้างดาราสากอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อยู่ทางใต้สุดของจังหวัดเกาะกง ห่างจากพรมแดนไทยด้านจังหวัดตราด ประมาณ 170 กิโลเมตร และยังเป็นหนึ่งในผู้สร้างเมืองชเวโก๊กโก่ ในเมียวดี ประเทศเมียนมาด้วย และยังถูกกล่าวหาว่าเปิดเว็บไซต์การพนัน รวมทั้งบ่อนการพนันที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา มีผู้เข้าเล่นการพนันกว่า 330,000 ราย สร้างความเสียหายมากกว่า 150 ล้านหยวน หรือประมาณกว่า 700 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )












