
รัฐบาลรับ พ.ร.บ. แอลกอฮอล์ ฉบับใหม่ ยังกำหนดเวลาขายคงเดิม แต่เปลี่ยนโทษเป็น ‘ปรับพินัย'-รมว.สธ.จ่อถก กก.ควบคุมเหล้าฯ13 พ.ย.นี้ ก่อนประกาศข้อบังคับสมบูรณ์ 4 ธ.ค.
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2568 นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2568) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2568ที่ผ่านมา ซึ่งมีประเด็นเรื่องบทลงโทษปรับผู้ดื่ม ที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงที่เกินเวลาห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยพ.ร.บ.กำหนดต้องออกกฎหมายลูก จึงจะบังคับใช้อย่างสมบูรณ์
นายพัฒนา กล่าวว่า ในวันที่ 13 พ.ย.นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ซึ่งมีนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยการประชุม เพื่อให้อำนาจกับคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามพ.ร.บ.ฉบับใหม่ ดำเนินการต่อในเรื่องต่างๆ รวมถึงเรื่องการตั้งกรรมการสรรหาคณะกรรมการชุดนี้ให้มีความครบถ้วน เนื่องจากปัจจุบันมีเพียงกรรมการที่มาโดยตำแหน่งเท่านั้น แต่กรรมการควบคุมฯ โดยตำแหน่งก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่เราก็จะเร่งสรรหาให้ครบ
นายพัฒนา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในส่วนของการนั่งดื่มช่วงเกินเวลาที่มีข้อถกเถียงกันอยู่นั้นก็จะมีการพูดคุยในที่ประชุมด้วย ตอนนี้จึงยังไม่สามารถลงในรายละเอียดได้ แต่หลังการประชุมในวันที่ 13 พ.ย. จะทราบมาตรการและแนวทางแก้ปัญหาที่ชัดเจน ขอชี้แจงว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เริ่มในรัฐบาลชุดนี้ แต่ได้ทำมานานแล้ว และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการหารือภายในว่าจะมีมาตรการบรรเทาอย่างไร สิ่งสำคัญต้องคำนึงทั้งเรื่องสุขภาพและการท่องเที่ยว ขอให้วางใจได้ว่าเราพิจารณาโดยคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เช่นเดียวกับเรื่องสุขภาพ ที่ต้องสร้างความสมดุลให้ดี โดยวันที่ 4 ธ.ค. นี้ จะมีระเบียบออกมาชัดเจนขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตั้งคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชุดใหม่ (มีรมว.สาธารณสุขเป็นประธานโดยตำแหน่ง) ที่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2568) จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 150 วันหลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้
@กฎหมายใหม่ ยังกำหนดเวลาขายเหล้าเบียร์
ทางด้าน นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีการแชร์ข้อมูลที่เป็นกระแสข่าวบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับ เรื่อง การห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย ณ สถานที่ขาย ซึ่งตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 มาตรา 32 ห้ามผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสถานที่หรือบริเวณที่จัดบริการเพื่อให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อประโยชน์ในทางการค้า ในเวลาที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามมาตรา 28 ทั้งนี้ คณะกรรมการควบคุมจะประกาศกำหนดเงื่อนไขหรือข้อยกเว้นใด ๆ เท่าที่จำเป็นก็ได้
นพ.มณเฑียร กล่าวต่อว่า เดิมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ได้มีการกำหนดเวลาขายและเวลาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ณ สถานที่ขาย มีผลใช้บังคับตั้งแต่ปี 2515 โดยมีการกำหนดโทษทางอาญาทั้งจำคุกและปรับสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน ต่อมาในปี 2565 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นควรให้มีการยกเลิกประกาศดังกล่าว และนำหลักการมากำหนดไว้ในกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 จึงเป็นที่มาของมาตรา 32
ดังนั้น กฎหมายใหม่เพียงยกเลิกกฎหมายเก่าที่ซ้ำซ้อนหรือใช้มานานแล้ว แต่ข้อห้ามยังคงเดิม
อย่างไรก็ตาม จากเดิมที่กำหนดเป็นโทษทางอาญาเปลี่ยนเป็นโทษปรับเป็นพินัย ซึ่งการกำหนดค่าปรับจะพิจารณาให้เหมาะสมกับข้อเท็จจริง เช่น อายุ ความประพฤติ อาชีพ เป็นต้น และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถกำหนดข้อยกเว้นเพิ่มเติมเท่าที่จำเป็นได้
นพ.สุทัศน์ โชตนะพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องการใช้ตราสินค้าที่เหมือนหรือคล้ายกับตราเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน กระทำการที่อาจเข้าข่ายป็นความผิดฐานโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามมาตรา 32/3 ห้ามผู้ใดโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้ชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นชื่อหรือเครื่องหมายของผลิตภัณฑ์หรือสิ่งนั้น หรือโฆษณาโดยการนำเอาชื่อ เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตัด ต่อ เติม หรือดัดแปลงข้อความให้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อหรือเครื่องหมายของผลิตภัณฑ์หรือสิ่งนั้นทั้งนี้ ในลักษณะที่อาจทำให้เข้าใจได้ว่าหมายความถึงการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นการกระทำความผิดของผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรมควบคุมโรค ขอความร่วมมือประชาชน ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้กระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายสามารถร้องเรียนได้ที่ เว็บไซต์ TAS โดยสามารถเข้าใช้งานผ่านเว็บไซต์ http://tas.lunge.th หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
อนึ่ง ข้อกำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังคงเหมือนเดิม โดยขายได้เฉพาะเวลา ดังนี้ ช่วงกลางวัน เวลา 11.00 – 14.00 น. และช่วงกลางคืน เวลา 17.00 – 24.00 น.
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )













