
ภาพจาก Thai PBS ศูนย์ข่าวภาคใต้'s publish เจ้าหน้าที่ทางการของมาเลเซีย ยังคงตรึงกำลังรักษาความปลอดภัย และใช้เชือกกั้น ตลอดแนวท่าเรือที่ถูกรื้อทิ้ง พร้อมสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมาย มาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม
และนำป้ายประกาศ ทั้งจำทั้งปรับมาติดตั้งไว้เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ท่าเรือที่จุดผ่อนปรน ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามท่าโรงเลื่อย ในอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นมาตรการจัดการชายแดนของมาเลเซีย หลังมีการจับกุมการลักลอบค้ายาเสพติดได้หลายครั้ง
ทำให้บรรยากาศบริเวณชายแดนฝั่งไทยเงียบเหงา จากเดิมที่จุดผ่อนปรนนี้ ชาวบ้านสองฝั่ง จะใช้เดินทางเช้าไปเย็นกลับ เพื่อไปรับจ้างทำงานรายวัน หรือ ขายของ แลกเปลี่ยนสินค้า หรือแม้แต่การเดินทางนักเรียน
คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างบางคน บอกว่า รายได้หายไปทั้งหมด เพราะคนมาเลเซียไม่กล้าเดินทางมา เนื่องจากมีโทษสูง และไม่สามารถไปขับรถรับจ้างที่คิวอื่นได้ เพราะพื้นที่ใครพื้นที่มัน ส่วนแม่ค้าพ่อค้าบริเวณจุดผ่อนปรนก็มีสภาพไม่ต่างกัน
“ก็เงียบแบบนี้ไม่มีคน คนไม่กล้ามา คนมาเลเซียมาก็ถูกจับ จึงไม่มีคนข้าม ยิ่งแย่ยิ่งแย่ ปกติคนเยอะ คนจะข้ามไปซื้อของฝั่งมาเลเซีย ตอนนี้ร้านค้าฝั่งมาเลเซียก็ปิดร้าน เพราะฝั่งเราก็ข้ามไปซื้อไม่ได้ วันวันหนึ่งไม่เข้าเลยสักคน”
แม่ค้าจำหน่ายอาหาร บริเวณจุดผ่อนปรนท่าโรงเลื่อย กล่าว
“ปกติได้วันหลายร้อยบาท ขับรถไปส่งคนมาเลเซียที่ขึ้นที่ท่านี้ แต่หลังเค้าปิดก็หมดเลย ไม่ได้เงินสักบาท จะไปวิ่งรถที่คิวอื่นก็ไม่ได้ เพราะคิวใครคิวมัน เราวิ่งไปวิ่งไม่ได้ ก็อยากให้เค้าเปิดท่าเรือไวๆ จะได้มีรายได้ทั้งเราทั้งเขา”
คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างคนหนึ่งที่ท่าโรงเลื่อย ให้ข้อมูล
ป้ายประกาศเตือนการให้ที่พักพิงผู้ก่อเหตุความไม่สงบมีความผิดร้ายแรง ที่ถูกนำมาติดตั้งบริเวณท่าเรือกอไผ่ อำเภอสุไหงโก-ลก และการติดตั้งกล้องวงจรปิดตลอดแนว ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามจุดผ่อนปรนฝั่งมาเลเซีย ที่ถูกรื้อไปก่อนหน้านี้ เป็นมาตรการชายแดนของฝั่งไทย
หลังพบว่า พรมแดนธรรมชาติระหว่างไทยและมาเลเซีย ที่มีเพียงแม่น้ำโกลกกั้น โดยเฉพาะบางช่วง ที่แคบจนสามารถเดินข้ามไปมาได้ในช่วงหน้าแล้ง จึงกลายเป็นช่องว่าง ให้กลุ่มก่อเหตุมีอิสระในหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ทำให้พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ที่ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา เคยกล่าวว่า มีแนวคิดเห็นด้วยกับแม่ทัพภาคที่ 4 ในการทำรั้วชายแดนเช่นกัน
“ผมเห็นด้วยกับแนวคิดของแม่ทัพภาค 4 ให้เพิ่มมาตรการซีลชายแดน ที่จะใช้ทั้งเครื่องมือ เทคโนโลยี เช่นรั้วอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบกับการปรับกำลังป้องกันชายแดนเพื่อสกัดกั้นการหลบหนีข้ามแดนไปให้ได้ ต้องเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น ”
รมว.กลาโหม กล่าวระหว่างลงพื้นที่ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี และให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 ตค 2568 หลังเหตุปล้นร้านทองกลางห้างใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 5 ต.ค.68 และเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่อีกหลายครั้ง
ปัจจุบันไทยและมาเลเซียมีพรมแดนธรรมชาติติดกันประมาณ 647 กิโลเมตร โดยเฉพาะในจังหวัดนราธิวาสมีระยะทาง 174 กิโลเมตร แม้จะมีความพยายามของทั้งสองฝ่ายในการซีลชายแดน
แต่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จากความเข้มงวดนี้ คือ ผลกระทบกับวิถีชีวิตและเศรษฐกิจ ที่พึ่งพารูปแบบการข้ามฟากผ่านจุดผ่อนปรน ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการค้าและการท่องเที่ยว
ข่าวใต้แลได้ที่เรา ThaiPBS











( RSS– 2025-11-12 03:20:00———ข่าวอัพเดทจาก : เฟซบุ๊ค Thai PBS ศูนย์ข่าวภาคใต้ ———www.ด่วน.com อัพเดท ข่าวด่วน ข่าวร้อนประเด็นดังทุกภาคทั่วไทย












