วาระแห่งชาติแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ไทย ข้อบกพร่องเพียบ! สตง.สอบพบจุดอ่อนใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาไม่เกิดประสิทธิผลคุ้มค่า มาตรการส่วนใหญ่แค่ตอบสนองสถานการณ์เฉพาะหน้า บางมาตรการล่าช้าไม่เกิดประสิทธิผลเป็นรูปธรรม เผยกำหนดแผนตรวจปี 68 แล้ว มุ่งเน้นการใช้จ่ายเงินตามโครงการแก้ไขปัญหาเป็นไปตามวัตถุประสงค์เป้าหมาย ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรง สามารถลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลหรือไม่
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2568 นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน โฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แถลงข่าวการตรวจสอบติดตามปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทย ว่า จากการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการดำเนินมาตรการและกลไกการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2562-2567 จากรายงานผลการตรวจสอบของ สตง. ที่ผ่านมา ได้สะท้อนถึงข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนที่ทำให้การใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่เกิดประสิทธิผลและไม่คุ้มค่า ดังนี้
1. มาตรการส่วนใหญ่ เป็นการดำเนินการที่ตอบสนองต่อสถานการณ์เฉพาะหน้า บางมาตรการ มีความล่าช้า หรือผลการดำเนินการยังไม่เกิดประสิทธิผลที่เป็นรูปธรรม
2. กิจกรรมที่ดำเนินการขาดการเชื่อมโยงกับการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนในระดับพื้นที่ และส่งผลให้ขาดความต่อเนื่อง และไม่เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
3. กลไกการจัดทำงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้งบประมาณประจำปีของหน่วยงาน งบประมาณจังหวัด และงบประมาณกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ยังไม่ได้ทำให้มาตรการที่นำไปปฏิบัติลงสู่พื้นที่เป้าหมายเกิดการบูรณาการกัน กิจกรรมของหน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่ได้สนับสนุนซึ่งกันและกันเท่าที่ควร หรือ ยังมีความไม่สอดคล้องในการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบางกิจกรรมมีความซ้ำซ้อน
4. การบริหารจัดการข้อมูลเชิงพื้นที่ระหว่างหน่วยงานยังขาดระบบการทำงานบนฐานข้อมูลเดียว หรือขาดการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ส่งผลให้การแก้ไขปัญหายังไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
@ สุทธิพงษ์ บุญนิธิ
นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ ยังระบุด้วยว่า จากการตรวจสอบที่ผ่านมา สตง. ได้มีการแจ้งผลการตรวจสอบและให้ข้อเสนอแนะในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับนโยบาย และในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน และกรุงเทพมหานคร เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิด และเกิดประสิทธิผลในการควบคุมสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ลดผลกระทบด้านสุขภาพอนามัยที่มีต่อประชาชน และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ สตง. จะยังคงเป็นกลไกที่สำคัญในการตรวจสอบและติดตามผลการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาล และหน่วยงานภาครัฐ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างใกล้ชิด กล่าวคือ ตามนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ได้กำหนดทิศทางและเป้าหมายการตรวจเงินแผ่นดินให้ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ในประเด็นการเติบโตที่ยั่งยืน แผนย่อยการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยน้อยกว่า 2.5 ไมครอน ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตามแนวทางการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
“สตง. ได้กำหนดแผนการตรวจสอบประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายการใช้จ่ายเงินสำหรับโครงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพื่อให้ทราบว่า การใช้จ่ายเงินสำหรับโครงการฯ เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และแบบแผนปฏิบัติทางราชการหรือไม่ และให้มีการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน และกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ทราบว่า การใช้จ่ายเงินตามโครงการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย รวมทั้งประชาชนมีสุขภาพแข็งแรง สามารถลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลหรือไม่ ซึ่งหากมีความคืบหน้าของผลการตรวจสอบจะได้นำมานำเสนอให้ทราบในโอกาสต่อไป” โฆษก สตง.ระบุ
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )