ขยายเวลาชำระเงิน! เปิดหนังสือ‘ท่าอากาศยานไทย’อุ้ม‘ผู้ประกอบการ-สายการบิน’ขาดสภาพคล่อง จากศก.ถดถอย

เปิดหนังสือ ‘ท่าอากาศยานไทย’ ออกโครงการ ‘ขยายระยะเวลาชำระเงิน’ ช่วยเหลือ ‘ผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์-สายการบิน’ ที่มีปัญหา ‘ขาดสภาพคล่อง’ จากภาวะเศรษฐกิจ ‘ถดถอย’-ผลกระทบสงคราม

………………………………..

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2568 นายกีรติกิจ มานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ท่าอากาศยานไทย) หรือ AOT ได้ทำหนังสือที่ ท่าอากาศยานไทย 1484/2568 เรื่อง โครงการขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานของ ท่าอากาศยานไทย ทั้ง 6 แห่ง ที่ขาดสภาพคล่อง แจ้งไปยังผู้ประกอบการและสายการบิน โดยมีเนื้อหาว่า

เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังคงประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยอย่างต่อเนื่องภายหลังสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมถึงสถานการณ์สงครามในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบินที่ประกอบกิจการ ณ ท่าอากาศยานของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)(ท่าอากาศยานไทย) ทั้ง 6 แห่ง ประสบปัญหาหาขาดสภาพคล่องจาการดำเนินธุรกิจ

ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐต่างๆ ท่าอากาศยานไทย จึงได้มีโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานของ ท่าอากาศยานไทย ทั้ง 6 แห่ง ที่ขาดสภาพคล่อง เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ ท่าอากาศยานไทย ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.โครงการขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานของ ท่าอากาศยานไทย ทั้ง 6 แห่ง ที่ขาดสภาพคล่อง โดยมีหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการและเงื่อนไขของ โครงการ ดังนี้

1.1 ผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ต้องมีหนังสือแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯล่วงหน้าก่อนวันครบกำหนดชำระเงินตามสัญญา พร้อมทั้งต้องแสดงเหตุผลของการขาดสภาพคล่องให้ ท่าอากาศยานไทย พิจารณา ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ต้องส่งหนังสือแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ให้ ท่าอากาศยานไทย ภายในวันที่ 30 ก.ย.2568

1.2 ผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบินที่ขอเข้าร่วมโครงการฯ ต้องมีหลักประกันสัญญา และวงเงินของหลักประกันสัญญาต้องครอบคลุมเงินต้น รวมกับค่าปรับจากการผิดนัดชำระในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี

1.3 ผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน จะสามารถเลื่อน และ/หรือแบ่งชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทน หรือค่าบริการสนามบิน (Touchdown and Parking Expenses) โดยระยะเวลาที่ขอเลื่อน และ/หรือแบ่งชำระฯ งวดสุดท้าย จะต้องสิ้นสุดไม่เกินอายุสัญญาและไม่เกิน 24 เดือน นับถัดจากเดือนที่ ท่าอากาศยานไทยมีมติอนุมัติโครงการฯ (ม.ค.2570)

1.4 ผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ต้องชำระดอกเบี้ยของยอดเงินที่ขอเลื่อน และ/หรือแบ่งชำระฯ ทุกเดือน ตามอัตราที่ ท่าอากาศยานไทยกำหนด โดยอัตราดอกเบี้ย (ร้อยละต่อปี) คำนวณจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง (ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จ้ากัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคากรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) และบวกเพิ่มอีกร้อยละ 2 ต่อปี

อัตราดอกเบี้ยดังกล่าว จะต้องไม่น้อยกว่าต้นทุนทางการเงิน (Weighted Moderate Price of Capital: WACC) ของ ท่าอากาศยานไทย โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ย MLR และ WACC ณ วันที่ผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบินแต่ละรายได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ท่าอากาศยานไทยอนุมัติเป็นต้นไป โดยไม่มีผลย้อนหลัง

1.5 ในกรณีที่ผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบินผิดนัดชำระเงินของโครงการฯงวดใดงวดหนึ่ง หรือมีหนี้สินเกิดขึ้นใหม่ ให้ถือว่าสิทธิ์ตามโครงการนี้สิ้นสุดลงทันที และ ท่าอากาศยานไทยจะดำเนินการตามเงื่อนไขสัญญาต่อไป

1.6 ท่าอากาศยานไทยขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาตามความเหมาะสมและยกเลิกโครงการฯ ได้ และให้ผลการพิจารณาของ ท่าอากาศยานไทย ถือเป็นที่สุด