สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา ‘อนุสรณ์ นาคาศัย' อดีตนายก อบจ.ชัยนาท ทุจริตเบิกจ่ายงบประมาณอุดหนุนส่วนราชการ-สมาคมกีฬาจังหวัด ปี 52 – Fifty three จำนวน 21 โครงการ พ่วงสนับสนุนสาธารณสุขจังหวัด 2 โครงการ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 1 พิพากษาลงโทษรวม 15 กระทง จำคุก 45 ปี 60 เดือน ไม่รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายอนุสรณ์ นาคาศัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชัยนาท ทุจริตเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนสนับสนุนส่วนราชการและสมาคมกีฬาจังหวัด ระหว่างปีงบประมาณ 2552 – 2553 จำนวน 21 โครงการ และทุจริตเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนสนับสนุนสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท จำนวน 2 โครงการ ซึ่งถูกคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 151 , 152 และ 157 และ พ.ร.บ.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติพ.ศ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษาว่า นายอนุสรณ์ นาคาศัย จำเลยมีความผิดตามกฏหมาย ลงโทษตาม ป.อ. ม.151 ซึ่งเป็น
กฎหมายที่มีบทลงโทษหนักที่สุดตาม ป.อ. ม.90
การกระทำเป็นความผิด 15 กรรมต่างกันลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตาม ป.อ. ม.91 จำคุก กระทงละ 5 ปี มีเหตุลดโทษ ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม ตาม ป.อ. ม.78 จำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน
รวม 15 กระทง เป็นจำคุกมีกำหนด 45 ปี 60 เดือน
เบื้องต้น คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีการประชุมเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2568 ลงมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้อีก
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐเทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
กล่าวสำหรับ นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายกอบจ. ชัยนาท เป็นน้องชาย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 นายอนุชาได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ปัจจุบันสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า นายอนุสรณ์ นาคาศัย อดีตนายก อบจ.ชัยนาท ถูกคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชี้มูลความผิดกรณีการอนุมัติและเบิกจ่ายเงินงบประมาณ หมวดเงินอุดหนุนสนับสนุนสมาคมกีฬาจ.ชัยนาท จำนวน 3 สำนวน
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )