นักวิจัยพบ สุขภาพสมองและความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ อาจบ่งชี้ได้ด้วยแบคทีเรียในช่องปาก

Article info
- Writer, แอนนา วาร์เล
- Role, ผู้สื่อข่าวสายสุขภาพบีบีซี เขตเซาท์เวสต์
ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า แบคทีเรียบางชนิดที่พบในช่องปากอาจเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงการทำงานของสมองเมื่อมีอายุมากขึ้น
งานศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์พบว่ามีแบคทีเรียบางชนิดที่มีความสัมพันธ์กับการมีความจำดีและการโฟกัสที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็มีแบคทีเรียบางชนิดที่เชื่อมโยงกับการมีสุขภาพสมองที่ไม่ดีรวมไปถึงโรคอัลไซเมอร์
ดร.โจแอนนา ลูเฮอร์ หัวหน้าคณะวิจัยกล่าวว่า “เราอาจสามารถคาดการณ์ได้ว่าคุณมียีนของโรคอัลไซเมอร์หรือไม่ ก่อนที่คุณจะเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับความจำหรือคิดว่าจะไปพบแพทย์เพื่อให้มีการวินิจฉัยเสียอีก”
งานศึกษาวิจัยนี้ยังอยู่ในขั้นต้น แต่หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าตอนนี้พวกเขากำลังศึกษาว่าการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพบางชนิด เช่น ผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยไนเตรต อาจส่งผลดีต่อสุขภาพสมองจากการที่มันไปกระตุ้นแบคทีเรียบางตัวด้วยหรือไม่

ศ.แอนน์ คอร์เบตต์ นักวิจัยร่วมในงานศึกษานี้กล่าวว่า “ผลการวิจัยของเรามีความหมายที่ลึกซึ้งมาก” เธอกล่าวต่อว่า “หากแบคทีเรียบางชนิดสนับสนุนการทำงานของสมอง ในขณะที่บางชนิดทำให้การทำงานของสมองแย่ลง ดังนั้น การรักษาที่ไปเปลี่ยนสมดุลของแบคทีเรียในช่องปากอาจเป็นส่วนหนึ่งของวิธีป้องกันโรคสมองเสื่อมได้”
and proceed studyingเรื่องแนะนำ
End of เรื่องแนะนำ
“วิธีนี้ทำได้โดยการเปลี่ยนแปลงอาหารการกิน โพรไบโอติกส์ การรักษาสุขอนามัยในช่องปาก หรือแม้แต่การรักษาเฉพาะทาง”
งานวิจัยนี้สรรหาอาสาสมัครเข้าร่วมศึกษา 115 คนที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ซึ่งผ่านการเข้าตรวจประเมินสมรรถนะทางสมองแล้วในโครงการอื่นก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นนักวิจัยได้แบ่งอาสาสมัครออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือผู้ที่ไม่มีปัญหาเรื่องการทำงานของสมองถดถอยลง และอีกกลุ่มคือผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับความจำเล็กน้อย
ผู้เข้าร่วมวิจัยทั้งสองกลุ่มจะส่งตัวอย่างน้ำบ้วนปากให้นักวิจัย จากนั้นมันจะถูกเอาไปวิเคราะห์และศึกษาประชากรแบคทีเรียที่พบในตัวอย่างนั้น ๆ

คณะวิจัยของมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ระบุว่า ผู้ที่มีจำนวนของแบคทีเรียในกลุ่มไนซีเรีย (Neisseria) และฮีโมฟิลัส (Haemophilus) จำนวนมากจะมีความจำ การมีสมาธิจดจ่อ และความสามารถในการทำงานที่ซับซ้อนได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ดร.โจแอนนา ลูเฮอร์ กล่าวว่า เธอพบว่าในกลุ่มผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความจำจะยิ่งพบแบคทีเรียกลุ่มพอร์ไฟโรโมแนส (Porphyromonas) ในปริมาณมาก ขณะที่แบคทีเรียกลุ่มพรีโวเทลลา (Prevotella) มีความสัมพันธ์กับภาวะไนไตรท์ต่ำ ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ที่มียีนเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์
“เราจะแนะนำให้คุณกินผักพวกบีทรูต ผักใบเขียวเช่น ผักโขม ร็อกเก็ต ผักกาดหอม ผักสลัดหลาย ๆ ชนิด และลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารแปรรูปที่มีน้ำตาลสูง” ดร.ลูเฮอร์กล่าว
สำหรับผักใบเขียวเป็นแหล่งของไนเตรทตามธรรมชาติที่มีมากที่สุด
ด้าน ศ.แอนนี แวนฮาตาโล รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยของมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ กล่าวว่า “ในอนาคต มหาวิทยาลัยจะดำเนินการเชื่อมต่อผลจากการเก็บตัวอย่างในช่องปากส่งต่อไปยังแพทย์ประจำบ้าน เพื่อนัดหมายและตรวจวินิจฉัยแต่เนิ่น ๆ ว่าผู้ใดมีความเสี่ยงหรือไม่”
ที่มา BBC.co.uk