‘ครม.’ รับทราบข้อเสนอแนะป้องกันทุจริตจัดหา ‘รถยนต์’ สำหรับผู้ควบคุมงาน ‘สัญญาก่อสร้าง' หลัง ‘สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ' พบเปิดช่อง ‘เอื้อประโยชน์' ให้ ‘เจ้าหน้าที่รัฐ'
…………………………….
สำนักข่าวอิศรา - รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม.มีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้จากสัญญาจ้างงานก่อสร้าง กรณีเงื่อนไขในสัญญากำหนดให้ผู้รับจ้างต้องจัดหารถยนต์พร้อมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ควบคุมงาน ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) เสนอ
ทั้งนี้ ครม.มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลัก รับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ โดยให้กระทรวงการคลังสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งฯ ก่อนเพื่อนำเสนอ ครม.ต่อไป
สำหรับข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้จากสัญญาจ้างงานก่อสร้าง กรณีเงื่อนไขในสัญญากำหนดให้ผู้รับจ้างต้องจัดหารถยนต์พร้อมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ควบคุมงาน ของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีดังนี้
1.การควบคุมในขั้นตอนการกำหนดราคากลางหรือเอกสารประกวดราคาการจัดซื้อจัดจ้างงานก่อสร้าง
(1) การคำนวณราคากลางรายการรถยนต์ในการควบคุมงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดราคากลางงานก่อสร้างของกรมบัญชีกลาง เพื่อมิให้มีการคำนวณค่าใช้จ่ายในการจัดหารถยนต์สำหรับผู้ควบคุมงานไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติงาน ส่งผลให้ค่าก่อสร้างสูงเกินความเป็นจริง และทำให้ผู้รับจ้างได้กำไรเกินสมควร ซึ่งอาจมีการนำกำไรที่เกินสมควรมาเอื้อประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ
(2) การกำหนดคุณสมบัติรถยนต์ในสัญญาจ้างงานก่อสร้าง ให้พิจารณาจากลักษณะงานและพื้นที่ควบคุมงานเป็นหลัก และกำหนดคุณลักษณะรถยนต์ที่มีสภาพเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ควบคุมงาน เพื่อมิให้มีการนำรถยนต์ที่ผู้รับจ้างจัดหาให้ไปใช้ในการอื่นนอกเหนือจากการนำมาใช้ในการควบคุมงาน
(3) การกำหนดอายุการใช้งานของรถยนต์ มิควรกำหนดอายุการใช้งาน “ไม่เกิน 1-2ปี” หรือ “ไม่เคยใช้งานมาก่อน” เพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐซื้อรถยนต์คันดังกล่าวในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่มีการซื้อขายเป็นการทั่วไป หรือรับรถยนต์คันดังกล่าวหลังเสร็จสิ้นโครงการงานก่อสร้าง อันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทนจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยควรกำหนดอายุการใช้งานรถยนต์ที่สามารถใช้ได้จริง ทั้งนี้ อาจกำหนดให้ผู้รับจ้างนำเอกสารการตรวจสภาพรถยนต์ส่งมอบพร้อมกับรถยนต์
(4) หน่วยงานของรัฐต้องกำหนดเงื่อนไขที่ให้ผู้รับจ้างต้องจัดหารถยนต์พร้อมค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าซ่อมบำรุง และค่าเบี้ยประกันภัยยานพาหนะ สำหรับผู้ควบคุมงาน ในเอกสารประกวดราคาเผยแพร่ไปพร้อมกับประกาศประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์อย่างชัดเจน และต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 อย่างเคร่งครัด
2.การควบคุมในระหว่างการใช้รถยนต์ตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างงานก่อสร้าง
(1) ผู้บริหารหน่วยงานต้องกำกับดูแล ควบคุม การใช้รถยนต์ตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างงานก่อสร้างในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด มิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้รถยนต์ดังกล่าวในทางส่วนตัวหรือนอกเหนือจากการปฏิบัติงานควบคุมงาน
(2) หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลการใช้รถยนต์ในแต่ละคัน โดยมีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลการใช้รถยนต์ ซึ่งบุคคลดังกล่าวมิจำเป็นต้องเป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะแต่ต้องทราบ กรณีที่บุคคลอื่นใดนำรถยนต์ดังกล่าวไปใช้
(3) หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีการบันทึกการใช้รถยนต์ทุกครั้งที่ออกใช้งาน ตั้งแต่ออกเดินทาง-กลับ ถึงหน่วยงาน สำนักงานก่อสร้าง หรือสถานที่อื่นใดตามแต่กรณี โดยอย่างน้อยต้องปรากฎรายการดังต่อไปนี้ คือ วันที่ใช้รถ เลขระยะทาง การเติมน้ำมันเชื้อเพลิง ชื่อผู้ใช้รถยนต์และผู้ควบคุมดูแลการใช้รถยนต์ ทั้งนี้ เมื่อมีการตรวจสอบสามารถนำรายการใช้รถยนต์ดังกล่าวเปรียบเทียบกับข้อมูลในการบันทึกควบคุมงานของผู้ควบคุมงานว่ามีการใช้รถยนต์สอดคล้องกับการควบคุมงานในแต่ละวันหรือไม่
(4) ในการจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิง กรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ทดรองจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์ที่ผู้รับจ้างจัดหาให้เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องแสดงหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากผู้รับจ้าง อาทิ ใบเสร็จรับเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
(5) ในการเก็บรักษารถยนต์ ควรกำหนดให้เมื่อสิ้นสุดการควบคุมงานก่อสร้างในแต่ละวัน ต้องจัดเก็บและรักษารถยนต์ดังกล่าวไว้ที่สำนักงานก่อสร้างหรือสถานที่ของหน่วยงาน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นหรือมีเหตุตามสมควรให้เก็บรักษาในสถานที่ที่เหมาะสม แต่ต้องแจ้งให้ผู้ควบคุมดูแลการใช้รถยนต์ทราบทุกครั้ง
(6) กรณีความรับผิดจากการใช้รถยนต์ตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างก่อสร้าง ควรกำหนดให้ผู้รับจ้างรับผิดชอบเฉพาะความผิดในกรณีที่เกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุเกิดขึ้น เนื่องจากการใช้รถยนต์ในการปฏิบัติหน้าที่หรือเกี่ยวเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น ส่วนความเสียหายหรืออุบัติเหตุที่นอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติหน้าที่ ให้ผู้ที่ก่อเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุเป็นผู้ชดใช้ความเสียหายและให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการทางวินัย ทางแพ่ง หรือทางอาญาตามแต่กรณี
(7) หน่วยงานของรัฐควรจัดให้มีระเบียบ กฎหมาย หรือมาตรการของหน่วยงานเกี่ยวกับการใช้ยานพาหนะที่ครอบคลุมการใช้ยานพาหนะของผู้รับจ้างที่จัดไว้ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ปฏิบัติงานตามภาระผูกพันของสัญญา เพื่อควบคุมการใช้ยานพาหนะที่ผู้รับจ้างจัดหาให้ตามสัญญาใช้ในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด ดังเช่น ระเบียบกรมชลประทานว่าด้วยยานพาหนะ พ.ศ.2547
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )