พรรคร่วมฝ่ายค้านสรุปกรอบอภิปรายไม่ไว้วางใจ 5 วัน ยื่นไม่เกิน 27 ก.พ.นี้ มอบ ‘ปกรณ์วุฒิ' หารือวิปรัฐบาลสรุปวันเวลา ด้านเสรีพิศุทธิ์ยื่นหลักฐานชั้น 14 ทักษิณให้
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย ดอนเมือง พรรคร่วมฝ่ายค้านประกอบด้วย พรรคประชาชน พรรคไทยสร้างไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคเป็นธรรม และมีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยร่วมประชุมและรับประทานอาหารเย็นด้วย
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชนและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ที่ประชุมมีมติในประเด็นที่เกี่ยวกับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 โดยมีการหารือกับในรายละเอียดชั่วโมงเศษๆ คาดว่าจะมีการยื่นญัตติต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยวันสุดท้ายที่จะมีการยื่นคือวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568
นอกจากเรื่องกรอบเวลาแล้ว ยังมีการตกลงกันถึงเนื้อหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมอบหมายนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เจรจากับฝ่ายรัฐบาลเพื่อขอกรอบเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยฝ่ายค้านจะขอเวลาในการอภิปราย 5 วัน คาดว่ารัฐบาลไม่น่าจะปิดกั้นการตรวจสอบถ่วงดุลจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน
“ในช่วงเวลาครึ่งเทอมที่ผ่านมาของการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ ต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่าไม่ใช่เฉพาะรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตรอย่างเดียว แต่เป็นการบริหารราชการแผ่นดินที่มีความต่อเนื่องของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เมื่อสักครู่มีหลายๆประเด็นที่หารือร่วมกันแล้วพบว่ารัฐบาลชุดนี้ บริหารราชการแผ่นดินโดยขาดประสิทธิภาพ ปล่อยปละละเลยปัญหาสังคมในหลายๆเรื่อง รวมถึงมีประเด็นที่ส่อเค้าถึงผลประโยชน์ทับซ้อน การบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ที่ผู้มีอำนาจในรัฐบาลควรจะต้องถูกตรวจสอบถ่วงดุลชี้แจงได้ เนื้อหาในรายละเอียดแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้” หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าว
นายณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า การทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อจากนี้ ถ้ามีประเด็นเนื้อหาใดๆที่ประชาชนรวมถึงส่วนราชการที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นก็พร้อมที่จะเปิดกว้างส่งมาได้ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคได้
ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ยื่นหนังสือต่อนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน
โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เป็นคนไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก ตอนพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง ก็ช่วยพรรคก้าวไกลให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็แพ้เสียงในสภา ตอนมาเป็นพรรคเพื่อไทยก็ช่วย แต่บรรดาด้อมทั้งหลายก็ไม่เข้าใจและด่าตนยับ จนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมา และได้ไปอยู่ชั้น 14 บอกว่าจะทำเรื่องนายกฯ อบจ.ให้ได้นายก อบจ.มากที่สุด ต่อจากนั้นก็หวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ สส.มากที่สุด จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว
“เวลานายทักษิณจะนัดใครก็นัดไปที่ชั้น 14 แต่เวลาไม่มีนัดก็กลับบ้าน แล้วใครจะไปเห็น ขนาดตอนที่ผมไปยังไม่มีใครเห็นเลย แล้วตอนที่นายทักษิณกลับบ้านจะมีคนเห็นหรือ ผมจึงอยากแก้ไขและคิดว่าจะให้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาเป็นฝ่ายค้านดีกว่า” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า ฃฃเห็นว่าในช่วงเดือนมีนาคมจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงเดินทางนำข้อมูลของนายทักษิณที่ไปนอนเล่น ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจมาพูดให้ อย่างไรก็ตามตนอยู่นอกสภาก็จะดำเนินการเต็มที่ อีกไม่กี่วันตนจะพา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไปดูสถานที่ชั้น 14 ขอโรงพยาบาลอย่าย้ายข้าวของ หรืออย่าทำลายหลักฐาน แม้จะย้ายของย้ายได้ แต่ย้ายห้องไม่ได้หรือจะไปติดเครื่องไม้เครื่องมือแพทย์สมัยใหม่ เพื่อประกอบพยานหลักฐานก็ทำไม่ได้
ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การทำงานของพรรคฝ่ายค้านแตกต่างจากพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งแต่ละคนสามารถมีจุดยืน อุดมการณ์ ที่แตกต่างได้ แต่การทำงานเราต้องอาศัยกลไกรัฐสภาในการตรวจสอบ ส่วนข้อมูลที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นำมามอบให้นั้นหากเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล ตนก็ยินดีที่จะเปิดกว้างและรับฟัง
ที่มาภาพปก: Youtube LIVE สํานักข่าวราษฎร
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )