ภาวะดื้ออินซูลินคืออะไร หายได้ด้วยการอดอาหารแบบ IF หรือไม่

ที่มาของภาพ : Getty Photos

Article data

  • Author, โซมายา นาสร์
  • Aim, บีบีซี นิวส์ อาระบิก

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเสียงเล่าขานผ่านสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ช่องทางต่าง ๆ หนาหูขึ้น เกี่ยวกับ “ภาวะดื้ออินซูลิน” (insulin resistance) จนถึงกับมีการตีพิมพ์หนังสือและเผยแพร่คลิปวิดีโอจำนวนมาก ซึ่งให้คำแนะนำเรื่องอาหารและการออกกำลังกาย ที่จะช่วยป้องกันหรือควบคุมภาวะดื้ออินซูลินได้

เหตุที่ภาวะดังกล่าวตกเป็นที่สนใจของบรรดาคนรักสุขภาพ ก็เพราะภาวะดื้ออินซูลินอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่โรคร้ายแรงได้หลายชนิด ซึ่งรวมถึงโรคเบาหวานประเภทที่สองด้วย การทำความรู้จักถึงสาเหตุและอาการของภาวะดื้ออินซูลิน รวมถึงวิธีแก้ไขยอดนิยมอย่างเช่นการอดอาหาร (fasting) จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ที่มาของภาพ : Getty Photos

อินซูลินทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเ-ือด

อินซูลินคืออะไร

อินซูลินคือหนึ่งในฮอร์โมนสำคัญของร่างกายที่ตับอ่อนหลั่งออกมา เพื่อทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเ-ือด โดยช่วยให้เซลล์ร่างกายสามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงาน รวมทั้งสามารถนำน้ำตาลเข้าไปกักเก็บเป็นพลังงานสำรอง ซึ่งจะนำออกมาใช้ในภายหลังได้

หากตับอ่อนผลิตอินซูลินออกมาน้อยเกินไป หรือเซลล์ร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีเท่าที่ควร ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมายติดตามมา

ที่มาของภาพ : Getty Photos

หากตับอ่อนผลิตอินซูลินออกมาไม่เพียงพอ หรือร่างกายไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างเหมาะสมอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้

อินซูลินทำงานอย่างไร

ร่างกายคนเราจะย่อยสลายและแปรรูปอาหารที่กินเข้าไปให้กลายเป็นน้ำตาลกลูโคส (glucose) ซึ่งน้ำตาลชนิดนี้ก็คือแหล่งพลังงานหลักของร่างกายนั่นเอง

and proceed readingเรื่องแนะนำ

Quit of เรื่องแนะนำ

กลูโคสในทางเดินอาหารจะเข้าสู่กระแสเ-ือด ความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงทางเคมีนี้จะส่งสัญญาณไปที่ตับอ่อน เพื่อกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินออกมา จากนั้นอินซูลินจะช่วยให้น้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อ, เซลล์ไขมัน, และเซลล์ตับ เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานในทันทีหรือเก็บสะสมไว้ใช้ในภายหลัง

เมื่อน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์ร่างกายไปจนระดับน้ำตาลในเ-ือดลดลง ความเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งสัญญาณไปที่ตับอ่อนอีกครั้ง เพื่อยับยั้งการหลั่งอินซูลินให้หยุดลงในที่สุด

ที่มาของภาพ : GETTY IMAGES / JUAN GAERTNER / SCIENCE PHOTO LIBRARY

อินซูลินคือฮอร์โมนโปรตีนที่ผลิตออกมาจากตับอ่อน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระบบเมตาบอลิสม์ของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน

ภาวะดื้ออินซูลินคืออะไร

ภาวะดื้ออินซูลินเป็นกระบวนการภายในร่างกายที่ซับซ้อน ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์กล้ามเนื้อ, เซลล์ไขมัน, และเซลล์ตับ ไม่อาจมีปฏิกิริยาตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีเท่าที่ควร ทำให้ไม่สามารถนำน้ำตาลกลูโคสในเ-ือดเข้าสู่เซลล์ หรือนำไปกักเก็บไว้เป็นพลังงานสำรองในเซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเดิม

ภาวะดังกล่าวทำให้ตับอ่อนยิ่งผลิตอินซูลินออกมามากขึ้น เพื่อจัดการกับปัญหาที่เซลล์ไม่ตอบสนองต่ออินซูลินในปริมาณเท่าเดิม ทำให้ร่างกายมีระดับอินซูลินในเ-ือดพุ่งสูง (hyperinsulinemia) แต่ตราบใดที่ตับอ่อนยังหลั่งอินซูลินได้มากพอที่จะจัดการปัญหาเซลล์ดื้ออินซูลินได้ ระดับน้ำตาลในเ-ือดก็จะยังคงอยู่ในเกณฑ์ของคนที่มีสุขภาพดีต่อไป

แต่กับคนส่วนใหญ่แล้ว ภาวะดื้ออินซูลินของเซลล์ร่างกายจะยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ระดับน้ำตาลกลูโคสในเ-ือดพุ่งสูงขึ้นในที่สุด จนกลายเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานประเภทที่สองและโรคร้ายแรงอื่น ๆ

ที่มาของภาพ : Franklin Joseph

นพ.แฟรงคลิน โจเซฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม, วิทยาต่อมไร้ท่อ และโรคเบาหวาน กล่าวว่าสาเหตุของภาวะดื้ออินซูลินมีได้หลายประการ

นพ.แฟรงคลิน โจเซฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม, วิทยาต่อมไร้ท่อ (endocrinology), และโรคเบาหวาน ผู้ก่อตั้ง “คลินิกลดน้ำหนักดร.แฟรงค์” ทั้งยังเป็นแพทย์ผู้ให้คำปรึกษาของสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของสหราชอาณาจักร อธิบายถึงภาวะดื้ออินซูลินว่า “เป็นภาวะที่ซับซ้อน ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุร่วมกัน ทั้งพันธุกรรม, วิถีชีวิต, และปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ”

นพ.โจเซฟยังบอกว่า สาเหตุที่แท้จริงของภาวะดื้ออินซูลินนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคน เช่นความอ้วนทำให้มีไขมันส่วนเกินสะสมในร่างกายจนลงพุง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันในช่องท้อง (visceral paunchy) ซึ่งถือว่าเป็นไขมันเลวนั้น มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับภาวะดื้ออินซูลินอย่างมาก

การใช้ชีวิตแบบเนือยนิ่งไม่ยอมเคลื่อนไหวร่างกายเสียบ้าง หรือขาดการออกกำลังกายเป็นประจำ ก็ทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลินได้ บางคนมีภาวะนี้เพราะสาเหตุทางพันธุกรรม แต่หลายคนก็ดื้ออินซูลินเพราะอาหารและนิสัยการกินที่ย่ำแย่ ชอบบริโภคอาหารแปรรูป, น้ำตาล, และคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีในปริมาณสูง ทำให้ระดับน้ำตาลในเ-ือดมักพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังมื้ออาหาร จนตับอ่อนต้องผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป จนเซลล์ร่างกายเกิดภาวะดื้ออินซูลินในที่สุด

ความเครียดเรื้อรังยังเป็นสาเหตุของภาวะดื้ออินซูลินที่หลายคนคาดไม่ถึง เพราะฮอร์โมนเครียดหรือคอร์ติซอล (cortisol) ที่หลั่งออกมา สามารถจะไปแทรกแซงยับยั้งการทำงานของอินซูลินได้ นอกจากนี้ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอหรือการนอนหลับแบบไม่มีคุณภาพ ยังทำให้ระดับฮอร์โมนต่าง ๆ ภายในร่างกายแปรปรวน จนนำไปสู่ภาวะดื้ออินซูลินได้ด้วย

ส่วนคุณผู้หญิงที่มีปัญหาภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) ก็อาจมีภาวะดื้ออินซูลินด้วย นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคไขมันพอกตับ, ผู้ป่วยกลุ่มอาการคุชชิง (Cushing Syndrome) ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะดื้ออินซูลินได้มากกว่าผู้อื่น ส่วนคนชราที่ร่างกายเสื่อมโทรมไปตามวัย เซลล์ของคนแก่มักจะตอบสนองต่ออินซูลินได้น้อยลงเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นภาวะดื้ออินซูลินได้ในที่สุด

การถือศีลอดในเดือนรอมฎอนช่วยได้ไหม

ชาวมุสลิมจะถือศีลอดในเดือนรอมฎอน โดยงดเว้นการรับประทานอาหารและน้ำ ตั้งแต่รุ่งเช้าไปจนถึงช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งนักโภชนาการยุคใหม่บางคนมองว่า การอดอาหารเป็นช่วงเวลาเช่นนี้ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย และอาจช่วยบรรเทาหรือแก้ไขภาวะดื้ออินซูลินได้ด้วย

ศ.นพ.วาซิม ฮานิฟ อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาวิทยาต่อมไร้ท่อและโรคเบาหวาน ผู้อำนวยการคลินิกโรคเบาหวานของโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม แนะนำว่า “หากผู้ป่วยเบาหวานต้องการจะอดอาหาร ควรปรึกษากับแพทย์ประจำตัวเสียก่อนทุกครั้ง นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการอดอาหารอาจทำให้ผู้ป่วยเบาหวานมีปัญหาสุขภาพที่เป็นอันตรายร้ายแรงได้”

อย่างไรก็ตาม นพ.โจเซฟบอกว่าผลการศึกษาวิจัยบางชิ้นก่อนหน้านี้ ชี้ว่าการอดอาหารจะช่วยให้เซลล์กลับมามีปฏิกิริยาตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีภาวะนี้อยู่แล้วหรือในผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่สอง ส่วนคนทั่วไปที่อดอาหารเป็นช่วงเวลาหรือชาวมุสลิมที่ถือศีลอดในเดือนรอมฎอนบางคน ยังสามารถลดน้ำหนักหรือลดสัดส่วนไขมันในร่างกายลงได้อีกด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ระบบเผาผลาญหรือเมตาบอลิซึมทำงานได้ดีขึ้น จนเซลล์ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ว่องไวยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนอ้วน

ที่มาของภาพ : Getty Photos

ชาวมุสลิมจะถือศีลอดในเดือนรอมฎอน โดยงดเว้นการรับประทานอาหารและน้ำ ตั้งแต่รุ่งเช้าไปจนถึงช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

“แต่ถึงอย่างนั้น ผลพลอยได้ที่เกิดจากการถือศีลอด ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขภาวะดื้ออินซูลินหรือการกระตุ้นระบบเผาผลาญ อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่นเพศ, วัย, โรคประจำตัว, อาหารการกิน, และอุปนิสัยในการเคลื่อนไหวออกกำลังกาย” นพ.โจเซฟกล่าว “ในระหว่างที่ถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอน ชาวมุสลิมทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยโรคเบาหวาน ต้องคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพตนเองอย่างใกล้ชิด และขอคำแนะนำจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถอดอาหารได้อย่างปลอดภัย และสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้ดี ตลอดช่วงเวลาที่ถือศีลอดอยู่”

รีม อัล อับดัลลัต นักโภชนาการที่ทำงานในกรุงอัมมานของประเทศจอร์แดน กล่าวเสริมในประเด็นนี้ว่า “เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องมีนิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพเสมอ ไม่ว่าคุณจะเลือกอดอาหารแบบเป็นช่วงเวลา (Intermittent Fasting – IF) หรือกำลังถือศีลอดในเดือนรอมฎอนอยู่ก็ตาม”

ที่มาของภาพ : Reem Al-Abdallat

รีม อัล อับดัลลัต นักโภชนาการที่ทำงานในกรุงอัมมานของประเทศจอร์แดน

การทำอิฟ (IF) ดีต่อผู้มีภาวะดื้ออินซูลินหรือไม่

การอดอาหารแบบเป็นช่วงเวลา หรือที่เรียกกันติดปากว่าการทำอิฟ (IF) กำลังอยู่ในกระแสความสนใจของคนรักสุขภาพทั่วโลกตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยหมอและนักโภชนาการหลายคน ต่างพากันออกมากล่าวถึงข้อดีของการอดอาหารเป็นระยะ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้านด้วยกัน

ผู้ที่อดอาหารด้วยการทำอิฟนั้น จะต้องงดเว้นไม่กินอาหารเป็นเวลานานหลายชั่วโมงติดต่อกันในแต่ละวัน ตามมาด้วยการกินในช่วงเวลาที่จำกัดไว้สั้นกว่าช่วงที่อด บางคนอาจเลือกกินเพียงวันละมื้อเดียว หรืองดเว้นการกินเป็นเวลาหลายวันต่อสัปดาห์

ศ.นพ.นิติน คาปูร์ อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาต่อมไร้ท่อ ประจำโรงพยาบาลของวิทยาลัยแพทย์คริสเตียนที่รัฐทมิฬนาฑูทางตอนใต้ของอินเดีย ซึ่งได้ศึกษาเกี่ยวกับโรคเบาหวาน, โรคอ้วน, และความผิดปกติของต่อมไทรอยด์มานานหลายปี กล่าวว่ารายงานวิจัยทางการแพทย์บางชิ้น ชี้ว่าการอดอาหารเป็นช่วงเวลานั้นส่งผลดีต่อระบบเผาผลาญในบางเรื่องจริง แต่การทำเช่นนี้อาจไม่เหมาะกับภาวะสุขภาพของทุกคน และการกำหนดอาหารที่ต้องกินในช่วงเวลาจำกัดสั้น ๆ นั้น จะต้องขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละคนเป็นสำคัญ

ศ.นพ.คาปูร์ ยังตั้งคำถามถึงความยั่งยืนของวิธีลดน้ำหนัก รวมทั้งการอดอาหารทุกรูปแบบในระยะยาวว่า “คุณจะทำอย่างนั้นไปตลอดชีวิตได้ไหม ? ในตอนแรกคุณอาจอยากลดน้ำหนักสัก 15 กิโลกรัม แต่เมื่อคุณหยุดอดหรือจำกัดอาหาร ความอ้วนจะกลับมาแก้แค้นทันที”

ด้านนพ.โจเซฟ แสดงความเห็นในเชิงแก้ต่างว่า แม้การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการอดอาหารเป็นช่วงเวลายังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่ก็กำลังพัฒนาไปอย่างมาก โดยงานวิจัยบางชิ้นชี้ว่ามันช่วยบรรเทาภาวะดื้ออินซูลินลงได้จริง “ตัวอย่างเช่นงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Cell Metabolism เมื่อปี 2015 พบว่าการอดอาหารแบบวันเว้นวัน ช่วยให้กลุ่มตัวอย่างที่ไม่ได้เป็นโรคอ้วนมีความไวต่ออินซูลินเพิ่มมากขึ้น โดยน้ำหนักตัวของกลุ่มตัวอย่างไม่เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด”

ที่มาของภาพ : Getty Photos / RichLegg

การวัดระดับอินซูลินเป็นส่วนสำคัญในการดูแลภาวะการขาดอินซูลิน

อาการของภาวะดื้ออินซูลิน

ในช่วงแรกอาการของภาวะดื้ออินซูลินจะสังเกตเห็นได้ยากและไม่แสดงออกอย่างชัดเจน แต่ก็อาจมีสัญญาณบางอย่างที่ทำให้เราทราบได้ ซึ่งนพ.โจเซฟบอกว่า คนที่หิวบ่อยผิดปกติ, อ่อนเพลีย, ลดน้ำหนักได้ยาก, ผิวหนังมีแถบสีดำเป็นปื้นตรงหลังคอ, รักแร้, หรือขาหนีบ, ความดันโลหิตสูง, ค่าไขมันไตรกลีเซอไรด์หรือไขมันเลวสูง, ค่าไขมันดี (HDL) อยู่ในระดับต่ำ, มีภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) ล้วนมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะดื้ออินซูลินไปแล้ว

แต่หากคนผู้นั้นมีภาวะดื้ออินซูลินรุนแรงขึ้น จนกลายเป็นโรคเบาหวานประเภทที่สองไปในที่สุด ระดับน้ำตาลในเ-ือดที่พุ่งสูงจะแสดงอาการเพิ่มเติมให้สังเกตเห็นได้อีก เช่นปัสสาวะบ่อย, รู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลา, สายตาพร่ามัวมองภาพได้ไม่ชัดเจน

นพ.โจเซฟยังกล่าวเตือนว่า “อาการของภาวะดื้ออินซูลินอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล และไม่ใช่ว่าผู้ป่วยทุกคนจะต้องมีอาการตามนี้ทั้งหมด นอกจากนี้ อาการที่กล่าวมาข้างต้นอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงโรคร้ายแรงอย่างอื่นก็เป็นได้ จึงควรไปพบแพทย์เพื่อรับการประเมินวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้อง”

“การตรวจหาและจัดการกับภาวะดื้ออินซูลินเสียแต่เนิ่น ๆ สำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันโรคแทรกซ้อน อย่างเช่นโรคเบาหวานประเภทที่สอง รวมทั้งโรคหัวใจและหลอดเ-ือด” นพ.โจเซฟกล่าว

ที่มาของภาพ : Getty Photos

ภาวะดื้อต่ออินซูลินอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหลายปัญหา อย่างเช่นเบาหวาน

ภาวะดื้ออินซูลินเสี่ยงจะกลายเป็นโรคร้ายได้มากน้อยแค่ไหน

ผลการศึกษาในอดีตพบว่า ผู้มีภาวะดื้ออินซูลิน 70-80% จะกลายเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่สองไปในที่สุด หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาหรือควบคุมอย่างเหมาะสม “แต่เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งพันธุกรรม, ความอ้วน, ระดับการเคลื่อนไหวร่างกาย, อาหาร, อายุ, และชาติพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีโอกาสจะเป็นโรคเบาหวานประเภทที่สองได้สูงกว่าคนเชื้อสายคอเคเชียน” นพ.โจเซฟกล่าว

ดัชนีน้ำตาลคืออะไร

ดัชนีน้ำตาล (Glycaemic Index – GI) คือระบบในการจำแนกอาหาร โดยดูว่าอาหารแต่ละชนิดส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเ-ือดอย่างไร อาหารบางชนิดที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเ-ือดพุ่งสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว จะมีค่าดัชนีน้ำตาลในระดับสูง ส่วนอาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเ-ือดพุ่งสูงขึ้นช้ากว่า จะมีค่าดัชนีน้ำตาลในระดับปานกลางหรือในระดับต่ำ

อาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยสลายกลายเป็นน้ำตาลกลูโคสได้ช้า จะมีค่าดัชนีน้ำตาลในระดับต่ำ ตัวอย่างเช่นผักผลไม้บางชนิด, นมจืด, ถั่วเมล็ดแห้ง, ขนมปังจากธัญพืชที่ไม่ขัดสี, ซีเรียลจากธัญพืชเต็มเมล็ด, แต่อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง รวมทั้งมันฝรั่งขาวและข้าวขาว จะทำให้ระดับน้ำตาลในเ-ือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ค่าดัชนีน้ำตาลเพียงอย่างเดียวไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าอาหารชนิดนั้นดีต่อสุขภาพหรือไม่ ตัวอย่างเช่นช็อกโกแลตหลายชนิดมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำแต่มีปริมาณแคลอรีหรือพลังงานสูง ในขณะเดียวกันอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง ก็ใช่ว่าจะไม่มีคุณค่าทางโภชนาการเอาเสียเลย อย่างเช่นแตงโมที่หวานแต่ก็อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินหลายชนิด ดังนั้นเราควรให้ความสนใจกับการกินอาหารที่ได้สมดุลและส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม มากกว่าจะมุ่งให้ความสนใจต่อตัวชี้วัดอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว

ที่มาของภาพ : Getty Photos / MartinFredy

การรักษาดัชนีน้ำตาลในร่างกายอาจใช้อาหารและยาเข้ามาช่วย

แก้ภาวะดื้ออินซูลินให้กลับคืนเป็นปกติได้ไหม

นพ.โจเซฟบอกว่า ภาวะดื้ออินซูลินในคนไข้หลายคน สามารถจะรักษาให้หายและกลับคืนสู่ภาวะปกติได้ หรืออย่างน้อยก็สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและการใช้ยาในบางราย

นักโภชนาการอย่างรีม อัล อับดัลลัต แนะนำให้ผู้มีภาวะดื้ออินซูลิน “ใส่ใจกับอาหารการกินให้มาก หลีกเลี่ยงของหวานและตัดลดอาหารจำพวกแป้ง” เขาและนพ.โจเซฟยังเห็นตรงกันว่า ควรออกกำลังกายเป็นประจำและพยายามลดน้ำหนักลง รวมทั้งลดสัดส่วนไขมันบริเวณรอบเอวและพุง เพื่อให้ร่างกายมีความไวต่ออินซูลินเพิ่มขึ้น

นพ.โจเซฟ ยังให้คำแนะนำทิ้งท้ายเรื่องการผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีการที่ดีต่อสุขภาพ เช่นการทำสมาธิ, เล่นโยคะ, ฝึกเทคนิคการหายใจ, หรือออกไปสัมผัสธรรมชาติ นอกจากนี้ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และการใช้ยาบางชนิดเช่นเม็ตฟอร์มิน (metformin) ก็ช่วยลดภาวะดื้ออินซูลินและบรรเทาอาการของโรคเบาหวานประเภทที่สองได้

ที่มาของภาพ : Getty Photos

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการรักษาทางการแพทย์สามารถทำให้ภาวะดื้ออินซูลินกลับมาปกติ

ที่มาของภาพ : Getty Photos

อาหารเพื่อสุขภาพเป็นหนึ่งในวิธีการลดภาวะดื้ออินซูลิน แต่ก็ต้องระวังปริมาณน้ำตาลในอาหารที่กินเข้าไปด้วย