คำพิพากษาศาลฎีกาฯ ‘มะหมัดนีซัม บิลังโหลด’ อดีตนายกเทศฯ ต.เจ๊ะบิลัง อ.เมืองสตูล จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ตอนพ้นตำแหน่ง ไม่ส่งเอกสารปมเงินกู้ 9.5 แสน -หนี้สินเมีย 3 รายการ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่นับโทษต่อคดีจำคุก 5 ปี เหตุยังไม่ถึงที่สุด ให้รอลงโทษ 1 ปี
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา ว่า นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท แม้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหา 5 ปี แต่คดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด คำพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงอาจถูกเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งผลสุดท้ายผู้ถูกกล่าวหาอาจไม่ต้องรับโทษจำคุก กรณีเช่นนี้ถือไม่ได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ศาลจึงมีอำนาจรอการลงโทษให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ได้โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
นายมะหมัดนีซัม ยื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่งวันที่ 5 เมษายน 2564 เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยไม่ส่งเอกสารประกอบของรายการหนี้สินของตนเอง ได้แก่
หนี้เงินกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) วงเงิน 500,000 บาท ตามสัญญาฉบับวันที่ 19 กันยายน 2554 ซึ่งต่อมาธนาคารโอนขายสิทธิเรียกร้องดังกล่าวให้บริษัท รีโซลูชั่น เวย์ จำกัด มียอดหนี้คงเหลือตามคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ ผบ.346/2560 ของศาลจังหวัดสตูล 956,195.92 บาท
ไม่แสดงรายการหนี้สินของตนเอง และนางราตรี บิลังโหลด คู่สมรส ซึ่งมียอดหนี้คงเหลือ ณ วันพ้นจากตำแหน่ง ได้แก่
หนี้เงินกู้สหกรณ์อิสลามอิบนูเอาฟ จำกัด วงเงิน 800,000 บาท ตามสัญญาลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2554 มีนางราตรีนำที่ดินโฉนดเลขที่ 19184 ตำบลควนขัน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล มาจดทะเบียนจำนองไว้เพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้ ยอดหนี้คงเหลือ 591,480 บาท
หนี้เงินกู้ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ของนางราตรีตามสัญญาฉบับลงวันที่ 16 ตุลาคม 255555 วงเงิน 120,000 บาท ยอดหนี้คงเหลือ 223,387.16 บาท และหนี้เช่าซื้อธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ของนางราตรีตามสัญญาฉบับลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2554 ยอดหนี้คงเหลือ 82,938.81 บาท
สำนักข่าวอิศราเรียบเรียงรายละเอียดดังนี้
@เปิดคำพิพากษาละเอียด
คดีหมายเลขดำที่ อม.22/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อม.35/2567
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
วันที่ 30 เดือน ตุลาคม พุทธศักราช 2563
ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง
นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด ผู้ถูกกล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
@ คำร้อง ป.ป.ช. ยื่นเท็จกรณีพ้นตำแหน่ง
ผู้ร้องยื่นคำร้องและแก้ไขคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ร้อง กรณีพันจากตำแหน่ง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114 วรรคสอง (1), 167 และนับโทษจำคุกคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท12/2567 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่ผู้ร้องขอให้นับโทษต่อ
@ไม่ส่งเอกสารกรณีเงินกู้แบงก์ 5 แสน-ไม่แจ้งรายการหนี้สินเมีย 3 รายการ
พิเคราะห์คำร้องประกอบเอกสารท้ายคำร้อง คำให้การรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหาและสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2557 ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล โดยแถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภาเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลังวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 และพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากลาออกวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีทรัพย์สินและและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งวันที่ 5 เมษายน 2564 เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยไม่ส่งเอกสารประกอบของรายการหนี้สินของตนเอง ได้แก่
หนี้เงินกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) วงเงิน 500,000 บาท ตามสัญญาฉบับวันที่ 19 กันยายน 2554 ซึ่งต่อมาธนาคารโอนขายสิทธิเรียกร้องดังกล่าวให้บริษัท รีโซลูชั่น เวย์ จำกัด มียอดหนี้คงเหลือตามคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ ผบ.346/2560 ของศาลจังหวัดสตูล 956,195.92 บาท และไม่แสดงรายการหนี้สินของตนเอง และนางราตรี บิลังโหลด คู่สมรส ซึ่งมียอดหนี้คงเหลือ ณ วันพ้นจากตำแหน่ง ดังต่อไปนี้
หนี้เงินกู้สหกรณ์อิสลามอิบนูเอาฟ จำกัด วงเงิน 800,000 บาท ตามสัญญาลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2554 มีนางราตรีนำที่ดินโฉนดเลขที่ 19184 ตำบลควนขัน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล มาจดทะเบียนจำนองไว้เพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้ ยอดหนี้คงเหลือ 591,480 บาท
หนี้เงินกู้ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ของนางราตรีตามสัญญาฉบับลงวันที่ 16 ตุลาคม 255555 วงเงิน 120,000 บาท ยอดหนี้คงเหลือ 223,387.16 บาท และหนี้เช่าซื้อธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ของนางราตรีตามสัญญาฉบับลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2554 ยอดหนี้คงเหลือ 82,938.81 บาท
@ ป.ป.ช.แจ้งทำให้ครบแต่ไม่คงไม่ครบ-ไม่แก้ข้อกล่าวหา
ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบและให้ดำเนินการให้ครบถ้วนถูกต้อง โดยผู้ถูกกล่าวหายื่นเอกสารประกอบเพิ่มเติม แต่คงไม่ครบถ้วนถูกต้อง ผู้ร้องจึงแจ้งให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา และมีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบโดยชอบแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหากลับคืนภายในระยะเวลาที่กำหนด ถือว่ารับทราบและไม่ประสงค์แก้ข้อกล่าวหา จากนั้นยื่นคำร้องเป็นคดีนี้
@ยื่นบัญชีฯให้ครบถ้วนเป็นหน้าที่-กรณีรับตำแหน่งก็เคยยื่นมาแล้ว- พฤติการณ์ถือว่าจงใจ
ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรี ตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตล หรือไม่
เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง จึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต่อผู้ร้อง พร้อมหลักฐานที่พิสูจน์ความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สินเมื่อพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) และมาตรา 105 ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 (9) พ.ศ. 2561
ผู้ถูกกล่าวหาเคยยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งมาแล้ว ย่อมทราบถึงความสำคัญของหน้าที่ดังกล่าวว่าเป็นมาตรการสำคัญที่มีวัตถุประสงค์มุ่งหมายที่จะสร้างระบบตรวจสอบการทุจริตของเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความรัดกุมและเกิดประสิทธิผลในการตรวจสอบอย่างแท้จริง จึงกำหนดหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งที่มีความสำคัญต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามที่มีอยู่จริงภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เริ่มตั้งแต่เมื่อเข้ารับตำแหน่ง ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ร้องมีข้อมูลในการตรวจสอบบุคคลในตำแหน่งดังกล่าวตลอดระยะเวลาที่บุคคลนั้นดำรงตำแหน่งและใช้อำนาจของรัฐอยู่ว่ามีทรัพย์สินหรือหนี้สินเปลี่ยนแปลงผิดปกติหรือไม่ อันเป็นหน้าที่ที่พึงต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ผู้ถูกกล่าวหากลับไม่แสดงรายการหนี้สินของตนเองและคู่สมรส ซึ่งตามสำนวนการไต่สวนของผู้ร้องได้ความว่า หนี้เงินกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกกล่าวถูกดำเนินคดีจนกระทั่งศาลมีคำพิพากษาแล้ว โดยผู้ถูกกล่าวหาระบุเพียงยอดหนี้ แต่ไม่แนบเอกสารประกอบให้ครบถ้วนถูกต้อง ทำให้ผู้ร้องไม่อาจตรวจสอบความมีอยู่จริงได้อันมีผลเสมือนการไม่แสดงรายการหนี้สินดังกล่าว ส่วนหนี้เงินกู้สหกรณ์อิสลามอิบนูเอาฟ จำกัด ของผู้ถูกกล่าวหาก็ดี หรือหนี้เงินกู้ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และหนี้เช่าซื้อธนาคารทิสโก้ จำกัด(มหาชน) ของคู่สมรสก็ดี ก็ล้วนเป็นหนี้ตามสัญญาที่มีอยู่ตั้งแต่วันเข้ารับตำแหน่ง มีการประกันการชำระหนี้ด้วยทรัพย์ และมียอดหนี้มีจำนวนมาก
พฤติการณ์เหล่านี้ล้วนบ่งชี้ว่าผู้ถูกกล่าวหาย่อมต้องรับรู้ถึงความมีอยู่ของหนี้สินดังกล่าวเป็นอย่างดี การที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงหนี้สินเหล่านี้ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบให้ครบถ้วนตามที่มีอยู่จริง เมื่อผู้ร้องแจ้งให้ทราบ ผู้ถูกกล่าวหาก็ดำเนินไม่ครบถ้วนถูกต้องไม่ชี้แจงข้อเท็จจริง และไม่แจ้งเหตุขัดข้องเช่นนี้ ย่อมเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถตรวจสอบความมีอยู่จริง ความถูกต้อง ตลอดจนความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินได้
เมื่อพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดีประกอบคำให้การรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ผู้ถูกกล่าวหาต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป และเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม และมาตรา 16
@เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่นับโทษต่อคดีศาลอาญาคดีทุจริตภาค 9 สั่งจำคุก 5 ปี เหตุยังไม่ถึงที่สุด ให้รอลงโทษ 1 ปี
พิพากษาว่า นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป ตามมาตรา 81 ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามมาตรา 167 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท แม้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหา 5 ปี
แต่คดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด คำพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงอาจถูกเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งผลสุดท้ายผู้ถูกกล่าวหาอาจไม่ต้องรับโทษจำคุก กรณีเช่นนี้ถือไม่ได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน
ศาลจึงมีอำนาจรอการลงโทษให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ได้โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
ให้ยกคำขอให้นับโทษต่อ.
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินก่อนหน้า
ข่าวคดีบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบปี 2566 (เผยแพร่ ม.ค.2566-26 ม.ค.2567) :
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )