รองปลัดฯ-ปธ.บอร์ด-ผู้ว่าการทางพิเศษฯลงพื้นที่ดูหน้างานสะพานทางด่วนถล่ม เร่งเคลียร์เส้นทางคาดขาเข้ากรุงฯ 7 วันจบ ส่วนขาออกไปพระราม 2 รออีก 1 เดือน ส่วนการลงโทษรับเหมารอประกาศสมุดพกก่อน ไม่เกิน เม.ย.นี้ประกาศใช้ ส่วนข้อครหาซอยสัญญาเยอะ ชี้ช่องโกงง่าย ไม่จริง แถมช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้น ด้านผู้ว่าการงพิเศษลั่นไม่ลาออกถ้าเกิดเหตุซ้ำ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 16 มีนาคม 2568 ที่ไซด์งานก่อสร้างช่วงด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนอง ทางพิเศษเฉลิมมหานครโครงการทางพิเศษพระราม 3 – ดาวคะนอง- วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก นายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูนสุข ผู้ว่าการกทพ.ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัวในพื้นที่
@ 7 วันเคลียร์เปิดขาเข้ากรุงเทพมหานคร-ขาออกขอเวลาซ่อม 1 เดือน
นายอภิรัฐกล่าวว่า จากที่ดูจุดเกิดเหตุในส่วนพื้นที่ขาเข้า คาดว่าจะใช้เวลา 7 วันในการเคลียร์พื้นที่เพื่อเปิดเส้นทาง ขณะที่พื้นที่ขาออกซึ่งเป็นส่วนของสะพานในโครงการทางด่วนเฉลิมมหานคร จากที่สำรวจพบว่ามีการทางสัญจรเสียหายไป 1 ช่องจราจร โดยสอบถามจากผู้ว่ากทพ.ได้ความว่า อยู่ระหว่างการหล่อคานสำเร็จรูป เพื่อนำมาติดตั้งและซ่อมแซมทาง คาดว่าจะใช้เวลา 30 วันในการซ่อมแซม ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผู้ว่ากทพ.ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว และเท่าที่ดูก็ไม่พบผู้สูญหายแล้ว
ส่วนปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน นายอภิรัฐกล่าวว่า ผู้รับเหมาที่ทำงานเป้นผุ้รับเหมาชั้นพิเศษ มีความสามารถในการทำงานอยู่แล้ว ไม่มีประเด็นอะไร แต่จะมีบ้างคือข้อผิดพลาดในคนงาน (Human Error) ก็มีการกำชับว่าต้องเข้มข้นลงไป แต่เรื่องการทำงานคาดว่าไม่น่าเป็นห่วง
สภาพพื้นที่จุดเกิดเหตุ ฝั่งขาเข้าคือจุดที่มีเศษปูนและมีเครนสีขาวกำลังปฏิบัติงาน เพื่อเคลียร์พื้นที่
ฝั่งขาออกคือจุดที่เป็นทางแล้วหายไปท่อนหนึ่งจากเหตุการณ์สะพานถล่ม
@ลงดาบรับเหมา รอระเบียบกรมบัญชีกลาง
เมื่อถามว่าจะมีการลงโทษผู้รับเหมาหรือไม่ นายอภิรัฐกล่าวว่า มาตรการลงโทษจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.มาตรการที่กำหนดในสัญญา ทั้งการสั่งหยุดงานหรืออื่นๆ ที่กทพ.ทำได้เลย และ 2. มาตรการที่หน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจต้องเข้มข้นกว่าเดิม โดยมีมาตรการสมุดพกผู้รับเหมา เพื่อเพิ่มความเข้มข้นมากกว่าที่มีอยู่ โดยคาดว่ากรมบัญชีกลางจะออกระเบียบในเดือน เม.ย.นี้ โดยหน่วยงานรัฐก็เตรียมความพร้อมที่จะปฏิบัติตาม และเน้นย้ำการทำงานที่จะต้องปลอดภัยมากขึ้น
เมื่อถามอีกว่า มีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จะเข้ามาตรวจสอบ นายอภิรัฐกล่าวว่า ถ้ามีประเด็นเข้ามา ก็พร้อมที่จะตอบ ข้อมูลมีพร้อมหมด มั่นใจว่าจะตอบได้ทั้งหมด
@ป้องซอยสัญญา เพื่อให้งานเดินเร็ว ปัดมีโกง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีการทบทวนลักษณะการแบ่งงาน แบ่งสัญญาใหม่หรือไม่ เพราะงานก่อสร้างของกรมทางหลวง (ทล.) และกทพ.เองก็มีลักษณะซอยสัญญาย่อยออกมามาก จนอาจจะได้ผู้รับเหมาที่ไม่มีคุณภาพได้ นายอภิรัฐตอบว่า มีการทบทวน พอสมุดพกออกมาจะชัดเลยว่า ผู้รับเหมาไหนมีศักยภาพ หรืออาจจะมีการกำหนดคุณสมบัติพิเศษขึ้น เช่น กรณีการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ซึ่งมีลักษณะเป็นการก่อสร้างบนพื้นที่เปิด ที่มีการจราจรคับคั่ง จะต้องมีการกำหนดคุณสมบัติผู้รับเหมาว่าควรเป็นอย่างไร
ส่วนการซอยสัญญาออกมาเยอะนั้น เพราะมีเงื่อนไขว่า จะต้องก่อสร้างโครงการให้เสร็จใน 3 ปี และการทำงานต่างๆหากได้ผู้รับเหมาที่มีศักยภาพมาช่วยกัน ก็เชื่อได้ว่า การก่อสร้างน่าจะรวดเร็วขึ้น
เมื่อถามว่า การซอยสัญญาออกมาเยอะๆจะเป็นบ่อเกิดของการทุจริตหรือไม่ นายอภิรัฐกล่าวว่า ไม่มีประเด็น การซอยย่อยสัญญามีหลักการและเหตุผลว่าด้วยความรวดเร็วในการทำงาน เนื้องาน งบประมาณ ไม่มีประเด็นนี้ ส่วนจะมีการล็อกสเปกวัสดุก่อสร้างนั้น จากประสบการณ์การเอาวัสดุมาใช้จะมีการซุ่มเก็บตัวอย่าง ผ่านการทดสอบหมด ไม่ว่าจะหน่วยงานไหนเป็นไปตามที่กำหนดไว้ทั้งหมด
@มีมาตรการล้อมคอก ไม่ใช่ตั้งแต่คกก.ถอดบทเรียน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จริงในยุคนี้ตั้งมา 2 ครั้งแล้ว กระทรวงคมนาคมจะทำอะไรได้มากกว่านี้หรือไม่ นายวิทยาในฐานะรองปลัดกระทรวงคมนาคมตอบว่า ในการตั้งคณะกรรมการสอบสวนรอบแรกที่เกิดเหตุคานก่อสร้างถล่มเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้ข้อสรุปแล้ว หลังจากนั้น ทล.จะต้องวิเคราะห์และเรียนรู้ว่า จะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์อีก
เมื่อถามว่า ตอนนี้โครงการของกระทรวงคมนาคมมีการก่อสร้างหลายจุดทั้งทางด่วน มอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้า กระทรวงจะกำชับหรือมีมาตรการป้องกันที่มากกว่าการตั้งคณะกรรมการถอดบทเรียนหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า มาตรการป้องกันมีก่อนแน่นอน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นัดประชุมติดตามการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่อยู่แล้วทุกเดือน เพื่อกำชับหน่าวยงานและผู้เกี่ยวข้องเรื่องมาตรการความปลอดภัยอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว ทุกหน่วยงานเราให้ความสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนโครงการใหม่ จะมีการถอดบทเรียนและกำหนดมาตรการที่เข้มข้นขึ้น
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูนสุข (ยืนกลาง) ผู้ว่ากทพ., นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง-ประธานบอร์ดกทพ. (ยืนซ้าย)
และนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม (ยืนขวา)
@ยังไม่สรุปสาเหตุ
ขณะที่นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูนสุข ผู้ว่ากทพ.ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุของอุบัติเหตุยังไม่สรุปตอนนี้ ต้องเคลียร์พื้นที่ให้ประชาชนใช้ทางให้ได้ก่อน จากนั้น จะดูว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นมาจากอะไร วันนี้ยังตัดสินอะไรไม่ได้ต้องเห็นหลักฐานให้ครบถ้วน ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว
ส่วนที่มีการคาดเดาว่ามาจากการเทปูนคอนกรีตเป็นจำนวนมากนั้น ผู้ว่ากทพ.กล่าวว่า เป็นเรื่องของตัวโครงสร้างที่รับน้ำหนักไม่ไหวมากว่า แต่สาเหตุขึ้นอยู่กับการสอบสวน โดยคณะกรรมการจะเริ่มทำงานหลังจากเคลียร์พื้นที่เสร็จ มีระยะเวลาทำงาน 20 วัน
“ผมคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด โครงสร้างถ้าทำเสร็จแล้ว ไม่ถล่มลงมาแน่ๆ ส่วนมากจะเป็นเรื่องระหว่างก่อสร้าง ทุกอุบัติเหตุมีคาแรกเตอร์ของมัน ต้องถอดบทเรียนต่อไป มาตรการที่กระทรวง รัฐมนตรี ประธานบอร์ด ให้มา กทพ.และทล.ใช้มาตลอด หน้าที่ของผมคือต้องเมคชัวร์ว่า มาตรการต่างๆเนี่ย ได้รับการใข้อย่างเข้มงวด ได้ผลอย่างจะแจ้งให้ทราบ” นายสุรเชษฐ์กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีมาตรการเฉพาะหน้าในการควบคุมการก่อสร้างอย่างไร เพราะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดอุบัติเหตุ นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า มาตรการที่กระทรวงวางไว้ครอบคลุมอยู่แล้ว ถ้าพบว่าเหตุผลที่เกิดอุบัติเหตุอยู่นอกเหนือมาตรการที่วางไว้ จะต้องวางมาตรการเพิ่ม แต่ถ้ายังอยู่ในมาตรการก็ต้องหาตัวผู้ที่ละเลิกไม่ทำตามมาตรการ
ส่วนกรณีดราม่าวิศกรคุมงานที่เสียชีวิตไม่มีประสบการณ์ในการคุมงาน นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า ขอรับเรื่องไว้ตรวจสอบ และมีการเรียกผู้รับเหมามาหารือกันอยู่ทุกวัน ถ้าพบความบกพร่องก็ต้องไล่เบี้ยตามสัญญาและข้อกฎหมาย
@ไม่ลาออก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีเหตุการณ์้เกิดขึ้นอีก จะพิจารณาลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า
“ถ้าผมเป็นผู้ผูกเหล็กเอง ก่อสร้างเอง ก็จะรับผิดชอบ แล้วการที่ผมลาออกก็ไม่ทำให้คนเสียชีวิตฟื้นขึ้นมาได้ ผมคิดว่าต้องมาดูว่าผมละเว้นหรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่อย่างไร ผมคิดว่าถ้าลาออกคงต้องลาออกกันทั้งประเทศ หรือทั้งกรม ผมคิดว่าเอาสะใจได้ ผมคิดอย่างนี้ฮะ ผมจะเมกชัวร์ว่าผู้ที่ทำงานบกพร่อง หรือประมาทเลินเล่อ ถ้ามีนะฮะ ถ้าผู้เสียหายต้องได้รับความเป็นธรรม ผู้ที่ประมาทเลินเล่อก็ต้องได้รับการชดใช้”
อ่านประกอบ
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )