สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา ‘ประทวน ฤทธิมนตรี' อดีตนายก อบต.ยางใหญ่ อำเภอจังหาร ร้อยเอ็ด เรียกเงินต่อสัญญาพนักงานปี 54 ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนลงโทษจำคุก 50 ปี ไม่รอลงอาญา ให้นับโทษต่อคดีขุดดินลำห้วยสาธารณะไปขาย ที่ถูกตัดสินลงโทษจำคุก 5 ปี พร้อมพวกก่อนหน้านี้ด้วย
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายประทวน ฤทธิมนตรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ยางใหญ่ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด กับพวก เรียก รับเงินเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการบรรจุบุคคลให้เป็นพนักงานจ้าง ปี 2554 ซึ่งถูกคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149, 157 ประกอบมาตรา 90 และ 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2567 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติชอบภาค 4 ที่ตัดสินว่า นายประทวน ฤทธิมนตรี จำเลย มีความผิดตามมาตรา 149 ประกอบมาตรา 83
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามมาตรา 91
จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 11 กระทง เป็นจำคุก 55 ปี
เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี ตามมาตรา 91 (3) ให้นับโทษจำคุก จำเลยต่อจากโทษจำคุกจำเลย ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 180/2564 หมายเลขแดงที่ อท 60/2565 ของ ศาลนี้
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีการประชุมเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2567 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
สำหรับคดีแรก เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติชอบภาค 4 มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี นายประทวน ฤทธิมนตรี กับพวกในคดีขุดดินในบริเวณโครงการขุดลอกลำห้วยสาธารณะ หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ไปขาย แล้วนำเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว
เท่ากับว่า นายประทวน ถูกตัดสินลงโทษจำคุกไปแล้ว 2 คดี คดีแรก จำคุก 5 ปี และคดีล่าสุด 50 ปี
ขณะที่ก่อนหน้านี้ เคยปรากฏเป็นข่าวว่าในช่วงเช้าวันที่ 26 ส.ค.2564 เจ้าหน้าที่งานสืบสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ภาค 4 ได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมตัว นายประทวน ฤทธิมนตรี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ยางใหญ่ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดี เรียกรับเงินต่อสัญญาพนักงานจ้างปี 2554 ที่ ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น หลังจากถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชี้มูลความผิดและเรียกมารายงานตัวกับอัยการเพื่อสั่งฟ้องคดี แต่ไม่มาเลยถูกออกหมายจับ
รายงานข่าวแจ้งว่า นายประทวน ฤทธิมนตรี มีการกระทำความผิดสองกรรมต่างกรรมต่างวาระ ความผิดกรรมแรกที่โดนออกหมายจับไม่รู้ตัว เมื่อโดนเรียกให้มารายงานตัวความผิดกรรมที่สอง จึงได้มีติดต่อคดีกับอัยการ เมื่ออัยการตรวจสอบพบว่ามีหมายจับของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ อยู่ จึงซ้อนแผนจับตามหมายก่อนแล้วค่อยให้รายงานตัวอีกกรรม พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปแฝงตัวที่ศาลากลางพร้อมจับเมื่อพบตัว และมีการนำตัวไปทำบันทึกจับกุมที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 แล้ว (ดูภาพประกอบ)
อ่านประกอบ :
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )