รฟม.เปิดรับสมัครผู้ว่าฯคนใหม่แล้ว ส่องคุณสมบัติเข้ม ไม่เป็นข้าราชการการเมือง, ถ้ามาจากเอกชนต้องเคยบริหารองค์กรที่มีรายได้มากกว่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป, มาจากรัฐวิสาหกิจต้องเคยเป็นรองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้น, มาจากราชการต้องเคยผ่ายระดับรองอธิบดีหรือรองผู้บริหารมาก่อน ก่อนปิดรับสมัคร 14 ก.พ.นี้
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 26 มกราคม 2568 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อยู่ระหว่างการประกาศรับสมัครผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่แล้ว ซึ่งคาดว่าการสรรหาฯผู้ว่าฯ รฟม.จะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ลงนามในประกาศการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ซึ่งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติมและ พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543
โดยกำหนดยื่นใบสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ในเวลาทำการระหว่าง 08.30 น. ถึง 16.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ) สามารถยื่นเอกสารและหลักฐานประกอบการสมัครได้ 2 วิธี คือ ยื่นสมัครด้วยตัวเองหรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นยื่นใบสมัครแทนโดยสามารถดาวน์โหลดหนังสือมอบอำนาจได้ที่ www.mrta.co.th
ทั้งนี้ คณกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.จะเชิญผู้สมัครส่งเอกสารประกอบการสมัครครบถ้วนและมีคุณสมบัติตามประกาศ เข้ารับการสัมภาษณ์ตามวัน เวลา และสถานที่ซึ่งจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าต่อไป ผู้ที่ไม่เข้ารับการสัมภาษณ์ตามกำหนดดังกล่าวจะถือว่าสละสิทธิ์
ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.สงวนสิทธิ์ที่จะเรียกคัดเลือกเฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด หากคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.เห็นว่ามีจำนวนผู้สมัครน้อยราย หรือไม่มีผู้สมัครคนใดสมควรได้รับพิจารณาให้เสนอชื่อดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.อาจขยายเวลารับสมัครหรือยกเลิกการรับสมัครคราวนี้ และดำเนินการสรรหาโดยวิธีการอื่น หรือรับสมัครใหม่ก็ได้ โดยผู้สมัครจะไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
@ส่องคุณสมบัติ ผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่
สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัคร กำหนดคุณสมบัติทั่วไป ได้แก่ มีสัญชาติไทย, มีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัคร, ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต, ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ, ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
ไม่เป็นข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ,ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง ,ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออกหรือให้ออกจากงานเพราะทุจริตต่อหน้าที่ , ไม่เป็นหรือภายในระยะเวลา 3 ปีก่อนวันได้รับแต่งตั้งไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจในการจัดการหรือมีส่วนได้ส่วนเสียในนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน ผู้ร่วมทุน หรือมีประโยชน์ ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของ รฟม. เว้นแต่การเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการในนิติบุคคลดังกล่าวโดยการมอบหมายของ รฟม.
@บริหารองค์กรที่มีรายได้มากกว่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป
ส่วนคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง
ข้อ 3.2.1 มีคุณวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี หรือเทียบเท่าจากสถานศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รับรอง
3.2.2 มีความรู้ ความชำนาญเกี่ยวกับการบริหาร วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ การผังเมือง เศรษฐศาสตร์ การคลัง หรือนิติศาสตร์ และมีประสบการณ์ในด้านการบริหารองค์กรดังนี้
3.2.2.1 ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารภาคเอกชน จะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้อื่นบริหารสูงสุดของหน่วยงานที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี และต้องมีความรอบรู้และประสบการณ์ในการบริหารโครงการลงทุนขนาดใหญ่
3.2.2.2 ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการ จะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองอธิบดีหรือรองผู้บริหารสูงสุดของส่วนราชการระดับกรมหรือเทียบเท่า
3.2.2.3 ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจหรือองค์กรณ์อื่นของรัฐจะต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจหรือองค์กรนั้น
3.2.3 มีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ และมีแนวคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนากิจการของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้า ทันสมัย ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้บริการรถไฟฟ้า เป็นต้น
4. เงื่อนไขการจ้างผู้ว่าฯรฟม. มีวาระอยู่ในตำแหน่งตามสัญญาจ้างคราวแล้วไม่เกิน 4 ปี นับแต่วันที่สัญญาจ้างมีผลบังคับใช้หรือเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ แล้วแต่วาระใดจะถึงก่อน
4.2 เมื่อดำรงตำแหน่งผู้ว่ารฟม.นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติทั่วไปตามข้อ 3.1 แล้วจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีข้อลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
4.2.1 ไม่เป็นผู้บริหารหรือพนักงานของรัฐวิสาหกิจอื่นหรือกิจการอื่นที่แสวงหากำไร
4.2.2 ไม่เป็นข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้าง ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
4.2.3 ไม่เป็นผู้ตำแหน่งทางการเมือง
4.2.4 ไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญากับรฟม. หรือในกิจการที่กระทำให้แก่รฟม. หรือในกิจการที่มีสภาพอย่างเดียวกันและมีลักษณะเป็นการแข่งขันกับกิจการของรฟม. ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
4.3 การจ้างตามสัญญาจ้างไม่อยู่ในข้อบังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน
4.4 ระหว่างการดำรงตำแหน่งจะมีการประเมินผลการปฎิบัติงานทุก 6 เดือน
5.อัตราเงินเดือนและผลประโยชน์ตอบแทนของผู้ว่ารฟม. ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติประสบการณ์ของผู้สมัคร และตามที่ตกลงกับคณะอนุกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้ว่ารฟม. โดยได้รับอนุมัติจากบอร์ด รฟม. และความเห็นจากกระทรวงการคลัง
สำหรับ ผู้ว่าฯรฟม. มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในกรุงเทพกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวมทั้งในจังหวัดอื่นตามที่กำหนด โดยพระราชกฤษฎีกาหรือ<ระหว่างจังหวัดดังกล่าวโดยทำการศึกษาวิเคราะห์และจัดทำโครงการและแผนงานเกี่ยวกับกิจการรถไฟฟ้าเพื่อปรับปรุงและพัฒนาให้ทันสมัยและดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับกิจการรถไฟฟ้าและธุรกิจอื่นเพื่อประโยชน์แก่ รฟม.และประชาชนในการใช้บริการ
ผู้ว่าการ รฟม.มีหน้าที่บริหารกิจการของ รฟม.ให้เป็นไปตามกฎหมายข้อบังคับและนโยบายที่คณะกรรมการ รฟม. กำหนดและมีอำนาจในการบังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างและต้องรับผิดชอบต่อคณะกรรมการในการบริหารกิจการของรฟม.
ปัจจุบัน นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) ทำหน้าที่รักษาการแทนผู้ว่าการ รฟม. นับจากที่ นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าฯ รฟม.คนล่าสุด ครบวาระไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )