เรื่อง: ทีมข่าวการเมือง
1.แต่ละพรรคส่งผู้สมัครเท่าไร ?
- มีเพียง 2 พรรค คือเพื่อไทย (พท.) และประชาชน (ปชน.) ที่มีการส่งผู้สมัครในนามพรรค
- พท.ส่งผู้สมัครลง 16 จังหวัด (ในนามพรรคและสมาชิกพรรค) ส่วน ปชน. ส่งผู้สมัคร 17 จังหวัด
- พรรคภูมิใจไทย และพรรคอื่นๆ ไม่ส่งผู้สมัครในนามพรรค แต่สื่อหลายสำนักเชื่อมโยงผู้สมัครกลุ่ม “อิสระ” จำนวนหนึ่งที่มีความใกล้ชิดกับพรรค โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย โดยผู้ชนะเลือกตั้ง นายก อบจ.หลายคนมีความสัมพันธ์ทางการเมืองกับพรรคต่างๆ เช่น เครือญาติหรือคนในกลุ่มเป็น สส.หรือดำรงตำแหน่งในพรรคต่างๆ
- ตัวเลขสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือ ส.อบจ.พรรคที่ส่งสมัครยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้กี่ที่นั่งในแต่ละจังหวัด
2.พรรคไหนได้เท่าไร ?
มีการเลือกตั้งนายก อบจ. ทั้งหมด 47 จังหวัดทั่วประเทศ
- พรรคเพื่อไทยได้ 10 จังหวัด แบ่งได้ดังนี้
- 4 จากภาคเหนือ: เชียงใหม่, น่าน, แพร่, ลำปาง (แชมป์เก่าทั้งหมด)
- 5 จากอีสาน: นครพนม, มหาสารคาม, หนองคาย, นครราชสีมา, สกลนคร
- 1 จากภาคตะวันออก: ปราจีนบุรี
- พรรคประชาชนได้ 1 จังหวัดคือ ลำพูน
- สำหรับเครือข่ายบ้านใหญ่ที่สัมพันธ์กับพรรคอื่นๆ นั้น จำนวนไม่เป็นที่แน่ชัด แล้วแต่แนวการวิเคราะห์ของสื่อแต่ละสำนัก ตัวอย่างของสื่อใหญ่อย่างไทยรัฐระบุว่า
- เครือข่ายบ้านใหญ่-สีน้ำเงิน 14
- เครือข่ายบ้านใหญ่-พรรครวมไทยสร้างชาติ 4
- เครือข่ายบ้านใหญ่-พรรคพลังประชารัฐ 1
- เครือข่ายบ้านใหญ่-พรรคกล้าธรรม (กลุ่มธรรมนัส) 1
- เครือข่ายบ้านใหญ่-พรรคประชาชาติ 2
- เครือข่ายบ้านใหญ่-พรรคประชาธิปัตย์ 3
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
3.ทักษิณไปช่วยหาเสียงกี่ที่ ?
- ทักษิณในฐานะ ‘ผู้ช่วยหาเสียง’ เดินสายลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ที่พรรคเพื่อไทยส่ง 8 จังหวัด ได้แก่
- เชียงใหม่ (ซ้ำ 2 รอบ ช่วงเดียวกับพิธาลงพื้นที่)
- เชียงราย (ซ้ำ 2 รอบ)
- ลำพูน
- นครพนม
- บึงกาฬ
- หนองคาย
- มหาสารคาม
- ศรีสะเกษ
4.จังหวัดที่ทักษิณไปชนะกี่แห่ง ?
ใน 8 จังหวัดที่ทักษิณไปช่วยหาเสียง ผลคือ
- ชนะ 4 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่, นครพนม, มหาสารคาม, หนองคาย
- พลาดเป้า 4 แห่ง แบ่งเป็น
- 3 จังหวัดคือ เชียงราย, ศรีสะเกษ, บึงกาฬ เป็นการแพ้ให้กับ “ผู้สมัครอิสระ” ที่เป็นแชมป์เก่า นายก อบจ. จากตระกูลการเมืองต่างๆ
- 1 จังหวัดคือ ลำพูน แชมป์เก่านายก อบจ.ลงชิงรักษาเก้าอี้ในนามพรรค พท.แพ้ให้กับ ‘โกเฮง’ วีระเดช ภู่พิสิฐ ทายาท ‘โกเก๊า’ อดีตนายก อบจ.ลำพูนและอดีตประธานหอการค้าจังหวัดลำพูน บางสายวิเคราะห์ว่า เขาคือตัวแทนจากอีกหนึ่งบ้านใหญ่ในจังหวัด วีระเดชสวมเสื้อส้มลงแข่งในนาม ปชน.หลังจากร่วมงานตั้งแต่สมัยก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่และอยู่กับค่ายสีส้มเรื่อยมา
ย้อนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ทักษิณเดินทางไปช่วยผู้สมัครฯ หาเสียงนายก อบจ. 2 จังหวัดภาคอีสาน คือ อุดรธานี และ อุบลราชธานี ผลคือเพื่อไทยยังรักษาพื้นที่ไว้ได้ทั้งคู่
5.ปชน.เล็งว่าจะได้กี่จังหวัด ?
- กรุงเทพธุรกิจรายงานถึง 5 จังหวัดที่แกนนำคณะก้าวหน้าตั้งความหวังคว้าชัย คือ สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, ระยอง, ตราด, นครนายก
- ผลเลือกตั้ง ปชน.ชนะได้ที่เดียวคือ จ.ลำพูน ซึ่งถือว่าเหนือความคาดหมายหรือการวิเคราะห์ก่อนหน้า
6.จังหวัดไหนคะแนนสูสีบ้าง ?
- ลำพูน
- วีระเดช ภู่พิสิฐ (ปชน.): 109,372 คะแนน
- อนุสรณ์ วงศ์วรรณ (พท.): 103,405 คะแนน
- เชียงใหม่
- พิชัย เลิXพงศ์อดิศร (ในนามสมาชิก พท.): 379,341 คะแนน
- พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ (ปชน.): 358,386 คะแนน
- เชียงราย
- อทิตาธร วันไชยธนวงค์ (อิสระ): 249,845 คะแนน
- สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช (พท.): 230,262 คะแนน
- หนองคาย
- วุฒิไกร ช่างเหล็ก (พท.): 106,228 คะแนน
- ยุทธนา ศรีตะบุตร (กลุ่มรักหนองคาย): Ninety nine,636 คะแนน
- นครนายก
- นิดา ขนายงาม (อิสระ): 51,360 คะแนน
- จักรพันธ์ จินตนาพากานนท์ (ปชน.): forty eight,087 คะแนน
- สมุทรปราการ
- สุนทร ปานแสงทอง (กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า): 225,686 คะแนน
- นพดล สมยานนทนากุล (ปชน.): 202,659 คะแนน
- สมุทรสงคราม
- เจษฎา ญาณประภาศิริ (กลุ่มคนของประชาชน คนสมุทรสงคราม) : 30,407 คะแนน
- นันทิยา ลิขิตอำนวยชัย (ปชน.): 23,791 คะแนน
- สตูล
- สัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ (กลุ่มสตูลสันติธรรม): 56,955 คะแนน
- อูมัร อาเก็ม (กลุ่มรวมพลังสตูล): 52,650 คะแนน
- นราธิวาส
- กูเซ็ง ยาวอหะซัน (อิสระ): 187,141 คะแนน
- อับดุลลักษณ์ สะอิ (กลุ่มเปลี่ยน): 177,831 คะแนน
(ข้อมูลผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจากเว็บไซต์ไทยพีบีเอส)
7.บ้านใหญ่ (ส่วนใหญ่) ไปต่อ
ผลเลือกตั้งที่ออกมายังแสดงให้เห็นว่าในสนามการเมืองท้องถิ่น ประชาชนยังคงเลือกที่จะไปต่อกับการเมืองแบบ ‘บ้านใหญ่’ แตกต่างจากการเลือกตั้งระดับชาติ
กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า มีเครือข่ายบ้านใหญ่ 22 ที่ยังคงรักษาความเป็นเจ้าพื้นที่ได้อย่างเหนียวแน่น ดังนี้
- จ.ชลบุรี – วิทยา คุณปลื้ม แชมป์เก่า
- จ.ระยอง – ปิยะ ปิตุเตชะ
- จ.ฉะเชิงเทรา – กุลยุทธ ฉายแสง
- จ.จันทบุรี – ธนภณ กิจกาญจน์
- จ.สมุทรปราการ – สุนทร ปานแสงทอง
- จ.สมุทรสาคร – อุดม ไกรวัตนุสสรณ์
- จ.ตราด – นายวิเชียร ทรัพย์เจริญ
- จ.สิงห์บุรี – ศุภวัฒน์ เทียนถาวร
- จ.นนทบุรี – พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ
- จ.สระบุรี – สัญญา บุญ-หลง
- จ.นครนายก – นิดา ขนายงาม
- จ.ประจวบคีรีขันธ์ – สราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์
- จ.พัทลุง – วิสุทธิ์ ธรรมเพชร
- จ.สงขลา – สุพิศ พิทักษ์ธรรม
- จ.พังงา – บำรุง ปิยนามวาณิช
- จ.ภูเก็ต – เรวัต อารีรอบ
- จ.ปัตตานี – เศรษฐ์ อัลยุฟรี
- จ.มุกดาหาร – วีระพงษ์ ทองผา
- จ.แม่ฮ่องสอน – อัครเดช วันไชยวงศ์
- จ.ตรัง – บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ
- จ.สุราษฎร์ธานี – โสภา กาญจนะ
ย้อนดูผลเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 มี 8 จังหวัดที่พรรคก้าวไกล ‘แลนด์สไลด์’ ได้ สส. ยกจังหวัด คือ นนทบุรี, สมุทรปราการ ,สมุทรสงคราม ,สมุทรสาคร ,ระยอง ,จันทบุรี ,ตราด และภูเก็ต
พรรคประชาชนส่งผู้สมัครชิงนายก อบจ. 8 จังหวัดดังกล่าวหวังปักธงสีส้มลงสนามท้องถิ่นให้ได้ ผลคือ สมุทรปราการ, สมุทรสงครามถือว่าสูสี แต่ส่วนใหญ่กลุ่มตระกูลการเมืองเดิมยังรักษาพื้นที่ไว้ได้
ดร.ประเทือง ม่วงอ่อน นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ผู้ที่ทำวิจัยเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นมากว่า 10 ปีอธิบายวิธีตัดสินใจของชาวบ้านโดยอ้างอิงจากโพลในพื้นที่ที่ทำไว้นับหมื่นตัวอย่างว่า การตัดสินใจเลือกตั้ง สส.ระดับชาติ ประชาชนจะเลือกที่พรรค พร้อมทั้งดูว่าพรรคจะส่งใครเป็นนายกฯ ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นจะดูที่ ‘ตัวบุคคล’ เป็นหลัก ธรรมชาติเป็นเช่นนั้น เรียกว่าต้องการสิ่งจับต้องได้ ดูจากคนที่รู้จัก ได้เห็นการทำงานของทีมงานในพื้นที่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ที่มา ประชาไท ( prachatai.com )