สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา ‘ธรรมนูญ อมรนิมิตร' อดีตผู้จัดการ กฟภ.อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ นำรถยนต์เพื่อใช้ในกิจการส่วนรวมไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาลงโทษจำคุก 471 ปี 628 เดือน ติดจริง 50 ปี แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 38,989.65 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายธรรมนูญ อมรนิมิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำรถยนต์ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเช่าเพื่อใช้ในกิจการส่วนรวม
ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งถูกคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ลงมีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 , 11 ตาม พ.ร.ป.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2561 มาตรา 192 ประกอบ ป.อ.มาตรา 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาว่า นายธรรมนญู อมรนิมิตร จำเลยมีความผิดตามกฎหมาย ให้ลงโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 ซึ่งเป็นบทกฏหมายที่มีโทษหนักสุด รวม 157 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี และปรับ 2,100 บาท
ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม คงกระทงละ 3 ปี 4 เดือน และปรับ 1,400 บาท
รวมจำคุก 471 ปี 628 เดือน และปรับ 219,800 บาท
ในส่วนของโทษจำคุกให้มีกำหนด 50 ปี
จำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน คดีนี้ความเสียหายไม่สูงมากนัก เพื่อให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ไปรายงานตัวพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ให้ชดใช้ค่าสินไหม ทดแทน 38,989.65 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของเงินต้น
เบื้องต้น คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีการประชุมเมื่อวันที่ 20 ม.ค.2568 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7
สำหรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ บริษัทจำกัดห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
อ่านประกอบ :
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )