ประกันสังคมแจง กมธ.ติดตามงบประมาณฯ กรณีจ้างทำระบบหลังบ้าน 850 ล. ล่าช้า ยืนยันทำตามระเบียบราชการ ด้าน ‘รักชนก ศรีนอก' ลั่นกลางที่ประชุม ประกันสังคมไม่เคยส่งเอกสารให้ใครเลยหรือ หลัง สปส.บ่ายเบี่ยงไม่ให้เอกสาร-เปิดเผยข้อมูล พร้อมตั้งข้อสังเกตส่ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 การประชุม กรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ มีการประชุมร่วมกับสำนักงานประกันสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรามีโอกาสเข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุม จึงสรุปประเด็นที่น่าสนใจในการประชุมครั้งนี้ ดังนี้
น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชนและโฆษก กมธ.ติดตามงบประมาณฯ กล่าวว่า มีประเด็นที่ต้องการสอบถามทางประกันสังคม 2 ส่วน ส่วนที่ 1 ประเด็นเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการทำระบบไอทีหลังบ้านของสำนักงานประกันสังคม หรือ เว็บแอป (Internet Application) มูลค่า 850 ล้านบาท และส่วนที่ 2 ประเด็นเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลของสำนักงานประกันสังคม
นางนงค์ลักษณ์ กอวรกุล รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ตัวแทนจากกระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคม (เนื่องจากรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานมอบหมายให้ปลัดกระทรวงแรงงานมาประชุมแทน ปลัดมอบหมายให้รองปลัดกระทรวงแรงงานมาประชุมแทน และรองปลัดมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมมาประชุม) กล่าวว่า โครงการที่เสนอเกิดจากโครงการที่ไม่มีประสิทธิภาพแล้ว ขอยืนยันว่าประกันสังคมเป็นหน่วยงานรัฐ ดังนั้นกระบวนการพิจารณางบประมาณต่าง ๆ ต้องผ่านกระบวนการเดียวกันกับหน่วยงานรัฐอื่น ๆ
น.ส.มุทิตา ชูประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกันสังคม กล่าวว่า สำหรับโครงการ 850 ล้าน นั้น เป็นการพัฒนาจากระบบเดิมไปเป็นเว็บแอพแล้วก็สามารถต่อยอดไปได้อีกไกล เช่นการรวมรวบข้อมูล การเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อให้พัฒนาเท่าทันสังคมดิจิทัล เป็นต้น โดยโครงการนี้ดำเนินการจัดหาในปี 2564 สัญญามี 6 งวดงาน งวดงานที่ 1 และงวดที่ 2 เป็นการวิเคราะห์ จัดเก็บข้อมูล และออกแบบ งวดงานที่ 3-6 เป็นการพัฒนาระบบแอพพลิเคชัน 14 ระบบ โดยงวดงานที่ 6 เก็บงานต่าง ๆ และจัดส่งงาน
ในส่วนของการส่งมอบงาน ผู้รับจ้างจะสิ้นสุดการจ้างใน เดือน ธ.ค. 2566 เมื่อใกล้ถึงระยะเวลาสิ้นสุด ประกันสังคมก็ส่งหนังสือทวงถามให้ส่งงาน ซึ่งก่อนจะสิ้นสุดระยะเวลาส่งมอบงาน ทางผู้รับจ้างก็ส่งหนังสือขอใช้สิทธิ์ในเรื่องเป็นผู้ที่อยู่ในมาตรการผู้ได้รับความช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงโควิด-19 เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้เซ็นสัญญากับภาครัฐในช่วงเกิดโควิด-19 จะได้รับอานิสงค์ในการคิดค่าปรับเป็นร้อยละ 0 และระยะเวลาที่จะได้รับ จะนับจากวันที่ลงนามในสัญญาถึงวันที่มีการประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉิน ระยะเวลารวม 193 วัน เมื่อถึงวันสิ้นสุดระยะเวลาตามสัญญาจ้าง ผู้รับจ้างจึงได้รับบวกเวลาอีก 193 วัน ประกันสังคมก็รับมาวินิจฉัยว่าถูกต้องหรือไม่ ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปประกันสังคมก็ไม่อาจก้าวล่วงในส่วนของกรมบัญชีกลาง
โดยสิทธิ์ของผู้รับจ้างครบกำหนด 30 มิ.ย. 2567 และวันที่ 1 ก.ค. 2567 ต้องส่งมอบงาน แต่ผู้รับจ้างส่งงาน ในวันที่ 8 ก.ค. 2567 ซึ่งเกิดค่าปรับ 7 วัน โดยการตรวจรับงานจะแบ่งเป็นช่วง ๆ เช่น ช่วงการตรวจตัวแอพพลิเคชัน ช่วงการตรวจข้อมูล เป็นต้น ขณะนี้ใกล้จะแล้วเสร็จ แต่ถ้างานไม่มีคุณภาพก็จะไม่ตรวจรับแน่นอน ส่วนค่าปรับเป็นจำนวนเงิน จะคำนวนได้จากกรณีที่ผู้รับจ้างไม่ทำงานต่อ แต่ถ้าผู้รับจ้างทำงานต่อก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทางประกันสังคมมีการทำแผนการในการตรวจรับงาน และสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอนของการทำงาน
นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ประธานกมธ.ติดตามงบประมาณฯ ถามว่า การตรวจรับงานจะเสร็จ 100% เมื่อใด?
น.ส.มุทิตา กล่าวว่า ตามแผนคิดว่าไม่น่าต้องตรวจรับถึงปี 2568 น่าจะตรวจเสร็จเร็วกว่านั้น แต่ผลการตรวจรับงานกลับเสร็จในเดือน ม.ค. 2568 ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการตามระเบียบต่อไป แต่ในเมื่อโครงการยังไม่เสร็จสิ้น มีผลต่อหลายฝ่ายในอนาคตยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นเช่นใด ดังนั้นจึงขอนำเรียนว่าเสร็จเร็วกว่าที่คิด
นายสุรเชษฐ์ ถามว่า ตอนนี้รายงานว่าตรวจเสร็จ ม.ค. 2568 สถานะการตรวจเสร็จสิ้น 100% หรือไม่ หรือมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงหรือไม่?
น.ส.มุทิตา ตอบว่า การตรวจรับเป็นไปอย่างน่าพึงพอใจ แต่ก็พบข้อบกพร่อง
นายสุรเชษฐ์ ถามว่า ตรวจเสร็จ ม.ค. 2568 แล้วพบว่ามีข้อบกพร่อง แล้วแผนงานที่ให้ผู้รับงานไปแก้ ใช้เวลากี่วัน ตรวจรับอีกกี่วัน เป็นข้อเท็จจริงที่กมธ.น่าจะสนใจ
น.ส.มุทิตา ตอบว่า ตอนนี้สิ้นสุดในแผนการตรวจรับ แต่มีแผนใหญ่กว่านั้น ขั้นตอนต่อจากนี้จะไม่ตรวจรับงานง่าย ๆ แต่ยังไม่มีการจ่ายเงินเพราะต้องทดลองระบบ 3 ระยะ โดยเริ่มในช่วงเดือน มี.ค. ต่อไป ตามลำดับ จะจ่ายเงินเมื่องานสำเร็จตามวัตถุประสงค์ตามที่วางไว้ในแผนงาน คือ ในไตรมาศ 3 ของปี 2568 ตอนนี้จ่ายเงินของงวดที่ 1 และงวดที่ 2 ไปแล้ว เพราะส่งงานครบถ้วนตรงตามกำหนดเวลา น่าจะจ่ายไปประมาณ 45%
ต่อมาน.ส.รักชนก ขอเอกสารจากประกันสังคมจำนวน 9 รายการ โดยภายใน 2 สัปดาห์ ทางประกันสังคมจะต้องส่งเอกสารให้กับทางกมธ.ติดตามงบประมาณฯ เอกสาร 9 รายการ ได้แก่
1.เอกสาร TOR และ proposal (ข้อเสนอของเอกชนที่ยื่นต่อประกันสังคม) ของผู้ประมูลงานทั้ง 2 บริษัท เอกสารสัญญาจ้างพร้อมเอกสารประกอบสัญญาจ้างทั้งหมด
2.เอกสารการตรวจรับงาน แผนการตรวจรับและรายละเอียดทั้งหมด
3.รายละเอียดการชำระเงินรายงวด
4.193 วัน อ้างโควิด มีระเบียบกรมบัญชีกลางอย่างไร เมื่อเริ่มงานหลังโควิด
5.รายละเอียดงวดงานทั้งหมด 6 งวด
6.หนังสือติดตามโครงการที่สำนักงานประกันสังคมส่งตามงานจากเอกชน
7.หนังสือที่เจ้าของโครงการส่งมาชี้แจงเรื่องขอใช้สิทธิ์ไม่จ่ายค่าปรับ
8.แผนการจ่ายเงินทุกงวด
9.สัญญาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโครงการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่น.ส.รักชนก เปิดเผยรายการเอกสารที่จะขอจากทางประกันสังคม 9 รายการ ผู้เข้าร่วมประชุมจากประกันสังคมบางรายแสดงความกังวลและแสดงความคิดเห็นว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้เพราะจะกระทบกับหลายฝ่าย ซึ่งในการหารือประเด็นนี้ใช้เวลาค่อนข้างยาวนาน โดยประเด็นการขอเอกสารเริ่มต้นในเวลาประมาณ 15.00 น. และได้ข้อสรุปเวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งข้อสรุป คือ ทางประกันสังคมจะส่งเอกสารให้กรรมาธิการ แต่อาจจะมีการปิดชื่อบุคคลต่าง ๆ เพื่อความสบายใจของทางประกันสังคม โดยระหว่างนั้นมีบทสนทนาบางส่วนที่น่าสนใจ ดังนี้
น.ส.มุทิตา กล่าวว่า เอกสารมีแน่นอน แต่ยังสงสัยจึงขอหารือกับที่ประชุม ณ ที่นี้ เพราะโครงการนี้ยังไม่สิ้นสุด อาจจะจบลงด้วยดีหรืออาจจะเป็นคดีความ ดังนั้นเอกสารในฝั่งของคณะกรรมการที่หารือในการตรวจรับงานหรือข้อกฎหมาย เป็นต้น ถ้าเปิดเผยสู่สาธารณะจะทำให้ภาครัฐเสียเปรียบหรือไม่ ต้องหารือกับทาง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) และกรมบัญชีกลาง
นายทวีเกียรติ รองสวัสดิ์ กรรมการประกันสังคมฝ่ายนายจ้าง ในฐานะอนุกรรมการเทคโนโลยีและสารสนเทศ (IT) กล่าวว่า การให้ข้อมูลประกันสังคมของทางเราจะให้ก็ต่อเมื่อเป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น การให้ข้อมูลของบุคคลที่สามขอให้ทางฝ่ายราชการได้พิจารณาแล้วนำไปหารือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง
น.ส.รักชนก กล่าวว่า ดิฉันไม่เข้าใจว่าทำไมการเปิดเผยเอกสารที่ต้องเปิดเผยอยู่แล้ว ซึ่งเงินเหล่านั้นไม่ใช่เงินของทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ไม่ใช่เงินของหน่วยงานราชการ แต่เป็นเงินของผู้ประกันตน ของนายจ้าง รวมถึงเงินของรัฐ ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน “ท่านเป็นอะไร ทำไมถึงเปิดเผยข้อมูลไม่ได้ ดิฉันก็ขอตามที่กฎหมายเปิดเผยได้” น.ส.รักชนก กล่าว
น.ส.มุทิตา กล่าวว่า proposal คืออะไร TOR ใช่หรือไม่?
นายสุภอรรถ โบสุวรรณ ที่ปรึกษากมธ.ติดตามงบประมาณฯ กล่าวว่า proposal คือข้อเสนอของเอกชนที่ยื่นเสนอราคาและเทคนิค เป็นคนละส่วนกับ TOR จึงเสนอให้น.ส.รักชนก ให้ขอเอกสารทั้ง TOR และ proposal ซึ่งกมธ.แห่งนี้เคยเรียกข้อเสนอโครงการมาหลายโครงการแล้ว แล้วก็ไม่ได้มีผลอะไร ดังนั้นขอให้สบายใจ
จากนั้นมีผู้เข้าร่วมประชุมหลายรายกล่าวถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่าสำนักงานประกันสังคมสามารถเปิดเผยข้อมูลตามที่น.ส.รักชนกขอ รวมทั้งสามารถเปิดเผยข้อมูลมติในการประชุมต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้
ต่อมา น.ส.รักชนก กล่าวว่า “ท่าน (ประกันสังคม) ไม่เคยส่งเอกสารให้ใครเลยหรือ ดิฉันถามแค่นี้ อันนี้ not original (ขั้นพื้นฐาน) มาก ประชุมกรรมาธิการมาจะ 2 ปี ขอไปไม่เคยมีหน่วยงานไหนมีปัญหา ต่อให้เป็นกองทัพด้วย มีประกันสังคมหน่วยงานเดียว ท่านเป็นอะไรถึงปิดขนาดนี้ ดิฉันถามตรง ๆ ทั้งที่ท่านเป็นฝ่ายราชการ ไม่ใช่เงินของท่านแต่เป็นเงินของผู้ประกันตน เงินของนายจ้าง ท่านเป็นอะไร ดิฉันไม่เข้าใจ ที่เราต้องมานั่งบอกอันไหนให้ไม่ให้ แปลว่าที่ผ่านมาท่านไม่เคยให้ (เอกสาร) ใครเลยหรือไม่ ถูกหรือไม่ ถ้าท่านเคยให้ไม่ต้องมานั่งถามอย่างนี้ ประกันสังคมมีมาตั้งแต่ปี 33 จนกระทั่งปี 67 ท่านไม่เคยให้เอกสารใครเลยหรือ”
นายทวีเกียรติ กล่าวว่า ประกันสังคมเป็นระบบไตรภาคี กำหนดมาจาก UN ทำให้การเปิดเผยต่าง ๆ แต่ถ้าสองฝ่าย (นายจ้างและภาครัฐ) ในไตรภาคีไม่เห็นด้วยก็เปิดเผยไม่ได้
นายสหัสวัต คุ้มคง สส.พรรคประชาชน กล่าวว่า โครงการของประกันสังคมไม่ได้เป็น pension fund (กองทุนบำเหน็จบำนาญ) แบบของ UN อำนาจการตัดสินใจของบอร์ดประกันสังคมน้อยกว่าเลขาประกันสังคม น้อยกว่าราชการ การดำเนินการตัดสินใจในการให้เอกสารเป็นหน้าที่ของฝ่ายราชการ ไม่สามารถอ้างไตรภาคีในบริบทนี้ได้
ภายหลังการประชุมกมธ.ติดตามงบประมาณเสร็จสิ้น น.ส.รักชนก ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ประชุมกมธ.วันนี้เป็นการประชุมกมธ.ที่เหนื่อยมาก ไม่เคยประชุมกมธ.ครั้งไหนแล้วมีหลายอารมณ์เช่นนี้มาก่อน ทั้งหงุดหงิด โมโห โกรธ แล้วก็ไม่เห็นด้วยเท่านี้มาก่อน ถ้าใครนั่งอยู่ในห้องประชุมก็คงรู้สึกเหมือนกัน ไม่ว่าจะขอเอกสารที่เล็กน้อยหรือเอกสารที่เปิดเผยอยู่แล้วด้วย สำนักงานประกันสังคมและอนุกรรมการ IT ไม่ยินดีให้ข้อมูลเลย ต้องให้หลาย ๆ หน่วยงานมายืนยันว่าเปิดเผยได้ ถึงจะยอมบอกว่าจะเปิดเผย ส่วนเรื่อง Internet App ดิฉันอยากให้เสร็จ เพราะเข้าใจดีว่าเจ้าหน้าที่ประกันสังคมที่อยู่ทั่วประเทศมีความยากลำบากในการใช้ระบบแบบเก่า แต่พอถามข้อมูลไปก็ไม่ได้รับการตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งสำนักงานประกันสังคมและอนุกรรมการ IT พูดออกมาเลยว่าไม่อยากจะเปิด มีตัวแทนฝ่ายนายจ้างไม่ยินดีจะเปิดเผยข้อมูลใด ๆ อยากให้ลองอ่าน พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารดู วันนี้ที่ประชุมไปไม่กระจ่างแต่อย่างใด แต่เป็นการขอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งโครงการ 850 ล้าน internet app ในตอนนี้พบข้อพิรุธต่าง ๆ รวมทั้งขอเอกสารอะไรก็ไม่ยอมให้ ตนเองจึงตั้งข้อสังเกตส่งไปยัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ให้มาดูโครงการและอยากให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมาดูโครงการนี้ว่าทำไมถึงเปิดเผยข้อมูลไม่ได้
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุยกัยวันนี้ ชี้ชัดแล้วว่ามีปัญหาในสำนักงานประกันสังคม และดิฉันเข้าใจว่าต่อจากนี้จะขอข้อมูลยากขึ้น อยากขอให้ผู้ประกันตนจับตาดูให้ดี จับตาดูว่าเรื่องยังไม่จบแค่นี้แน่นอน ทางฝั่งบอร์ดนายจ้างบอกว่าดิฉันทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในกองทุนประกันสังคมแล้วกองทุนจะล้ม แต่สิ่งที่จะทำให้กองทุนประกันสังคมอยู่ยั่งยืนยง ท่านต้องทำให้กองทุนตรวจสอบได้ ถ้ากองทุนไม่โปร่งใสตรวจสอบไม่ได้ต่างหากที่จะทำให้กองทุนล้ม” น.ส.รักชนก กล่าว
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )