ภาพปก: แฟ้มภาพ
สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ชี้แจงกรณีตีตกร่างกฎหมายเกี่ยวกับเงินบำนาญจำนวน 3 ฉบับ ระบุว่าไม่ได้เป็นการเล่นการเมืองตามที่ฝ่ายค้านกล่าวหา แต่เป็นเพราะการทำบำนาญ 3,000 บาทต่อเดือนต้องใช้งบมหาศาลถึง 4 แสนล้านบาท หน่วยงานและรัฐบาลจึงไม่สามารถทำได้ ขณะที่ภาคประชาชนมองว่ารัฐบาลคงไปทุ่มแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงมีแนวโน้มที่จะทำนโยบายหวยเกษียณ
21 ก.พ. 2568 สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านแสดงความผิดหวังที่รัฐบาลตีตกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บำนาญพื้นฐานถ้วนหน้า, พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติและสวัสดิการผู้สูงอายุ และ พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ว่า กรณีฝ่ายค้านกล่าวหานายกรัฐมนตรีว่าการที่ไม่รับร่างดังกล่าวเป็นเรื่องการเมือง ว่า ข้อเท็จจริงคือ พ.ร.บ.ทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเงิน เมื่อมีการส่งมาเราจึงได้ส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทุกกระทรวง ทุกหน่วยงาน ไม่ให้การรับรอง เนื่องจากการทำบำนาญประชาชน 3 พันบาท ต้องใช้งบประมาณมหาศาลถึง 4 แสนล้านบาท ทางหน่วยงานและรัฐบาลไม่สามารถทำให้ได้ ไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยกับกฎหมายแบบนี้ แต่ผู้ปฏิบัติไม่สามารถได้ด้วยกรอบจำกัดทางการเงิน
สมคิดยืนยันว่าไม่ใช่เกมการเมือง เพราะปัจจุบันมี พ.ร.บ.ผู้สูงอายุอยู่แล้วที่จะแก้ไขเพื่อจะให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ 1 พันบาท โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เห็นด้วย
สมคิดยืนยันด้วยว่า ไม่ใช่กฎหมายของฝ่ายค้านอย่างเดียวที่รัฐบาลไม่รับร่าง กฎหมายของรัฐบาลก็มี ยกตัวอย่าง ร่างกฎหมายของ สส.พรรคเพื่อไทย ทั้งกฎหมายกฐานะ อบต.เป็นเทศบาล หรือ พ.ร.บ.ยกระดับเศรษฐกิจภาคเหนือ เมื่อหน่วยงานหลักไม่เห็นด้วยก็ตีตกไปด้วยเหตุผลเดียวกัน ไม่ว่าจะฝ่ายไหน
สืบเนื่องจาก แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ให้คำรับรองร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับบำนาญประชาชน 3 ฉบับ และกฎหมายสหภาพแรงงานอีก 1 ฉบับ
เว็บไซต์รัฐสภารายงานสถานะของร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการมีบำนาญประชาชน 3 ฉบับจากทั้งหมด 4 ฉบับ ประกอบด้วย
- ร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติและสวัสดิการผู้สูงอายุ พ.ศ. …. เสนอโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์
- ร่าง พ.ร.บ.บำนาญพื้นฐานถ้วนหน้าฯ เสนอโดย เซีย จำปาทอง
- ร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. …. เสนอโดย ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์
ปัจจุบันจึงเหลือเพียง ร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุและบำนาญพื้นฐานแห่งชาติ ซึ่งมีรายชื่อของภาคประชาชนสนับสนุน 43,826 รายชื่อ ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะถูกปัดตกด้วยหรือไม่
โดยหลักการกฎหมายฉบับประชาชน คือ รัฐต้องจัดสรรบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้าให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป อัตราไม่ต่ำกว่าเส้นความยากจนที่กำหนดโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปรับเพิ่มทุกสามปี จ่ายตรงให้ประชาชน
ภาคประชาชนมองทุ่มแจกเงินหมื่น
“ถ้าเขาปัดตกมาสามฉบับ ฉบับที่สี่ (เสนอโดยภาคประชาชน) น่าจะไม่เหลือแหละ”
สุรีรัตน์ ตรีมรรคา หนึ่งในผู้ริเริ่มผลักดันให้รัฐจัดสวัสดิการในรูปแบบของบำนาญประชาชน เพื่อมาเป็นหลักประกันด้านรายได้ให้กับผู้สูงอายุในนาม ‘เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ’ มาตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน กล่าวกับประชาไทหลังจากที่มีการตีตกร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับว่า ไม่แปลกใจกับผลที่ออกมาในครั้งนี้ เพราะเป็นกฎหมายที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ส่วนอีกร่างฯ ที่เสนอโดยภาคประชาชนก็น่าจะถูกตีตกเช่นเดียวกัน แต่ว่าจดหมายแจ้งยังมาไม่ถึง
“ (รัฐบาล) เขาไม่ทําอยู่แล้ว เพราะว่ามันเป็นกฎหมายที่ต้องใช้เงินเยอะ…เขาไม่อยากทําเพราะว่านโยบายเขาก็ไม่ได้คิดจะทํา เขาจะแจกเงินหมื่นซึ่งเขาก็ทําไปแล้ว แล้วก็ใช้เงินเท่ากัน แล้วก็จบ จ่ายเงินเรียบร้อยซื้อเสียงอะไรได้ ได้ใจคนไปเรียบร้อยแล้วก็จบแล้วไม่ต้องทํา”
สุรีรีตน์ กล่าวอีกว่า การทําบํานาญถ้วนหน้าในฐานะสวัสดิการเป็นเรื่องที่ต้องทําระยะยาว และถ้าผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นๆ บํานาญพื้นฐานตรงนี้ก็จะเพิ่มขึ้น พอใช้งบมหาศาล รัฐบาลก็อาจไม่อยากทำ เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้กำลังทำนโยบายเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต และมีแนวโน้มจะทำนโยบายหวยเกษียณ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ที่มา ประชาไท ( prachatai.com )