ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิฯ เผยกองทัพภาค 3 แจ้งความเอาผิดนักวิชาการสหรัฐฯคดี 112

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิฯ เผยกองทัพภาค 3 แจ้งความเอาผิดนักวิชาการสหรัฐฯคดี 112 ขณะเจ้าตัวเตรียมเข้าพบ สภ.พิษณุโลก 8 เม.ย.นี้ เผยก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยแฉธุรกิจลูก ‘มาริษ' เอี่ยวรัฐบาลทหารเมียนมา

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งจากทางคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ว่า นายพอล แชมเบอร์ส (Dr. Paul Chambers) นักวิชาการสัญชาติอเมริกัน ซึ่งประจำอยู่ที่สถานประชาคมอาเซียนศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ถูกศาลจังหวัดพิษณุโลกออกหมายจับในคดีตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยมีกองทัพภาคที่ 3 เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์ในคดี

ในช่วงเช้าวันนี้ (4 เม.ย.) ทางคณะสังคมศาสตร์ ได้รับหนังสือจาก พันตำรวจเอกวัชรพงษ์ สิทธิรุ่งโรจน์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองพิษณุโลก เรื่องการแจ้งการดำเนินคดีต่อบุคลากรในมหาวิทยาลัย โดยมีข้อมูลระบุว่า ทางกองทัพภาคที่ 3 ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ ดร.พอล เวสลีย์ แชมเบอร์ส ในความผิดฐาน “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน, ทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร”

โดยคดีดังกล่าว ศาลจังหวัดพิษณุโลกได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้ว ตามหมายจับที่ จ.245/68 ลงวันที่ 31 มี.ค. 2568 จากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยนเรศวร

ทางตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก จึงขอให้ทางมหาวิทยาลัยประสานแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบและเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ นายพอล ยังไม่เคยได้รับหมายเรียกใด ๆ มาก่อน หลังได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าว นายพอล พร้อมทนายความ ได้ประสานนัดหมายกับทางตำรวจ โดยเตรียมจะเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ในวันที่ 8 เม.ย. 2568 เวลาประมาณ 9.00 น. โดยยังต้องติดตามรายละเอียดและข้อกล่าวหาในคดีต่อไป

ทั้งนี้ นายพอล เป็นนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ที่ทำงานวิชาการด้านไทยศึกษา โดยเฉพาะศึกษาบทบาท อำนาจ และความเปลี่ยนแปลงของกองทัพไทยมาอย่างยาวนาน รวมทั้งบทบาทในเชิงเปรียบเทียบกับกองทัพประเทศต่าง ๆ มีหนังสือสำคัญตีพิมพ์ อาทิเช่น “Praetorian Kingdom: A History of Protection power Ascendancy in Thailand”, “Khaki Capital: The Political Financial system of the Protection power in Southeast Asia”

และล่าสุดไม่นานมานี้มีกรณีที่นายพอลได้นำเสนอข้อมูลธุรกิจทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ของนาย‘กุลเชษฐ์ เสงี่ยมพงษ์’ บุตรชายนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร

โดยนายพอลได้อ้างอิงข้อมูลจากองค์กร Justice For Myanmar หรือ JFM ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ที่ระบุว่าบริษัทหลั่งแสง (Hlaing Sang Company) ซึ่งเป็นบริษัทนายนายกุลเชษฐ์เข้าไปบริหารนั้นมีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลทหารเมียนมา

อ่านประกอบ