‘มหาดไทย' ถาม ‘สมช.' 5 แหล่งขายไฟฟ้าให้เมียนมา จุดไหนมีแหล่งอาชญากรรม สมช.แย้มเตรียมตอบกลับสัปดาห์หน้า
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 31 มกราคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่ มท.0211.5/2022 ถึงเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เรื่อง ขอสอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงในพื้นที่การจำหน่ายพลังงานให้กับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
รายละเอียดระบุว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2539 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 1/2539 (ครั้งที่ 55) เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2539 ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านในบริเวณหมู่บ้านที่ใกล้กับเขตชายแดนของประเทศไทย โดยไม่ต้องขออนุมัติในระดับนโยบายอีก แต่ทั้งนี้ให้นำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเพื่อทราบ ยกเว้นจะมีประเด็นนโยบายที่สำคัญให้เสนอเพื่อพิจารณา” และตามข้อสั่งการในคราวการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ฑ.๕. 2567 ให้กระทรวงมหาดไทยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการระงับการให้บริการสาธารณูปโภคข้ามพรมแดนที่มีการตรวจพบว่าได้นำสาธารณูปโภคไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ต่อไปนั้น
ตามที่มีประเด็นปัญหาเรื่องที่มีเครือข่ายยาเสพติด การฟอกเงิน แก๊งคอลเซ็นเตอร์การค้ามนุษย์ และอื่น ๆ ในประเทศใกล้เคียงซึ่งมีการใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทยที่จ่ายไฟโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ในบริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และบริเวณอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งส่งส่งผลกระทบต่อ
ความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของทั้งสองประเทศ นั้น
ปัจจุบัน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีจุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณชายแดนประเทศไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จำนวน 5 จุดซื้อขาย ได้แก่
1. จุดซื้อขายบริเวณบ้านเจดีย์สามองค์ – เมืองพญาตองซู รัฐมอญ โดยบริษัท Mya PanInvestment and Manufacturing Company Restricted เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
2. จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านเหมืองแดง – เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน โดยบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป(ทีแอนด์อี) จำกัด เป็นผู้ได้รับสับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
3. จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย – พม่า – เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน โดยบริษัทอัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัด เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
4. จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย – พม่า แห่งที่ 2 – อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยงสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยบริษัท Nyi Naung Oo Company Restricted และ บริษัท Enova GridEnterprise (Mvanmar) Company Restricted เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพาพเมียนมา
5. จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านห้วยม่วง – อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง โดยบริษัท Shwe MyintThaung Yinn Commerce and Manufacturing Company Restricted (SMTY) เป็นผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
ในการนี้ กระทรวงมหาดไทยจึงขอเรียนสอบถามสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติว่าในพื้นที่ 5 จุดซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าวที่จุดไหนบ้าง มีเครือข่ายยาเสพติด การฟอกเงิน แก๊งคอลเซ็นเตอร์การค้ามนุษย์ และอื่นๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของประเทศหรือไม่ อย่างไร เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารถนาในการงดจ่ายกระแสไฟ จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
ขอแสดงความนับถือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
@สมช.รวลบรวมข้อมูลส่ง มท. สัปดาห์หน้า
รายงานข่าวจากสมช.เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า หลังจากได้รับหนังสือฉบับดังกล่าวแล้ว สมช.จะใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลและส่งกลับไปให้กระทรวงมหาดไทย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคภายในสัปดาห์หน้า เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อมีมติทบทวนมติครม.เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2539 ต่อไป
ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา
@มอบ เลขาสมช. รับฟังความเห็นทุกฝ่าย คาด 1 เดือนจบ
นายมาริษยอมรับว่า ในที่ประชุมมีการหารือเรื่องการตัดไฟไปเมียนมา ส่วนจะมีการตัดสินใจอะไร อยากให้ส่วนที่เกี่ยวข้องหารือรายละเอียดก่อน โดยมอบให้นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ก่อนที่จะมีการตัดสินใจ
เมื่อถามว่าหน่วยงานใดจะเป็นเจ้าภาพหลัก เพราะขณะนี้มีการโยนกันไปมาของหน่วยงาน นายมาริษกล่าวว่า คณะอนุกรรมการมีการมอบหมายงานให้ทางเลขาฯ สมช.ไปประชุมต่อ ก่อนจะนำความเห็นให้ที่ประชุมคณะกรรมการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) คณะใหญ่เป็นผู้พิจารณาตัดสินใจเป็นคนสุดท้าย
ส่วนจะใช้ระยะเวลานานหรือไม่ นายมาริษระบุว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยวางไทม์ไลน์ไว้ไม่เกิน 1 เดือน พร้อมย้ำว่าต้องฟังเหตุผลและความสมดุลเพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่าย
เมื่อถามว่ามีการเปิดเผยข้อมูล มีพลตำรวจอักษรย่อ ต.ไปเป็นหุ้นส่วนกับบ่อนการพนันในฝั่งนั้น จะมีการตรวจสอบหรือไม่ นายมาริษยอมรับว่าจะต้องมีการตรวจสอบ เพราะทุกอย่างจะต้องมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ทั้งหมด
ส่วนที่ กฟภ.ได้มีการส่งทำหนังสือไปยังกรมเอเชียตะวันออก แต่ไม่ได้รับการตอบรับ นายมาริษชี้แจงว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ก่อนย้ำไม่ว่าจะเรื่องอะไร ขอให้นำสู่ที่ประชุม เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อน เพราะทุกอย่างมีหลายด้าน ต้องบูรณาการข้อมูลให้ชัดเจนก่อน
อ่านประกอบ
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )