เล็งรื้อใหญ่โครงสร้างสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติให้ทันสมัยมีประสิทธิภาพ เร่งคดีใหญ่-สำคัญให้รวดเร็ว ทำคดีอย่างเป็นระบบ ไม่แยกส่วน ตั้ง ‘ประภาศ คงเอียด’เป็นประธานอนุกรรมการ ‘สำโรจน์ พึงรำพรรณ’พร้อมทีมเข้าร่วม
แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา . ว่า นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีนโยบายที่จะรื้อและปรับปรุงโครงสร้างการทำงานของสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพราะที่ผ่านมาการทำงานค่อนข้างเชื่องช้า มีคดีสำคัญและคดีใหญ่ๆตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก
“คดีสำคัญๆหลายคดี ทำเป็นขบวนการและเชื่อมโยงกัน แต่กลับแยกสำนวนและมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบกลับไปทำ ไม่ได้เชื่อมโยงให้เห็นภาพใหญ่ เช่น คดีทุจริตจัดซื้อยาปราบศัตรูพืชในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายจังหวัดมูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท บางสำนวนมีคำพิพากษาแล้ว โดนยึดทรัพย์ไปแล้ว บางสำนวนชี้มูลแล้ว แต่อีกหลายสำนวนยังทำไม่เสร็จ เช่นเดียวกับคดีทุจริตสร้างสนามฟุตซอล กระจัดกระจายทำเป็นรายจังหวัดค่อนข้างล่าช้า”แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในการปรับปรุงโครงสร้างครั้งนี้นายสุชาติได้มีคำสั่งลงวันที่ 7 มีนาคมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการและหน้าที่และอำนาจของส่วนราชการในสังกัดสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเพื่อปรับเปลี่ยนองค์กรให้มีความทันสมัยและประสิทธิภาพในการบริหารราชการ และเพื่อให้การปฏิบัติราชการของคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ บรรลุภารกิจและหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 โดยมี นายประภาศ คงเอียด กรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็น ประธานอนุกรรมการ
อนุกรรมการอื่นอีก 21 คนอาทิ นายอธิโชค วินทกร ที่ปรึกษาประธานกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, นายสุรเชษฐ์ บุษบกแก้ว เลขานุการประธานกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ,นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ,นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
นายพัฒนพงศ์ จันทร์เพ็ชรพูล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ,นายเกียรติศักดิ์ พุฒพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ,นายณัฏฐภพ ตุลยกุลโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐวิสาหกิจ 1 ,นายศักดิ์ชัย จันทร์แสงวัฒนา ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง ,ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย ผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากรบุคคล เป็น อนุกรรมการและเลขานุการ สำหรับอำนาจหน้าคณะอนุกรรมการมี ดังนี้
1. ดำเนินการศึกษาวิเคราะห์ จัดทำข้อมูล และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดระเบียบโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการในสังกัดสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ให้มีประสิทธิภาพและเป็นองค์กรที่ทันสมัย รองรับการบริหารราชการแผ่นดินและกฎหมายหรือระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
2. ดำเนินการศึกษาวิเคราะห์ จัดทำข้อมูล และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาปรับปรุงประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่องการแบ่งส่วนราชการและหน้าที่และอำนาจของส่วนราชการในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 และระเบียบ ข้อกำหนด ข้อบังคับ ประกาศ หลักเกณฑ์และคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
3. เมื่อดำเนินการศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับการจัดระเบียบโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการในสังกัดสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ แล้วเสร็จ หากมีกรณีจำเป็นที่จะต้องแก้ไขระเบียบ ข้อกำหนด ข้อบังคับ ประกาศหลักเกณฑ์และคำสั่ง ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคล หรือกำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดสรรหรือการโยกย้ายสับเปลี่ยนอัตรากำลังบุคลากร ให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับการแบ่งส่วนราชการให้คณะอนุกรรมการดำเนินการเสนอคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคล แล้วแต่กรณี ไปในคราวเดียวกัน
4. เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการในสังกัดสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
5. เสนอแนะการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการในสังกัดสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
6. แต่งตั้งคณะทำงานหรือบุคคลเพื่อดำเนินการใด ๆ ตามที่เห็นควร
7. ดำเนินการอื่นตามที่คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มอบหมาย
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )