เปิดแผนการฟื้นฟูฉนวนกาซาของโลกอาหรับ ที่ใช้คานข้อเสนอของทรัมป์

ที่มาของภาพ : EPA

สภาพความเสียหายในย่านหนึ่งของกาซาเมื่อเดือน ก.พ.

Article info

  • Creator, ยัสมิน ชาฮีน
  • Role, บีบีซี แผนกภาษาอาหรับ
  • Reporting from กรุงไคโร อียิปต์

อียิปต์และหลายประเทศในโลกอาหรับกำลังดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูกาซา เพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ยังคงอยู่ในพื้นที่และไม่ต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน พวกเขายังพยายามจัดตั้งกลไกการปกครองฉนวนกาซาโดยไม่ให้กลุ่มฮามาสเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง

นี่เป็นการตอบโต้ข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ต้องการย้ายชาวปาเลสไตน์ไปยังอียิปต์ จอร์แดน และอาจรวมถึงประเทศอื่น ๆ รวมถึงการเข้าควบคุมฉนวนกาซาและเปลี่ยนให้เป็นสิ่งที่เขาเรียกว่า “ริเวียร่าแห่งตะวันออกกลาง” (Riviera of the Center East)

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะนี้มีข้อเสนอเกี่ยวกับกาซาอย่างน้อย 4 ฉบับ แต่ดูเหมือนว่าข้อเสนอของอียิปต์จะเป็นรากฐานหลักสำหรับความพยายามของชาติอาหรับที่จะนำเสนอทางเลือกแทนแผนของทรัมป์

แหล่งข่าวของบีบีซีกล่าวว่า รัฐบาลอียิปต์ใกล้จะสรุปรายละเอียดทางเทคนิคของแผน ซึ่งรวมถึงการจัดการกับซากปรักหักพัง การฟื้นฟูพื้นที่กาซา การกำหนดวิถีชีวิตของประชาชนปาเลสไตน์ในช่วงฟื้นฟู และกลไกการปกครองหลังสงคราม อย่างไรก็ตาม ยังมีการถกเถียงในประเด็นอนาคตของกลุ่มติดอาวุธในกาซา โดยเฉพาะกลุ่มฮามาสและกลุ่มอิสลามิก ญิฮาด

อียิปต์ระบุว่าจะพัฒนาแผนนี้โดยร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่แหล่งข่าวชาวอียิปต์ยังบอกกับบีบีซีด้วยว่า องค์การสหประชาชาติ (UN) และสหภาพยุโรป (EU) จะมีบทบาทในแผนนี้ด้วย

and continue finding outเรื่องแนะนำ

เรื่องแนะนำ

ขณะเดียวกันรัฐบาลอียิปต์กำลังหารือร่วมกับหลายประเทศในโลกอาหรับ รวมถึงจอร์แดนและซาอุดีอาระเบีย เกี่ยวกับรายละเอียดของแผนดังกล่าว เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมระดับภูมิภาคที่กรุงริยาดในวันที่ 21 ก.พ. ซึ่งอาจมีการเชิญให้องค์การบริหารปาเลสไตน์หรือ พีเอ (Palestinian Authority) เข้าร่วมด้วย

หลังจากนั้นมีแนวโน้มว่าจะมีการจัดงานประชุมสุดยอดอาหรับฉุกเฉินที่กรุงไคโร ซึ่งแต่เดิมกำหนดไว้ในวันที่ 27 ก.พ. แต่ถูกเลื่อนออกไปด้วยเหตุผลด้านโลจิสติกส์ และยังไม่ได้กำหนดวันใหม่

ที่มาของภาพ : Reuters

ผู้คนเดินทางทยอยเดินทางกลับบ้านของตนในเขตกาซาตอนเหนือ ช่วงเดือน ม.ค.

แผนจะเป็นอย่างไร หากไม่ต้องอพยพคนจำนวนมาก ?

แหล่งข่าวในอียิปต์เปิดเผยกับบีบีซีว่า มีการหารือกันในหมู่ชาติอาหรับเพื่อเตรียมจัดการประชุมระดมทุนฟื้นฟูกาซาในอนาคต ซึ่งจะมีตัวแทนจากชาติยุโรปเข้าร่วมหลายประเทศ โดยระบุว่าแผนของอียิปต์มุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูกาซาและแบ่งฉนวนกาซาออกเป็น 3 เขตมนุษยธรรม (humanitarian zones) แต่ละเขตจะมีค่ายพักพิงขนาดใหญ่ 20 แห่งสำหรับประชาชนอยู่อาศัย โดยมีการจัดสรรสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น น้ำและไฟฟ้า

ตามแผนนี้ จะมีการนำบ้านพักเคลื่อนที่และเต็นท์จำนวนหลายหมื่นหลังเข้ามาในพื้นที่ที่ปลอดภัยเพื่อให้ผู้คนอาศัยอยู่เป็นเวลา 6 เดือน พร้อม ๆ กับการเคลียร์ซากปรักหักพังที่เกิดจากสงคราม อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับของอิสราเอลในช่วงแรกของการหยุดxิง

แผนจะเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการอนุญาตให้มีการลำเลียงเชื้อเพลิงและวัสดุก่อสร้างเข้าสู่กาซาอย่างต่อเนื่อง

ตามแผนของอียิปต์ การฟื้นฟูจะได้รับเงินทุนจากผู้บริจาคทั้งชาติอาหรับและนานาชาติ โดยจะมีบริษัทก่อสร้างข้ามชาติประมาณ 50 แห่งเข้ามาดำเนินการ เพื่อสร้างที่พักอาศัยที่ปลอดภัยภายในเวลา 18 เดือนในทั้ง 3 เขตดังกล่าว และจะมีคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยตัวแทนชาติอาหรับและนานาชาติเป็นผู้บริหารจัดการงบประมาณ

ข้อเสนอยังรวมถึงการสร้างเขตกันชน (buffer zone) และกำแพงสกัดการขุดอุโมงค์ตามแนวพรมแดนระหว่างกาซากับอียิปต์ ก่อนจะรื้อถอนซากปรักหักพังและจัดตั้งค่ายพักพิงชั่วคราว 20 แห่งในพื้นที่ตอนเหนือ ตอนกลาง และตอนใต้ของฉนวนกาซา

ดร.ทาเร็ก อัล-นาบาราวี นายกสมาคมวิศวกรอียิปต์ บอกกับบีบีซีว่า แผนอาจใช้เวลาประมาณ 3-5 ปีในการดำเนินการ เนื่องจากต้องประสานงานกับหลายฝ่ายและใช้ต้นทุนสูง

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ประกาศว่าจะไม่ยอมให้มีการนำบ้านพักเคลื่อนที่และอุปกรณ์ก่อสร้างเข้าฉนวนกาซา อ้างเหตุผลด้านความมั่นคง แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นเงื่อนไขหนึ่งในข้อตกลงหยุดxิงก็ตาม

ที่มาของภาพ : Getty

รถบรรทุกจำนวนมากที่บรรทุกบ้านที่ปรับมาจากตู้คอนเทนเนอร์และอุปกรณ์ก่อสร้างหนัก ส่งมาจากอียิปต์ไปกาซา จอดเรียงรออยู่ฝั่งอียิปต์

อนาคตของฮามาสจะเป็นอย่างไร

แหล่งข่าวจากอียิปต์รายหนึ่งระบุว่า ประเด็นที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้แต่สำคัญมากที่สุดคือ อนาคตของกลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ ในฉนวนกาซา

แหล่งข่าวอธิบายว่า หนึ่งในข้อเสนอของแผนอียิปต์คือ ให้กลุ่มเหล่านี้วางอาวุธในครั้งที่มีการประกาศจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ตามพรมแดนก่อนสงครามปี 1967 โดยนครเยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวง และจะมีการกำหนดเขตกันชน (ซึ่งยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะตั้งอยู่ที่ใด) เพื่อสร้างความมั่นใจแก่อิสราเอลว่าจะไม่มีภัยคุกคามมาจากกาซา

ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ข้อเสนอยังรวมถึงการจัดตั้งคณะกรรมการปกครองชาวปาเลสไตน์โดยไม่มีฮามาสเข้าร่วม และมีการส่งกำลังหรือเจ้าหน้าที่ในกรอบอาหรับและนานาชาติเข้าไปช่วยเหลือคณะกรรมการชั่วคราว

ก่อนหน้านี้ ฮามาสเคยประกาศว่ายินดีสละการปกครองกาซาให้แก่คณะกรรมการแห่งชาติ แต่ต้องการมีส่วนร่วมในการเลือกบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการ และไม่ยอมรับการวางกำลังทหารต่างชาติถ้าไม่ได้รับความเห็นชอบจากฮามาส

แหล่งข่าวอียิปต์คนดังกล่าวย้ำด้วยว่า ตามแผนนี้ ชาติอาหรับจะสนับสนุนทางการปาเลสไตน์ในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ โดยทำงานร่วมกับสหภาพยุโรป

แผนที่แสดงความเสียหายต่อกาซาผ่านจุดสีแดง นับตั้งแต่เริ่มสงครามระหว่างฮามาสกับอิสราเอลเมื่อเดือน ต.ค. 2023 มาจนถึงเดือน ม.ค. 2025

แล้วแผนของทรัมป์เป็นอย่างไร ?

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงหลายครั้งถึงแนวคิดที่จะย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซา โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเปลี่ยนพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นเขตลงทุนการท่องเที่ยว และเป็นประโยชน์แก่ชาวปาเลสไตน์เองเพราะจะได้ไม่ต้องอยู่อาศัยท่ามกลางซากปรักหักพัง ทรัมป์ถึงกับขู่จะยุติความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและทางทหารแก่ทั้งอียิปต์และจอร์แดน หากสองประเทศนี้ไม่ยอมรับชาวปาเลสไตน์

แดน เพอร์รี อดีตบรรณาธิการประจำภูมิภาคตะวันออกกลางของสำนักข่าวเอพี ซึ่งตอนนี้อยู่ในกรุงไคโร เขียนบทความในหนังสือพิมพ์ Jerusalem Put up ของอิสราเอลว่า แผนของทรัมป์ในการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา เป็นการกดดันประเทศอาหรับและชาวปาเลสไตน์ในกาซาให้กำจัดฮามาส รวมถึงพยายามตัดช่องทางเงินทุนของฮามาสจากชาติอาหรับ โดยเฉพาะกาตาร์

ภายหลังการพบปะระหว่างทรัมป์กับกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 ของจอร์แดนที่กรุงวอชิงตัน แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า กษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 ได้ตรัสให้ทรัมป์ทราบอย่างชัดเจนว่าพระองค์ทรงมีความประสงค์ให้ชาวปาเลสไตน์พำนักอยู่ในกาซาระหว่างกระบวนการฟื้นฟู ขณะที่ทรัมป์ยังคงต้องการให้มีการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาอย่างเป็นทางการ

เพอร์รีเห็นว่า ทรัมป์อาจยอมให้ชาวปาเลสไตน์อยู่ในกาซา หากได้รับการสนับสนุนงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการฟื้นฟู รวมถึงการกำจัดกลุ่มฮามาส

อดีต บก. สำนักข่าวเอพีรายนี้ยังเชื่อว่า อาจมีการจัดตั้งรัฐบาลพลเรือนแบบเทคโนแครตขึ้นในกาซา โดยจะเชื่อมโยงกับทางการปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ และร่วมมือกับอียิปต์และชาติอ่าวอาหรับ

ที่มาของภาพ : Reuters

มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย

โลกอาหรับมีอำนาจต่อรองอะไรกับทรัมป์บ้าง ?

ดร.มูบารัค อัล-อาตี นักวิเคราะห์การเมืองชาวซาอุดีอาระเบีย มองว่า การมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ จะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ที่สำคัญของตนในภูมิภาค โดยเฉพาะในซาอุดีอาระเบียและอียิปต์ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างผู้นำอียิปต์ สหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบีย จะเอื้อให้พวกเขาหาทางออกที่ตรงกลางได้ โดยเฉพาะเมื่อทรัมป์จะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะมีผลต่อความสัมพันธ์อาหรับ-อเมริกันในอนาคต

ขณะที่ ดร.ฮัสซัน มเนมเนฮ์ นักวิเคราะห์การเมืองจากกรุงวอชิงตัน มองว่า หากทรัมป์ตัดงบช่วยเหลือทางการทหารและเศรษฐกิจต่ออียิปต์และจอร์แดนจริง ประเทศเหล่านี้ก็ควรตอบโต้ เช่น ซาอุดีอาระเบียอาจหยุดการลงทุนในสหรัฐฯ และหันไปเปิดการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับจีน รัสเซีย สหภาพยุโรป แอฟริกา หรืออเมริกาใต้แทน

อัล-อาตีชี้ว่าการที่ซาอุดีอาระเบียเสนอจะปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอลให้เป็นปกติ ถือเป็น “ยุทธวิธีการต่อรอง” ที่อียิปต์เคยใช้เพื่อผลักดันให้มีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ตามพรมแดนปี 1967

แหล่งข่าวชาวอียิปต์คนเดิมระบุว่า การที่อียิปต์ส่งสัญญาณว่าจะยกเลิกข้อตกลงสันติภาพแคมป์เดวิด (Camp David) กับอิสราเอล ซึ่งลงนามกันตั้งแต่ปี 1979 ก็อาจเป็น “ไพ่ต่อรอง” อันทรงพลังต่อวอชิงตัน หากทรัมป์ปฏิเสธแผนที่ชาติอาหรับอาจเสนอในอนาคต