เปิด 8 ภาพของกลุ่มคนสุดแปลกในสหรัฐฯ จากยุค 70 และ 80
Article data
- Author, เดโบราห์ นิโคลส์-ลี
- Role, บีบีซี คัลเจอร์
ร่วมเฉลิมฉลอง ‘ความสุขของการอยู่ร่วมกัน’ กับภาพถ่ายกลุ่ม 8 ภาพ ซึ่งถ่ายโดยช่างภาพ นีล สเลวิน ระหว่างปี 1972 ถึง 1991 โดยภาพเหล่านี้แสดงให้เห็นทั้งความเป็นหนึ่งเดียวและความแปลกประหลาดในชีวิตของชาวสหรัฐฯ ในยุคนั้น
เป็นเวลา 50 ปีแล้วตั้งแต่ช่างภาพอย่าง นีล สเลวิน เริ่มออกเดินทางทั่วสหรัฐฯ เพื่อบันทึกการรวมกลุ่มที่หลากหลายและมักจะดูประหลาดของประเทศนี้ เพื่อฉลองวาระครบรอบนี้ งานชิ้นนี้ของเขาจึงได้รับการตีพิมพ์อีกครั้งในชื่อ “When Two or Extra are Gathered Collectively” [อาจแปลเป็นภาษาไทยว่า “เมื่อคนสองคนหรือมากกว่านั้นมารวมกัน”]
สเลวินกล่าวว่า หัวข้อของเขา ‘ยืนยันความสุขของการอยู่ร่วมกันมากกว่าการแยกจากกัน’ และเผยให้เห็นวิธีต่าง ๆ ที่ผู้คนพบจุดร่วมกัน ภาพถ่ายแสดงถึงหลากหลายกลุ่มต่าง ๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นบิงโก โบรกเกอร์ แม่บ้านทำความสะอาด และคนขุดหลุมฝังศพ สำหรับบางกลุ่มเช่น สมาคม Broad Social Club ก็ได้สร้างความเป็นปกติในสิ่งที่อาจดูแปลก ๆ ขณะที่บางกลุ่มมีความหลงใหลร่วมกัน เช่น จักรยานโบราณเพนนีฟาร์ทิง และการเพาะกาย
สเลวินชอบให้กลุ่มที่เขาถ่ายภาพจัดท่าทางอย่างที่พวกเขาต้องการ เพื่อให้เห็นลำดับชั้นตามธรรมชาติและพลวัตของกลุ่ม “ผมเฝ้าดูแต่ละคนที่พยายามหาที่ตั้งของตัวเอง ดันไหล่ขึ้นหน้าคนข้าง ๆ หรือยิ้มกว้างที่สุด ขณะที่บางคนกลับอยู่เบื้องหลัง เพียงแค่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่กว่า กลุ่มนั้นเอง” เขาเขียนไว้ในหนังสือ
เมื่อภาพแรก ๆ ถูกตีพิมพ์ในปี 1976 หนังสือเล่มนี้กลายเป็นผลงานสำคัญที่บ่งบอกถึงศักยภาพของสื่อใหม่อย่างภาพถ่ายสี ปัจจุบันนี้ มีภาพเพิ่มอีก 54 ภาพ บางภาพถ่ายเมื่อไม่นานมานี้ในปี 2023 การเฉลิมฉลองการอยู่ร่วมกันของสเลวินในยุคดิจิทัลที่เน้นปัจเจกชนยิ่งมีความหมายมากยิ่งขึ้น นี่คือภาพถ่ายไฮไลท์แปดภาพจากหนังสือเล่มนี้
Skip เรื่องแนะนำ and proceed discovering outเรื่องแนะนำ
Discontinuance of เรื่องแนะนำ
แคปิตอล เรสลิง คอร์ปอเรชัน (1972-1975)
ภาพถ่าย แคปิตอล เรสลิง คอร์ปอเรชัน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ถูกเลือกให้เป็นหน้าปกของหนังสือ
“พ่อกับผมเคยดูมวยปล้ำแบบนี้ในช่อง 11 ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องตามหาพวกเขา ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก” ช่างภาพชาวบรุกลินบอกกับบีบีซี
ตอนแรกเขาหวังจะถ่ายภาพนักมวยปล้ำขณะลงสนาม แต่กำหนดการที่กำหนดไว้ทำให้พวกเขาต้อง “ย้ายไปที่ห้องล็อกเกอร์ของนักเรียนชาย”
การจับมือกับ กอริลลา มอนซูน (บนขวา) กลายเป็นเหตุการณ์ที่มีชีวิตด้วยตัวมันเอง “มือเขาใหญ่กว่าหัวของผม” สเลวินพูดติดตลก แต่ถึงแม้จะมีกล้ามเนื้อและท่าทีที่โอ้อวด “ความเป็นเพื่อนกันระหว่างพวกเขาน่าทึ่งมาก” เขากล่าว “พวกเขาพูดคุยกันทุกเรื่อง และผมคิดว่านั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ภาพนี้มีความหมาย”
บิงโกคลับ (1972-1975)
“ผมชอบภาพนั้นมาก” สเลวินกล่าวถึงภาพถ่ายของเขาที่ถ่ายบิงโกคลับในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัฐฟลอริดา
“สำหรับผม มันสะท้อนถึงความเป็นมนุษย์ที่ตรงเข้าสู่หัวใจ มันไม่ได้ดูตลก แต่มันคือความเป็นมนุษย์”
ผู้เล่นทุกคนมักจะนั่งที่เดิมทุกครั้งที่พวกเขามารวมตัวกัน แต่พวกเขาต่างก็เบียดกันเข้ามาในภาพถ่ายเขาเล่า
“พวกเขาอยากให้มีการบันทึกไว้ว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นในช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์” สเลวินอธิบาย
“มีโครงสร้างทางสังคมในหมู่คนเหล่านี้” เขากล่าวเสริม โดยชี้ให้เห็นถึงท่าทีที่หลากหลายต่อกล้องของพวกเขา บางคนยืดอก บางคนห่อตัว และบางคนยืนขึ้นเพื่อให้เห็นชัด “นั่นคือสิ่งที่ผมมองหา ตอนที่ผมทำงานได้ดีที่สุด ผมก็จะได้พบเรื่องราวในกลุ่มคน และมันน่าหลงใหล”
โยคี (1974)
สเลวินขอให้กลุ่มโยคีในลอสแอนเจลิสทำท่าทางหลากหลาย ก่อนที่จะเลือกใช้ท่ายืนด้วยหัว ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการถ่ายภาพสีอย่างชัดเจน แต่กว่าที่สเลวินและคนอื่น ๆ จะสามารถทำลายความนิยมของภาพขาวดำซึ่งถูกมองว่าดูดีมีระดับก็ต้องใช้เวลาอยู่นาน
“เราทลายกำแพงนั้นลงได้” เขากล่าว สิ่งที่ทำให้เขาชื่นชอบภาพสีมากที่สุดคือข้อมูลเพิ่มเติมที่สีสันสามารถสื่อออกมา “มันเปิดโลกทั้งใบให้กับผมที่น่าทึ่งอย่างมาก” เขากล่าว
สเลวิน ซึ่งเป็นคนนอกเสมอมา ทั้งรู้สึกสับสนและหลงใหลในกลุ่มโยคีนี้ เขาอ้างถึงนักประวัติศาสตร์และนักสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 อเล็กซิส เดอ ตอกเคอวิลล์ ที่สังเกตเห็นว่า เมื่อเทียบกับบ้านเกิดของเขาในฝรั่งเศส ชาวอเมริกันมักจะรวมกลุ่มในเกือบทุกด้านของชีวิต สร้างเป็นประชาธิปไตยย่อย ๆ ขึ้นมา
สเลวินกังวลว่ายุคดิจิทัลอาจคุกคามความสัมพันธ์ที่มีการปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพนี้ “มันกำลังแทรกแซงระบบเผ่าพื้นฐานที่เราใช้ชีวิตอยู่มาเป็นพันปี และผมรู้สึกเสียดายสิ่งนั้น” เขากล่าว
การประชุมสตาร์เทรค (1972-1975)
การประชุมสตาร์เทรคที่บรุกลิน นิวยอร์กเป็นงานที่ท้าทายมาก “ผมคิดว่ามันขาดความรู้สึก” สเลวินกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ในขณะที่การถ่ายภาพนักมวยปล้ำนั้น “มีชีวิตชีวาอย่างชัดเจน” แต่กลุ่มนี้ ซึ่งมาพบกันทุกปีเพื่อแลกเปลี่ยนของสะสมและรักษาความทรงจำของสตาร์เทรคฉบับดั้งเดิมนั้น กลับยากที่จะเข้าถึง
“มันเป็นแค่คนแต่งตัวเป็นตัวละคร” เขาไหวไหล่ “พวกเขาไม่รู้จักกันจริง ๆ พวกเขาไม่ได้มารวมตัวกันแบบที่มีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงบรรยากาศ สิ่งที่พวกเขาสนใจมีเพียงแค่การมองกล้องและก็เป็นตัวละคร”
ถึงกระนั้นเขาก็ยังมองว่าภาพถ่ายนี้ประสบความสำเร็จ “มันแสดงให้เห็นรอยแยกทางสังคม” เขากล่าว “พวกเขาต้องการที่จะอยู่ร่วมกัน แต่พวกเขาก็ยังอยู่ร่วมกันแบบแยกกัน”
สมาคมฝาแฝดนานาชาติ (1972-1975)
เท่าที่สเลวินรู้มา ภาพถ่ายของฝาแฝดในระดับนี้ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน “ผมอยากถ่ายมาก ๆ” เขากล่าว ครั้งนี้ “เรารู้สึกถึงพลังที่สดใสและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาจากกลุ่มนี้” แต่ก็กลายเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างท่วมท้น
กลางภาพ เลโวนาและลาเวลดา นางแบบจากชิคาโกในชุดเดรสสีชมพู ถือถ้วยรางวัลสำหรับการเป็นคู่แฝดที่เหมือนกันที่สุดในกลุ่มอายุของพวกเธอ ต่อมาพวกเธอเชิญสเลวินไปทานอาหารเย็นที่คาเฟ่ท้องถิ่นกับแฟนหนุ่มฝาแฝดของพวกเธอ แลร์รีและเจอร์รี
“ทั้งห้องเต็มไปด้วยฝาแฝด และพวกเขาก็เริ่มพูดคุยกันด้วยภาษาฝาแฝด จบประโยคของกันและกัน” สเลวินเล่าความทรงจำ “สุดท้ายผมต้องขอตัวออกจากอาหารเย็น เพราะมันเกินกว่าที่ผมจะตามทัน[บทสนทนาของ]พวกเขาได้”
ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (1986)
ทักษะอีกด้านของสเลวินในการกำกับภาพยนตร์มีบทบาทสำคัญในอีกสิบปีต่อมา เมื่อเขาถ่ายภาพทั้งชั้นของโบรกเกอร์ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ซึ่งถูกยกย่องโดยช่างภาพ โจ แมคนัลลี ว่าเป็น “กลุ่มคนที่ถ่ายยากที่สุดในโลก”
ในฐานะผู้กำกับ สเลวินกล่าวว่า “ถ้าคุณไม่สามารถทำความรู้จักกับคน 1,000 คนใน 30 วินาที คุณก็แทบไม่มีทางรอด” เขามองว่าการถ่ายภาพหมู่เป็น “ประเภทที่ถูกเข้าใจผิด” และการที่มันถูกมองว่ามีสถานะต่ำ “เป็นภาระที่ผมต้องแบกรับ”
ภาพที่ทะเยอทะยานอย่างภาพนี้ ที่มีความสมมาตรคล้ายกระจก สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของมันเมื่ออยู่ในมือที่ใช่ “มันดูเหมือนไม่มีอะไรซับซ้อนและง่ายดาย แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นภาพถ่ายประเภทที่ยากมาก เพราะคุณต้องมองหาสิ่งที่มากกว่าแค่ใบหน้าจำนวนมาก” เขากล่าว แต่ถ้าคุณทำมันออกมาได้ดี “รางวัลที่ได้รับนั้นน่าทึ่งมาก”
สโมสรฟันดาบ ดี.ซี. (1988)
วิธีถ่ายภาพนี้ชัดเจนในความโดดเด่นและมีความเป็นภาพยนตร์ของกลุ่มนักฟันดาบในวอชิงตัน ดี.ซี. จริง ๆ แล้วภาพนี้ถูกสั่งถ่ายโดย หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ แต่เป็นไอเดียของสเลวินที่จะไปจัดฉากในห้องบอลรูมอันโอ่อ่าของโรงแรมริทซ์ คาร์ลตัน และสร้างฉากอันแสนอลังการนี้
มันเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความชอบในการใช้ความแตกต่างเพื่อดึงสายตา จากนักเปียโนที่อยู่ด้านหลังไปยังคนทานเบเกิลที่อยู่ด้านหน้าทางขวามือ “การฟันดาบมีองค์ประกอบเหล่านี้ [เช่น จริยธรรมแบบอัศวิน] ซึ่งฝังอยู่ในวัฒนธรรมของเราและแสดงออกผ่านดาบเหล่านี้” สเลวินกล่าว ในภาพนี้ สเลวินยกระดับมันไปอีกขั้น “ภาพนักฟันดาบ” เขากล่าว “เป็นสิ่งที่ผมฝันจะทำ เป็นงานที่ท้าทาย และผมนึกถึงผู้กำกับอย่างคุโรซาวะและสกอร์เซซี”
ปั๊ก (1991)
สิ่งที่ตลกยิ่งกว่าภาพนิ่งของปั๊ก 15 ตัวที่มีหน้าผากย่นและหอบอยู่ ก็คือช่วงเวลาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ผู้ฝึกพยายามซ่อนตัวอยู่หลังม่าน แต่ก็มีทั้งมือและใบหน้าที่โผล่ออกมาอย่างวุ่นวายเพื่อช่วยให้เหล่าปั๊กจัดท่า
“สุนัขสงบกว่าคนเสียอีก พวกมันเยี่ยมมาก แต่คนกลับกระวนกระวายเพราะกลัวว่าจะถูกเห็น!” สเลวินหัวเราะ “ผมเลยบอกว่า ‘รู้ไหม นี่มันบ้าจริง ๆ เปิดม่านดีกว่า’”
ผลลัพธ์ที่ออกมากลับดีกว่าเดิมด้วยการแทรกแซงของสเลวิน ใบหน้าของเจ้าของที่โผล่พ้นออกมาบอกเล่าเรื่องราวที่หลากหลาย ทั้งความสนุก ความเขินอาย และความภูมิใจในสัตว์เลี้ยงของพวกเขา
สิ่งที่ภาพเหล่านี้มีร่วมกันคือ “ความเป็นกลุ่ม” เขากล่าว ซึ่งเขามองว่าเป็นสิ่งที่ดี “การรวมกลุ่มทำให้ผมได้เรียนรู้ถึงจักรวาลแห่งความเป็นไปได้ ในฐานะมนุษย์ เราอยู่เป็นกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทำงาน กลุ่มสตรีนิยม หรือทีมเบสบอล อะไรก็ตาม เรามีตัวตนร่วมกับผู้อื่น”
หนังสือ “When Two or Extra are Gathered Collectively” โดย นีล สเลวิน จัดพิมพ์โดย ดาเมียนี
ที่มา BBC.co.uk