เหตุใดทรัมป์จึงต้องการแร่ลิเทียมของยูเครน ในเมื่อสหรัฐฯ มีแหล่งแร่ลิเทียมมากกว่าเสียอีก

ที่มาของภาพ : Getty Photography
Article knowledge
- Author, เจเรมี เฮาเวล
- Feature, บีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน จะลงนามใน “ข้อตกลงที่สำคัญมาก” ที่สหรัฐฯ ในวันศุกร์ (28 ก.พ.) โดยรัฐบาลยูเครนและสหรัฐฯ กำลังหารือเกี่ยวกับข้อตกลงแบ่งทรัพยากรแร่ของยูเครน เพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางการเงินในอดีตจากสหรัฐฯ และอาจรวมถึงการรับประกันด้านความมั่นคงปลอดภัยของยูเครนด้วย
ทรัมป์มีความสนใจเป็นการเฉพาะในแร่ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก (severe minerals) ซึ่งใช้ในการผลิตแบตเตอรีและผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยีขั้นสูง ถึงแม้ว่าแหล่งแร่เหล่านั้นจำนวนมากจะอยู่ในพื้นที่ที่รัสเซียยึดครอง
เชื่อว่ายูเครนมีแหล่งแร่ลิเทียมจำนวนมาก ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของแบตเตอรีที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ แต่ยูเครนยังไม่ได้ขุดแร่เหล่านี้ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม มีการประเมินว่าสหรัฐฯ มีแหล่งสำรองของแร่ลิเทียมที่มากกว่ายูเครนเสียอีก แล้วเหตุใดสหรัฐฯ จึงไม่เพิ่มการขุดแร่ลิเทียมของตัวเองมากขึ้น
ยูเครนมีแร่ลิเทียมมากแค่ไหน

สำนักธรณีวิทยาของยูเครนระบุว่า ยูเครนมีแร่ลิเทียมอยู่ประมาณ 500,000 ตัน ซึ่งเป็นแหล่งลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
ขณะที่ทางด้านสำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) เคยประเมินว่าในปี 2021 ทั้งโลกมีแหล่งแร่ลิเทียมอยู่ประมาณ 71 ล้านตัน โดยส่วนใหญ่มาจากอาร์เจนตินา ออสเตรเลีย แคนาดา ชิลี และจีน
and proceed readingเรื่องแนะนำ
Close of เรื่องแนะนำ
แหล่งลิเทียมขนาดใหญ่เพิ่มเติมถูกค้นพบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาในสหรัฐฯ และจีน
มีการประมาณการว่า 3 ใน 4 ของลิเทียมที่ถูกขุดออกมาถูกนำไปใช้ในการผลิตแบตเตอรีสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ

ที่มาของภาพ : Getty Photography
จากการสำรวจในยุคที่ยังเป็นสหภาพโซเวียต พบว่ามีแหล่งของแร่ลิเทียมอยู่ในแหล่งโปโลคิฟสกี (Polokhivske) และโดบรา (Dobra) ทางตอนกลางของยูเครน และในภูมิภาคครูตา บัลกา (Kruta Balka) ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งปัจจุบันถูกรัสเซียครอบครองอยู่
บริษัทขุดแร่ Ukrlitiivydobuvannia ได้รับอนุญาตให้เข้าขุดแร่ลิเทียมในปี 2017 และกำลังพิจารณาการขุดที่แหล่งโปโลคิฟสกี ซึ่งมีแหล่งลิเทียมที่คาดว่ามีขนาดใหญ่ที่สุด
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์พอล แอนเดอร์สัน จากศูนย์ยุทธศาสตร์และวัสดุสำคัญแห่งเบอร์มิงแฮมในสหราชอาณาจักร กล่าวว่า “ไม่มีใครแน่ใจว่าข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรแร่ของยูเครนเชื่อถือได้แค่ไหน และยูเครนอาจจะพูดถึงมูลค่าของมันเกินจริง”
สหรัฐฯ มีลิเทียมมากแค่ไหน

ที่มาของภาพ : Getty Photography
สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ ระบุว่าในปี 2021 สหรัฐฯ มีแร่ลิเทียมอยู่ประมาณ 8.3 ล้านตัน
หลังจากนั้นในเดือน ต.ค. 2024 มีการประกาศว่าพบแหล่งลิเทียมขนาดใหญ่อีกแห่งในอาร์คันซอ ซึ่งมีลิเทียมอยู่อย่างน้อย 4.5 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ มีเหมืองที่ขุดและสกัดลิเทียมอยู่เพียงแห่งเดียว คือเหมืองซิลเวอร์พีคในรัฐเนวาดา ซึ่งผลิตแร่ด้วยวิธีการสกัดจากน้ำเกลือหรือน้ำเค็มที่สูบขึ้นมาจากใต้พื้นดินที่เป็นแหล่งเกลือ
“เมื่อลิเทียมที่นั่นไม่ถูกแตะต้องจากตลาดแร่ที่ต้องขุดขึ้นมา และประเทศอื่น ๆ ก็มีแร่ให้ซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่า การขุดแร่พวกนี้ก็ลดลง” ดร.เกวิน ฮาร์เปอร์ จากภาควิชาวิศวกรรมโลหะและวัสดุแห่งมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมในสหราชอาณาจักร กล่าว
ด้าน ศ.แอนเดอร์สัน บอกว่า “ไม่มีใครในสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมแบตเตอรีจะเติบโตเช่นนี้มาก่อน”
สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ ระบุว่าปัจจุบันสหรัฐฯ นำเข้าลิเทียมครึ่งหนึ่งของปริมาณที่ใช้ในประเทศ ส่วนมากมาจากชิลีและอาร์เจนตินา
ทำไมรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการแร่ลิเทียมสำรองมากขึ้นจากยูเครน

ที่มาของภาพ : Getty Photography
ในขณะที่จีนอ้างว่าได้ถือครองปริมาณแร่ลิเทียมสำรองของโลกอยู่ 16.5% นักวิเคราะห์กล่าวว่า จีนสกัดแร่ลิเทียมอยู่ 60% ของลิเทียมที่มีอยู่ทั้งหมดในโลก และมีความสามารถในการผลิตแบตเตอรีลิเทียมไอออนประมาณ 75% ของโลก
“จีนได้เปรียบอย่างมากในการผลิตแบตเตอรีลิเทียมและมีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาการผลิตซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมที่วางแผนไว้” ดร.ฮาร์เปอร์ กล่าว
รัฐบาลสหรัฐฯ กังวลว่าจีนจะมีอำนาจควบคุมการจัดหาลิเทียมและแร่ธาตุสำคัญอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งแร่เหล่านี้ไม่ได้ เรื่องนี้มีความสำคัญมากขึ้นเพราะความต้องการลิเทียมกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามข้อมูลจากองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) โลกจะต้องการลิเทียมมากขึ้น 8 เท่าในปี 2040 เมื่อเทียบกับปี 2023

รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพยายามชักชวนให้บริษัทเหมืองแร่ผลิตลิเทียมภายในประเทศมากขึ้น โดยการให้เงินกู้ผ่านกฎหมายการลดอัตราเงินเฟ้อ (Inflation Nick worth Act) ที่ผ่านในสมัยรัฐบาลโจ ไบเดน
กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ได้ตกลงที่จะให้เงินกู้แก่บริษัทอัลเบมาร์ล (Albemarle) เพื่อเปิดเหมืองคิงส์เมาเทน ในรัฐแคโรไลนาขึ้นมาใหม่ เพื่อดำเนินการจัดหาลิเทียมสำหรับผลิตแบตเตอรีให้กับกองทัพ
“จากคนที่ผมได้พูดคุยในสหรัฐฯ มันชัดเจนว่าพวกเขาต้องการแร่ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับการผลิตทางทหารมากกว่าสิ่งอื่นใด” ศ.แอนเดอร์สัน กล่าว
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า “ดูเหมือนว่าทรัมป์จะสนใจแหล่งแร่ธาตุหายากของยูเครนมากที่สุด”
แหล่งลิเทียมแห่งใหม่ที่มีการประเมินว่ามีประมาณ 36 ล้านตัน ถูกค้นพบในรัฐเนวาดา และมีกำหนดจะเปิดเหมือง ณ ที่แห่งนั้นในปี 2026
แร่ลิเทียมของยูเครนจะมีประโยชน์กับสหรัฐฯ หรือไม่

ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้ยูเครนมอบส่วนแบ่งจากความมั่นคั่งของทรัพยากรแร่เป็นการจ่ายเงินคืนสำหรับการที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนยูเครนช่วงที่ทำสงครามกับรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ศ.แอนเดอร์สัน บอกว่า ยังไม่ทราบว่าลิเทียมและแร่อื่น ๆ จะมีมูลค่าอยู่ที่เท่าใดหากหักลบกับต้นทุนในการขุด
“เราไม่รู้ถึงคุณภาพของแร่พวกนี้” เขากล่าว “แม้ว่าแร่เหล่านี้จะสามารถทำกำไรได้ในทางเศรษฐกิจ แต่ก็อาจใช้เวลามากกว่าสิบปีหรือนานกว่านั้นในการเริ่มผลิต และจะต้องการใช้การลงทุนและเงินทุนจำนวนมาก”
ด้าน ดร.ฮาร์เปอร์ กล่าวว่า “การพัฒนาเหมืองในยูเครนมีความท้าทายเป็นพิเศษ เพราะมันมีทั้งสงครามและความเสียหายที่สงครามก่อไว้”
รายงานจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีดนีโปรระบุว่า ลิเทียมในยูเครนนั้นอยู่ในหิน การสกัดจึงค่อนข้างยากและมีต้นทุนสูง
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ อย่างออสเตรเลียและชิลี ลิเทียมในประเทศเหล่านั้นขุดออกมาง่ายกว่ามาก เพราะมันขุดมาจากเกลือที่ถูกสูบมาจากพื้นดินที่มีเกลืออยู่ข้างใต้

ที่มาของภาพ : Getty Photography
รายงานฉบับนี้กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้จึงไม่ชัดเจนว่าการขุดลิเทียมจากแหล่งแร่ของยูเครนจะมีความคุ้มค่าหรือไม่ นอกจากนี้ อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บริษัทต่าง ๆ อาจลังเลที่จะลงทุนในเหมืองลิเทียมในปัจจุบันก็คือ ราคาของลิเทียมตกต่ำลงในปีที่ผ่านมา และลดลงถึง 80% เมื่อเทียบกับปี 2022 ซึ่งเกิดจากการมีอุปทานของปริมาณลิเทียมที่มากเกินไป
สิ่งนี้อาจทำให้ความต้องการของบริษัทต่าง ๆ ในการเปิดเหมืองแห่งใหม่ในยูเครนหรือที่อื่น ๆ ทั่วโลกลดลง
“หลังจากราคาตกลง คนทำเหมืองอาจอยากรอไปอีก 2-3 ปี” ศ.แอนเดอร์สัน กล่าวเตือน
ที่มา BBC.co.uk