25 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 26 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) เป็นพิเศษ เป็นการประชุมในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ประชาไทประมวลประเด็นที่ รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายเรื่องการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ทักษิณ ชินวัตรกลับไทยหลังจากลี้ภัยทางการเมืองมา 17 ปี และถูกนำตัวไปเข้าเรือนจำเพียงคืนเดียวก็ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ตำรวจอย่างเร่งด่วนอย่างผิดปกติซึ่งเขาชี้ว่าทำให้กระบวนการยุติธรรมมีหลายมาตรฐานและสร้างระบบอภิสิทธิ์ รวมถึงคำชี้แจงของฝ่ายรัฐบาลต่อเรื่องดังกล่าว
โรมเชื่อ ป่วยทิพย์-มีอภิสิทธิ์
รังสิมันต์กล่าวถึงข้อมูลที่ปรากฏตามข่าวเกี่ยวกับการส่งตัวของทักษิณออกจากเรือนจำในคืนแรกที่เข้าไปโดยแพทย์ของ รพ.ราชทัณฑ์ที่วินิจฉัยให้ส่งตัวทักษิณไป รพ.ราชวิถีที่ใช้เวลารวมในการส่งตัวเพียง 17 นาทีและยังเป็นเพียงการวินิจฉัยโรคทางโทรศัพท์เพียง 4 นาทีก็ตัดสินใจให้มีการส่งตัวได้โดยไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ที่อยู่ใกล้กว่ามากเหมือนเช่นนักโทษคนอื่นๆ และเมื่อเข้าไป รพ.ตำรวจแล้วยังได้เข้าไปอยู่ห้องผู้ป่วยพิเศษหรือพรีเมี่ยมวอร์ด แทนการไปอยู่ที่หอผู้ป่วยวิกฤติหากมีอาการป่วยหนักจริง
นอกจากนั้นเมื่อมีการขอพระราชทานอภัยโทษซึ่งจะต้องใช้เอกสารหลายอย่างที่จำเป็น แต่กรณีนี้แพทองธารก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าพ่อของเธอดำเนินการด้วยตนเองแม้ว่าเรื่องนี้ตามกฎหมายจะอนุญาตให้บุตรทำแทนได้ ซึ่งทำให้มีคำถามว่าทักษิณป่วยหนักจริงหรือว่าเป็นเพียงการกุเรื่องขึ้นมา
ยังพบว่าทักษิณมีการใช้โทรศัพท์ระหว่างรักษาตัวอยู่ใน รพ.ตำรวจซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย และเมื่อได้รับการพักโทษออกมาซึ่งจะมีเกณฑ์ระบุว่าสามารถดูแลตัวเองได้แค่ไหนแต่เมื่อได้รับการปล่อยตัวกลับสามารถเดินทางไปเชียงใหม่กับแพทองธารได้
รังสิมันต์ยกตัวอย่างกรณีของเอกชัย หงษ์กังวานมาเปรียบเทียบว่าหลังจากทักษิณได้ถูกย้ายตัวไป รพ.ตำรวจเพียงไม่กี่วัน เอกชัยที่ป่วยด้วยโรคฝึในตับต้องอยู่ในเรือนจำอย่างทรมานหลายวันกว่าจะได้รับการส่งตัวไป รพ.ราชทัณฑ์เพื่อรับการรักษาและยังต้องอยู่ใน รพ.ราชทัณฑ์อีก 4 วันก่อนถูกส่งตัวไป รพ.ราชวิถี และอยู่ใน รพ.เพียง 10 ก็ถูกส่งตัวกลับไปเรือนจำตามเดิม เป็นตัวอย่างของคนที่ไม่มีอภิสิทธิ์เป็นคนธรรมดาที่ไม่เส้นสาย เรื่องนี้เกิดขึ้นภายใต้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ชุดเดียวกัน
สส.พรรคประชาชนชี้ว่าเรื่องนี้ นายกฯ เป็นตัวการสร้างทุจริตเพื่อช่วยเหลือเพียงคนๆ เดียว การให้สัมภาษณ์ของแพทองธารต่อเรื่องพ่อของเธอทำให้เห็นการละเมิดกฎหมายและเห็นใจกลางของความลวงลวงแสดงละครตบตาประชาชน แสดงให้เห็นว่ามีพฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ไม่มีความซื้อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ขาดคุณสมบัติตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 160
รังสิมันต์กล่าวว่า เรื่องนี้จะทำให้คุกมีไว้เพียงแค่ขังคนจน นายกฯ ทำให้ความยุติธรรมมีหลายมาตรฐานตามฐานะทางการเงิน ทำลายความเชื่อมันของประชาชนต่อระบบยุติธรรม ถ้าจะกู้คืนนิติธรรมก็ไม่สามารถกู้คืนได้
นอกจากนั้น สส.พรรคประชาชนยังกล่าวถึงการที่เรื่องนี้ไม่มีการลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องตามมาแล้วยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งด้วยเช่น กรณีของนายแพทย์ใหญ่ของ รพ.ตำรวจที่ออกมายืนยันว่าทักษิณ ยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และยังได้รับการตั้งเป็นกรรมการอิสระของ IRPC ด้วย
ชี้กรณีชั้น 14 ครบองค์ประกอบอั้งยี่
รังสิมันต์กล่าวต่อไปว่า เรื่องราวทั้งหมดของกรณีชั้น 14 มันเต็มไปด้วยพิรุธ การปกปิดความจริงไม่ให้ประชาชนได้ล่วงรู้ มันคือการตีหน้าซื่อๆ แล้วเล่าความเท็จฉบับเด็กเลี้ยงแกะว่าบิดาตนเองป่วยหนัก โดยหวังว่าการเล่นละครดังกล่าวประชาชนจะเชื่อ การช่วยเหลือให้ใครสักคนไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายมันเป็นเรื่องที่ใหญ่มากนะครับ มันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน
รังสิมันต์กล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่ท่านนายกและสมัครพรรคพวกได้ทำกันเป็นขบวนการ คือ ใช้การแกล้งป่วยของอดีตนายก การให้ความเห็นของแพทย์ปลอมๆในโรงพยาบาลตำรวจ ตลอดจนการสมรู้ร่วมคิดของบุคคลากรอีกจำนวนมากมายในกระบวนการยุติธรรมและราชทัณฑ์เพื่อปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ การไม่มีเหตุแห่งความจริงของการป่วย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการพานักโทษแหกคุกท่านนายกฯ อยู่ในฐานะของผู้จัดการขบวนการกระทำการความผิดนี้ สิ่งที่ท่านนายกรัฐมนตรีดำเนินการมาทั้งหมดได้ครบองค์ประกอบทางกฎหมายอาญา มาตรา 209 และมาตรา 210 อันเป็นการกระทำความผิดฐานอั้งยี่และซ่องโจรตามลำดับ ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวมีการกำหนดโทษที่ร้ายแรง โดยใครที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าอาจจะได้รับโทษทางอาญาสูงถึง 10 ปี
รังสิมันต์กล่าวต่อไปว่า ตนเชื่อว่าหากมีการดำเนินการทลายซ่องโจรจันทร์ส่องหล้า ตนเชื่อว่าเราสามารถดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้อีกจำนวนมากอย่างแน่นอน
ทวี โต้ปมดีลปีศาจไม่มีจริง
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงกรณีที่ รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายพาดพิงระบุว่ามีดีลแลกประเทศและดีลผีศาจ กรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ได้เข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
ทวีกล่าวว่า กรณีของอดีตนายกฯ ทักษิณ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับนายกฯ แพทองธาร เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะว่าทักษิณได้รับพระราชทานอภัยโทษครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ตอนนั้นแพทองธารยังไม่ได้มาเป็นนายกฯ เลย
“สิ่งที่ผมอยากจะเรียนเพื่อทบทวนให้ รังสิมันต์ โรม คือ ท่านอ้างว่ามีดีลแลกประเทศ และท่านขยายว่า มีดีลปีศาจ ผมไม่รู้ว่าก้นบึ้งของจิตใจท่าน ท่านจะหมายถึงอะไร”
ทวีกล่าวต่อไปว่า ตนขอทบทวนความจำให้รังสิมันต์ หลังจากที่มีการยุบสภาของ พล.อ. ประยุทธ์ แล้วมีการเลือกตั้งในปี 2566 พรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงมากที่สุด ปัจจุบันคือพรรคประชาชน ในการโหวตนายกฯ พรรคก้าวไกล คุณพิธาเป็นหัวหน้าพรรค ในการเลือก ประธานสภาฯ พิธาเสนออาจารย์วันนอร์ แล้วตอนมาโหวตเป็นนายก 13 ก.ค. 2566 คนที่เสนอพิธาเป็นนายกฯ คือหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตนเองจากพรรคประชาชาติก็ร่วมโหวตกับรังสิมันต์ด้วย หรือว่าท่านจะเถียง
ต่อมาเมื่อไม่ได้ วันที่ 19 ก.ค. 2566 มีการประชุมสภาอีก และมีการตีความว่าการโหวตพิธาเป็นนายกฯ ถือเป็นญัตติหรือไม่ เมื่อมีการโหวตออกมาว่าเป็นญัตติ จึงเสนอซ้ำไม่ได้ อันนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าเราร่วมหัวจมหางกันในสิ่งที่เราหาเสียงมา จนกระทั่ง…ประเทศต้องมีนายกฯ ท่านก็รู้ดีว่า รธน. 2560 ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้ร้ายกับท่านคนเดียว การเลือกตั้งครั้งแรกหลังรัฐธรรมนูญปี 60 พรรคเพื่อไทยก็ได้เสียงเป็นอันดับ 1 แต่แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้เป็นนายกฯ พรรคเพื่อไทยก็เจ็บปวดเหมือนกัน เป็นฝ่ายค้านไป 4 ปีรัฐธรรมนูญนี้ให้ สว.ร่วมเลือกนายกฯ และ สว. ไม่เลือก เพราะพรรคของท่านชูธงแก้มาตรา 112
ทวีกล่าวต่อไปว่า ตนอยากให้รังสิมันต์เปลี่ยนความคิดว่าสิ่งนี้เป็นดีลแลกประเทศ จนกระทั่งวันที่ 22 สิงหาคม 2566 มีการโหวตนายกฯ อีกครั้ง และได้เศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ แต่ รธน.นี้ก็โหดร้ายกับนายกฯ เศรษฐา เอาเศรษฐาออก จากเรื่องเสนอแต่งตั้งคน ถ้าตนเองไม่ทวนความจำของรังสิมันต์ตรงนี้ ท่านก็จะเอาคำว่าดีลแลกประเทศมาใช้
ทวีกล่าวต่อไปว่า ใน รธน.ฉบับปี 60 ในบรรดารัฐมนตรีทั้ง 20 กระทรวง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมถือว่า ไม่มีสิทธิ ไม่มีอำนาจ หรือไม่มีอำนาจในการจะออกนโยบายได่เลย น้อยที่สุด เพราะ รธน. นี้ได้มีหมวดเกิดขึ้นมาใหม่หนึ่งหมวด คือหมวดว่าด้วยหน้าที่แห่งรัฐ จะทำอะไรได้ก็คือการทำตามนโยบายแห่งรัฐ ในหมวดหน้าที่แห่งรัฐ เขาได้เขียนไว้มาตราหนึ่งว่า รัฐต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะว่าจะต้องการให้กฎหมายอยู่เหนืออิทธิพล ประชาชนทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
ทวีกล่าวว่า ตนได้เป็นรัฐมนตรีมา 1 ปี ประกาศเลยว่าเราจะธำรงไว้ซึ่งนิติธรรม มาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญที่จะมีนโยบายให้การบริหารงานยุติธรรม ให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ แล้วคุ้มครองเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมโดยปราศจากการแทรกแซงและครอบงำ
ยืนยันทักษิณป่วยจริง-ทำตาม กม.
ทวีกล่าวยืนยันกรณีทักษิณว่าเป็นการทำตามกฎหมาย ระบุว่าตอนที่ท่านเข้ามา เศรษฐายังไม่ได้เป็นนายกฯ เลย ตัวผมก็ยังไม่รู้ว่าจะได้เป็นรัฐมนตรี ยธ. หรือเปล่า ตอนท่านทักษิณเข้ามา ท่านก็มีอาการที่ท่านพูดว่าป่วย แล้วก็ ส่ง รพ.ตำรวจ
“แต่สิ่งที่น่าเสียใจมากที่สุด คือ ท่านรังสิมันต์ ท่านจบนิติศาสตร์นะ ท่านทราบหรือไม่ว่าในกฎหมายราชทัณฑ์ คนที่เจ็บป่วยจะต้องส่งไปรักษาพยาบาล เขาให้ถือว่าสถานที่รักษาพยาบาลก็คือเรือนจำ ท่านยังไม่สะใจใช่ไหม ท่านจะให้ท่าน (ทักษิณ) ถูกทรมานหรือไง เราถือว่าสถานพยาบาลหรือ รพ.ที่ไปรักษา ปีหนึ่งก็เกือบแสนคนที่ผู้ต้องขังออกไปพักมากบ้างน้อยบ้าง เราก็ถือว่าสถานที่แห่งนั้นเป็นที่ควบคุม กระทรวงฯ ก็ยังเขียนว่า เป็นที่ควบคุมพิเศษ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของ รพ. ที่จะจัด และที่สำคัญ ถ้าท่านเกิดหนีจากที่ควบคุม ก็เหมือนหนีจากเรือนจำ การที่ท่านบอกว่าไม่มีสักวันเดียวที่ทักษิณติดคุก ท่านต้องการ (ใช้) วาทกรรมให้คนเข้าใจผิดใช้ไหม”
กางคะแนน ชี้ความยุติธรรมดีขึ้นจากเดิม
ทวีกล่าวว่า การวัดหลักความยุติธรรมโดย World Justice Mission ในปี 2566 เราอยู่ในอันดับที่ 82 แต่พอมาปี 2567 เราอยู่ในอันดับที่ 78
เรื่องการเคารพสิทธิขั้นพื้นฐาน เราเคยอยู่ในอันดับที่ 64 ขึ้นมาอันดับที่ 58 ซึ่งอันดับขึ้นมา หมายถึงดีขึ้น
การบังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรม เสมอภาค มีประสิทธิภาพ จากเดิมเคยอยู่ในอันดับที่ 68 ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 63
ในเรื่องกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ซึ่งเป็นการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลรวมถึงสิทธิผู้ต้องขัง เราได้คะแนนเพิ่ม จาก 42 ได้ขึ้นมาเป็น 43
ที่มา ประชาไท ( prachatai.com )