ไทยตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา กระทบแก๊งสแกมเมอร์ และชาวบ้านในเมียนมาแค่ไหน

หนึ่งวันก่อนที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะจับมือกันที่กรุงปักกิ่งเมื่อ 5 ก.พ. ประเทศไทยได้ระงับการขายไฟฟ้าและเชื้อเพลิงไปยังเขตชายแดนของเมียนมา

ในช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน กองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (Karen Border Guard Power – Karen BGF) ได้ปล่อยตัวเหยื่อการค้ามนุษย์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 61 คนกลับมายังฝั่งไทย

อะไรคือนัยสำคัญที่เกิดขึ้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ในระหว่างที่ผู้นำไทยไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการ

เมียวดีเผชิญความยากลำบากจากการตัดไฟเหนือความคาดหมาย

มีข้อกล่าวหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า กลุ่มอาชญากรออนไลน์ในเขตเมียวดี ประเทศเมียนมา ดำเนินการได้อย่างเป็นกิจจะลักษณะเพราะมีไฟฟ้าและสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ส่งไปจากฝั่งไทย

จีนกดดันไทยให้ปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ หลังเกิดเหตุการณ์พลเมืองจีนหลายร้อยคน รวมถึงเหล่าคนดังในโลกออนไลน์ของจีน ได้รับการช่วยเหลือจากเมืองชเวโก๊กโก่ ฝั่งเมียนมา

เรื่องแนะนำ

Discontinuance of เรื่องแนะนำ

พื้นที่ 5 แห่งตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา รวมถึงเมืองชเวโก๊กโก่ อ.เมียวดี ซึ่งเป็นที่ตั้งของธุรกิจ “จีนเทา” ไม่มีเชื้อเพลิงขายอีก หลังฝ่ายไทยสั่งตัดกระแสไฟฟ้าเมื่อวันที่ 5 ก.พ.

นี่ส่งผลให้เมียวดีไม่มีไฟฟ้าใช้ และประชาชนต้องไปยืนต่อแถวซื้อเชื้อเพลิงที่ปั๊มน้ำมัน

ปั๊มน้ำมันราวครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดกว่า 30 แห่งในเมียวดี ปิดให้บริการ ส่วนที่เปิดให้บริการก็จำหน่ายน้ำมันในปริมาณจำกัด

คุณสามารถซื้อน้ำมันในปริมาณเท่ากับขวดน้ำดื่มขนาด 1 ลิตร เพื่อเติมรถจักรยานยนต์ ในราคาประมาณ 5,000 จัต (ราว 80 บาท) ส่วนรถยนต์ก็ซื้อน้ำมันเติมได้ไม่เกิน 30,000 จัต (ราว 480 บาท) เพราะเมียวดีกำลังประสบปัญหาขาดแคลนเชื้อเพลิง

“สถานีเติมน้ำมันหลายแห่งปิดให้บริการ ผู้คนจึงรีบไปซื้อน้ำมันจากสถานีที่ยังเปิดอยู่มากักตุนไว้ มันยากลำบากมาก” โก สิธู ชาวเมืองเมียวดีกล่าว

ร้านรวงและธุรกิจในเมียวดี รวมถึงธนาคารเอกชนและสำนักงานของรัฐบาล ต้องปิดให้บริการเนื่องจากไฟฟ้าดับ

ที่มาของภาพ : CJ

ประชาชนต่อคิวซื้อน้ำมันที่เมียวดี

สำนักข่าวเคไอซี (Karen News Agency – KIC) รายงานว่า โรงพยาบาลหลักและโรงงานบรรจุถังออกซิเจนแห่งหนึ่งในเมียวดีซึ่งมีชื่อเสียง ได้ถูกปิดลงด้วยเช่นกันเนื่องจากไม่มีไฟฟ้าใช้

”พวกเขากำลังพยายามทำให้โรงพยาบาลและโรงงานบรรจุถังออกซิเจนกลับมาทำงานได้ โดยใช้เครื่องปั่นไฟ บางคนซื้อแผงโซลาเซลล์แล้วติดตั้งทันที มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและเป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้ที่ปกติใช้ไฟจากฝั่งไทย” นายโก ซิธู ชาวเมืองเมียวดีอธิบาย

เมืองชายแดนฝั่งกะเหรี่ยงที่ติดกับไทยต้องพึ่งพาไฟฟ้าและเชื้อเพลิงที่ไทยขาย โดยแต่ละเมืองต้องเผชิญกับ 3 ปัญหาหลัก ได้แก่

  • ขาดแคลนน้ำเนื่องจากไฟฟ้าดับ
  • ขาดแคลนเชื้อเพลิง
  • ขาดแคลนไฟฟ้าและออกซิเจนในโรงพยาบาล

ผู้ใช้รถยนต์คนหนึ่งในเมืองชเวโก๊กโก่กล่าวกับบีบีซีเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ว่า แม้ไทยจะตัดกระแสไฟฟ้าและเชื้อเพลิงที่ส่งไปยังเมียวดี ซึ่งเป็นตั้งของแก๊งสแกมเมอร์ แต่แก๊งเหล่านั้นก็ยังมีไฟใช้และยังปฏิบัติการอยู่

”พื้นที่ของจีนเทายังทำงานได้โดยใช้เครื่องปั่นไฟ พวกเขาปั่นไฟใช้เอง พวกเขามีอินเทอร์เน็ต 5G ด้วย ถึงแม้ไทยจะตัดไฟแล้ว แต่แก๊งสแกมเมอร์ก็ยังทำงานต่อไป ไม่ได้หายไปไหน” หญิงสาวที่ทำงานในชเวโก๊กโก่กล่าว

พันโทหน่าย หม่อง ส่อ โฆษกของ BGF บอกกับบีบีซีว่า การตัดไฟของไทยนั้นชอบธรรม แต่การกระทำดังกล่าวทำให้ประชาชนในเมียวดีต้องประสบความยากลำบาก

ที่มาของภาพ : CJ

เมืองชเวโก๊กโก่หลังถูกตัดไฟฟ้า

พระเจดีย์สามองค์ขาดแคลนไฟฟ้า-น้ำมัน

มา หล่า หล่า วิน ชาวบ้านในเมืองพระเจดีย์สามองค์ ร้องเรียนว่า ในขณะที่ชาวจีนถูกหลอกลวงโดยขบวนการค้ามนุษย์ซึ่งเป็นคนจีนด้วยกันเอง แต่ชาวเมียนมากลับต้องรับผลที่ตามมาจากปัญหานี้

ชาวบ้านบางส่วนกล่าวว่า แม้ในเมืองพระเจดีย์สามองค์จะไม่มีโรงงานขนาดใหญ่ แต่พวกเขาก็ประสบปัญหาในการทำมาค้าขายและการจัดหาไฟฟ้าให้บ้านเรือนที่ขาดกระแสไฟฟ้า

คำสั่งตัดไฟและน้ำมันแบบเหนือความคาดหมายของไทย ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายแสนคน

ที่มาของภาพ : CJ

มุมมองจากด่านเจดีย์สามองค์

กองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (Democratic Karen Buddhist Military – DKBA) ซึ่งควบคุมพื้นที่เมืองพญาตองซู ตรงข้ามด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี และพื้นที่ติดริมแม่น้ำเมย ตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก ตอบโต้ว่า การที่รัฐบาลไทยระงับการส่งออกไฟฟ้าและเชื้อเพลิง ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดน มากกว่าที่จะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนจีนเทาที่รัฐบาลไทยเล็งเป้าหมาย

ส่งมอบตัวเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ชายแดน

นอกจากนี้ ยังมีการส่งตัวเหยื่อของแก๊งอาชญากรรมฟอกเงินออนไลน์จำนวน 61 คนโดยกองกำลัง BGF กลับมายังฝั่งไทยเมื่อวานนี้ (6 ก.พ.)

สำหรับเหยื่อแก๊งสแกมเมอร์ 61 คน แบ่งเป็นชาวจีน 39 คน ชาวอินเดีย 13 คน ชาวอินโดนีเซีย 5 คน ส่วนที่เหลือเป็นชาวเอธิโอเปีย, ปากีสถาน, มาเลเซีย และคาซัคสถานอย่างละ 1 คน

BGF ส่งตัวคนเหล่านี้กลับมา เมื่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางไปถึง อ.แม่สอด

“เราจะเดินหน้าส่งตัวผู้คนที่เราพบและจับกุมได้เป็นกลุ่ม ๆ ต่อไป” พันเอกหน่าย หม่อง ส่อ โฆษก BGF กล่าวกับบีบีซี

นอกจากนี้ กองกำลัง BGF ยังได้รับการร้องขอจากสถานทูตของประเทศต่าง ๆ ให้ติดตามเหยื่อค้ามนุษย์ โดย BGF ระบุว่าจะดำเนินการค้นหาเหยื่อและผู้รอดชีวิตจากการค้ามนุษย์ต่อไป

”มีผู้คนหลายร้อยคนที่ร้องขอให้สถานทูตของตนช่วยค้นหาและช่วยเหลือพวกเขาผ่านทางเจ้าหน้าที่ โดยมีมากกว่า 100 รายแล้ว เราจะค้นหาและช่วยเหลือพวกเขาด้วย.. จริง ๆ แล้วพวกเขาอยู่ทุกที่ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะค้นหา” โฆษก BGF กล่าว

กรุงเทพฯ-ปักกิ่ง-เมียวดี ร่วมต่อสู้แก๊งสแกมเมอร์

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ของไทย ยังได้หารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินออนไลน์ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ในระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 6 ก.พ.

นายกฯ แพทองธารกล่าวว่า ความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทย เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุด ไทยพร้อมเดินหน้าความร่วมมือกับจีนสกัดกั้นกระบวนการอาชญากรรมที่ผ่านประเทศไทย และจะเตือนภัยผ่านกลไกความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงประเทศที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดจริงจังในประเด็นนี้

ด้าน สี จิ้นผิง กล่าวว่า เป้าหมายหลักของทั้ง 2 ประเทศ คือการปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาจีนได้ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและท้องถิ่น สามารถปราบปรามยาเสพติดจนประสบความสำเร็จ อาชญากรรมข้ามชาติถือเป็นความท้าทาย มีความเสี่ยงสูง และชื่นชมรัฐบาลไทยที่พยายามอย่างเต็มที่และเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการตัดน้ำ ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน ซึ่งจะสามารถตัดวงจรกิจกรรมอาชญากรรมต่าง ๆ ได้ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามจะดูแลความปลอดภัยและผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศด้วยการยกระดับการบังคับใช้กฎหมายทั้งในระดับทวิภาคีและอนุภูมิภาค

บีบีซีถามโฆษก BGF ว่าคิดอย่างไรกับการหารือเรื่องการเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีไทยเกี่ยวกับการต่อสู้กับแก๊งสแกมเมอร์ที่ชายแดนไทย-เมียนมา เขาตอบว่า “ประเทศที่มีอำนาจจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี้โดยผ่านความร่วมมือ มากกว่าการใช้แรงกดดัน”

เขากล่าวว่า BGF จะร่วมมือกับชุมชนระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามกิจกรรมลักลอบค้ามนุษย์และก่ออาชญากรรมในเขตเมียวดีทั้งหมด และกำลังดำเนินการตามแถลงการณ์นั้น

โฆษก BGF บอกบีบีซีด้วยว่า พวกเขามีแผนที่จะส่งตัวทั้งผู้ประกอบธุรกิจผิดกฎหมายและเหยื่อแก๊งสแกมเมอร์ ออกจากศูนย์สแกมเมอร์ในชเวโก๊กโก่ กลับประเทศให้ได้อย่างน้อย 1,000 คนต่อเดือน

”หลังจากนี้ เราจะไม่เพียงแค่ส่งตัวผู้ที่ถูกจับกุมออกไปเท่านั้น แต่ยังจะเนรเทXพวกเขาบางส่วนด้วย แต่การเนรเทศนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐ ดังนั้นจึงอาจล่าช้าเล็กน้อย” เขาแจกแจงเพื่อตอบโต้คำวิจารณ์ที่ว่าความพยายามกำจัดแก๊งสแกมเมอร์ของ BGF นั้นล่าช้า