จากเวทีเจรจาสหรัฐฯ-รัสเซีย ที่ไร้เงายูเครน และทรัมป์เรียกเซเลนสกีว่า ‘เผด็จการ' อะไรทำให้สัมพันธ์สองชาติร้าวฉานขึ้น

- Author, กาบรีเอลา โพเมอรอย และจอร์จ ไรต์
- Characteristic, บีบีซีนิวส์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ใช้เวลาทั้งวันโจมตีประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี โดยเรียกเขาว่า “เผด็จการ” และสร้างรอยร้าวระหว่างทั้งสองผู้นำลึกขึ้นกว่าเดิม
การโจมตีของทรัมป์เกิดขึ้นหลังจากที่เซเลนสกีแสดงความเห็นต่อการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งยูเครนถูกกีดกันออกไป โดยเขากล่าวว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ “กำลังอยู่ในโลกแห่งข้อมูลที่ถูกบิดเบือน” ซึ่งถูกควบคุมโดยรัฐบาลรัสเซีย
ขณะกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมการลงทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากซาอุดีอาระเบียในรัฐฟลอริดา ทรัมป์ระบุว่าสิ่งเดียวที่เซเลนสกี “ทำได้ดีจริง ๆ คือการควบคุมหรือชักใย โจ ไบเดนได้อย่างชำนาญ”
คำกล่าวหาเรื่อง “เผด็จการ” ของทรัมป์จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรวดเร็วจากบรรดาผู้นำยุโรป รวมถึงนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี ซึ่งกล่าวว่า “เป็นเรื่องผิดและอันตรายอย่างยิ่งที่จะปฏิเสธความชอบธรรมทางประชาธิปไตยของประธานาธิบดีเซเลนสกี”

ที่มาของภาพ : Truth Social
ในโพสต์บน Truth Social แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขาเอง ทรัมป์กล่าวหาประธานาธิบดีเซเลนสกี หลายอย่าง อาทิ “การเป็นเผด็จการที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง”
นี่คือคำแปลของข้อความที่ทรัมป์โพสต์:
- “ลองคิดดูนะ นักแสดงตลกที่ประสบความสำเร็จพอประมาณอย่าง โวโลดีมีร์ เซเลนสกี โน้มน้าวให้สหรัฐอเมริกาทุ่มเงิน 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเข้าสู่สงครามที่ไม่มีทางชนะ และไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นตั้งแต่แรก นี่เป็นสงครามที่หากไม่มีสหรัฐฯ และ “ทรัมป์” ก็จะไม่มีวันยุติลงได้
- สหรัฐฯ ทุ่มเงินมากกว่ายุโรปถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่เงินของยุโรปได้รับการรับประกัน แต่สหรัฐฯ จะไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย ทำไมไบเดนขี้เซา ฉายาที่ฝ่ายตรงกับข้ามกับโจ ไบเดน มักใช้เรียกเขา ไม่เรียกร้องให้เกิดความสมดุลกัน ในเมื่อสงครามครั้งนี้สำคัญต่อยุโรปมากกว่าสหรัฐฯ เรามีมหาสมุทรที่กว้างใหญ่และสวยงามเป็นเขตแบ่งกั้น
- ยิ่งไปกว่านั้นคือ เซเลนสกียังยอมรับว่า เงินครึ่งหนึ่งที่เราส่งให้เขา “หายไป” เขาปฏิเสธที่จะจัดการเลือกตั้ง คะแนนนิยมของเขาในยูเครนต่ำมาก และสิ่งเดียวที่เขาทำได้ดีคือ หลอกใช้ไบเดน “อย่างชำนิชำนาญ”
- เผด็จการที่ไม่มีการเลือกตั้ง เซเลนสกีต้องรีบทำอะไรสักอย่าง มิฉะนั้นเขาอาจไม่มีประเทศเหลือให้ปกครอง
- ในขณะเดียวกัน เรากำลังเจรจาเพื่อยุติสงครามกับรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทุกคนยอมรับว่ามีเพียง “ทรัมป์” และรัฐบาลทรัมป์เท่านั้นที่สามารถทำได้
- ไบเดนไม่เคยพยายาม ยุโรปล้มเหลวในการนำสันติภาพกลับมา และเซเลนสกีอาจต้องการให้ “ขบวนรถแห่งผลประโยชน์” ดำเนินต่อไป
- ผมรักยูเครน แต่เซเลนสกีบริหารประเทศได้แย่มาก ประเทศของเขาพังพินาศ และผู้คนนับล้านต้องxายอย่างไม่จำเป็น และมันยังคงดำเนินต่อไป…”
ข้อเท็จจริงจากคำกล่าวอ้างของทรัมป์
- ข้อกล่าวหา: เซเลนสกีเป็น ‘เผด็จการที่ไม่มีการเลือกตั้ง'
ทรัมป์พยายามชี้ให้เห็นว่ายูเครนไม่ได้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งเป็นปีที่เซเลนสกี อดีตนักแสดงตลกที่ไม่มีฐานอำนาจทางการเมืองมาก่อน ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย
ตามกำหนดเดิม วาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปีแรกของเซเลนสกีจะสิ้นสุดลงในเดือน พ.ค. 2024 อย่างไรก็ตาม ยูเครนอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกมาตั้งแต่รัสเซียรุกรานในเดือน ก.พ. 2022 ซึ่งทำให้การเลือกตั้งถูกระงับ
กฎหมายกฎอัยการศึกของยูเครนถูกร่างขึ้นตั้งแต่ปี 2015 ไม่นานหลังจากที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมีย และหลายปีก่อนที่เซเลนสกีและพรรค Servant of the Of us อาจแปลเป็นภาษาไทยว่า “ผู้รับใช้ของประชาชน” จะขึ้นสู่อำนาจ
ผู้สังเกตการณ์อิสระจากองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ระบุว่าการเลือกตั้งปี 2019 เป็น “การแข่งขันอย่างเสรีและเสรีภาพขั้นพื้นฐานโดยทั่วไปได้รับการเคารพ”
ในครั้งนั้นเซเลนสกีได้รับคะแนนเสียงถึง 73% ในการเลือกตั้งรอบที่สอง
เซเลนสกีให้คำมั่นว่าจะจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่หลังจากสงครามสิ้นสุดลงและยังไม่ได้ยืนยันว่าเขาจะลงสมัครอีกครั้ง นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่าการจัดการเลือกตั้งในยูเครนขณะที่สงครามยังดำเนินอยู่ แทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากรัสเซียยังคงโจมตีหลายเมืองอย่างต่อเนื่อง และมีพลเมืองยูเครนนับล้านต้องพลัดถิ่นในต่างประเทศหรืออาศัยอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย
การแสดงความคิดเห็นของทรัมป์เกี่ยวกับประเด็นนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่รัฐบาลรัสเซียตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของเซเลนสกี โดยอ้างว่าวาระของเขาสิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่มอสโกเคยกล่าวซ้ำหลายครั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสื่อรัสเซียและกล่าวว่าเซเลนสกีนั้น “ไร้ความชอบธรรม”
เมื่อกล่าวถึงประเด็นการเลือกตั้ง ทรัมป์ดูเหมือนจะตระหนักว่าข้อกล่าวหานี้ถูกรัสเซียใช้เป็นเครื่องมือบ่อนทำลายเซเลนสกีเช่นเดียวกัน เขาตอบในงานแถลงข่าวว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องที่มาจากรัสเซีย แต่มาจากผมและประเทศอื่น ๆ”
ขณะที่เซเลนสกีเองเคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า “เป็นเรื่องที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างยิ่งที่จะหยิบยกประเด็นการเลือกตั้งขึ้นมาในช่วงกลางของสงคราม”

- ข้อกล่าวหา: “คุณไม่ควรจะเริ่มมันตั้งแต่แรก”
ทางการยูเครนแสดงความไม่พอใจต่อการไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเจรจาที่จัดขึ้นเมื่ออังคาร (18 ก.พ.) ในกรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย แต่ทรัมป์กลับปฏิเสธข้อกังวลนี้ โดยบอกผู้สื่อข่าวว่ายูเครนมีเวลาถึง 3 ปีในการยุติสงคราม ก่อนจะพูดในเชิงโทษรัฐบาลยูเครนว่าเป็นผู้เริ่มต้นความขัดแย้ง
“คุณไม่ควรจะเริ่มมันตั้งแต่แรก” ทรัมป์กล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ รัสเซียเองก็เคยกล่าวหายูเครนว่าเป็นฝ่ายเริ่มทำสงครามกับรัสเซีย
“พวกเขานั่นแหละที่เริ่มทำสงครามในปี 2014 เป้าหมายของเราคือหยุดสงครามนี้ และเราไม่ได้เริ่มสงครามในปี 2022” ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวกับทักเกอร์ คาร์ลสัน พิธีกรรายการทอล์กโชว์ในสหรัฐฯ เมื่อเดือน ก.พ. 2024
อย่างไรก็ตาม ยูเครนไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มสงคราม แต่เป็นรัสเซียที่เปิดฉากรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในเดือน ก.พ. 2022 หลังจากผนวกคาบสมุทรไครเมียในปี 2014
การผนวกคาบสมุทรเกิดขึ้นภายหลังที่ประธานาธิบดียูเครน ผู้ฝักใฝ่รัสเซียถูกขับออกจากตำแหน่งโดยการประท้วงของประชาชน
รัสเซียยังสนับสนุนกองกำลังตัวแทนที่เข้ายึดครองพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน พร้อมกับกล่าวหาว่ารัฐบาลใหม่ในกรุงเคียฟเลือกปฏิบัติและก่อการx่าล้างเผ่าพันธุ์ประชากรที่พูดภาษารัสเซีย ซึ่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ตีตกข้อกล่าวหานี้
หลังความล้มเหลวของข้อตกลงที่มุ่งยุติความขัดแย้งหลังปี 2014 รัสเซียจึงเริ่มระดมกำลังทหารจำนวนมหาศาลตามแนวชายแดนติดยูเครนในช่วงปลายปี 2021
ปูตินเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2022 โดยระบุว่า จุดประสงค์ของปฏิบัติการครั้งนี้คือ “ปลดอาวุธและกำจัดลัทธินาซี” ต่อรัฐบาลยูเครนของนายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ที่สนับสนุนตะวันตกและสกัดไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมกับนาโต
ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาครั้งล่าสุดของยูเครน ผู้สมัครกลุ่มขวาจัดได้คะแนนเสียงเพียง 2% อีกทั้งควรทราบว่าเซเลนสกีเป็นชาวยิว และพรรคของเขาถูกมองว่าเป็นพรรคสายกลาง
แม้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของนาโตจะระบุในปี 2021 ว่ายูเครนเป็น “ผู้สมัคร” ที่อาจเข้าร่วมพันธมิตรตะวันตกในอนาคต แต่ยูเครนยังไม่ได้อยู่ในกระบวนการอย่างเป็นทางการใด ๆ
กระแสโต้ทรัมป์จากฝั่งยุโรป
เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเขาสนับสนุนประธานาธิบดีเซเลนสกี ในการสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำยูเครน
โฆษกของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ระบุว่า เซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ “แสดงการสนับสนุนต่อประธานาธิบดีเซเลนสกี ในฐานะผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยของยูเครน” พร้อมเสริมว่า “การระงับการเลือกตั้งในช่วงสงครามเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับที่สหราชอาณาจักรเคยทำในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง”
ด้านนายอูล์ฟ คริสเตอร์ซอน นายกรัฐมนตรีสวีเดน ออกมาวิจารณ์การที่ทรัมป์ใช้คำว่า “เผด็จการ” เช่นกัน ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา แบร์บ็อก เรียกคำพูดดังกล่าวว่า “ไร้สาระ” โดยเธอกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ ZDF ว่า “ถ้าคุณมองโลกความเป็นจริง แทนที่จะทวีตข้อความออกไป คุณจะรู้ว่าใครในยุโรปที่ต้องมีชีวิตอยู่ภายใต้เงื่อนไขของการปกครองแบบเผด็จการ นั่นคือประชาชนในรัสเซียและเบลารุส”
ด้านนายอาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค อดีตนายกรัฐมนตรียูเครน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า รัสเซียกำลัง “เปิดแชมเปญฉลองกันอยู่ตอนนี้” หลังจากทรัมป์ให้สัมภาษณ์ในลักษณะดังกล่าว
“โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เป็นประธานาธิบดีที่ชอบธรรมโดยสมบูรณ์” เขากล่าว “เราไม่สามารถจัดการเลือกตั้งภายใต้กฎอัยการศึกได้”
สงครามน้ำลายเริ่มต้นขึ้นจากคำพูดของทรัมป์เมื่อวันอังคาร (18 ก.พ.) ในงานแถลงข่าวที่มาร์อาลาโก รัฐฟลอริดา เมื่อเขาโทษยูเครนว่าเป็นต้นเหตุของสงคราม
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ไม่ได้กล่าวถึงการตัดสินใจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่สั่งรุกรานยูเครนในเดือน ก.พ. 2022 แม้แต่น้อย
ต่อมาในวันพุธ (19 ก.พ.) เซเลนสกีกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงเคียฟว่า “เราเห็นข้อมูลที่บิดเบือนจำนวนมาก และมันมาจากรัสเซีย ด้วยความเคารพต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะผู้นำ… เขากำลังอยู่ในพื้นที่ที่ถูกข้อมูลบิดเบือน” เขายังเชื่อด้วยว่า “สหรัฐฯ ช่วยให้ปูตินหลุดพ้นจากการถูกโดดเดี่ยวมานานหลายปี”
ต่อมาในวันเดียวกัน ผู้นำยูเครนระบุว่าโลกกำลังเผชิญทางเลือกที่จะ “ยืนอยู่ข้างปูตินหรืออยู่ข้างสันติภาพ” และประกาศว่าเขาจะพบกับคีธ เคลล็อก ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (20 ก.พ.)

ก่อนหน้านี้ เซเลนสกียังปฏิเสธความพยายามของทรัมป์ที่จะเข้าถึงแร่ธาตุหายากในยูเครน โดยระบุว่าไม่มีการมอบหลักประกันด้านความมั่นคงใด ๆ ให้เป็นข้อแลกเปลี่ยน
ทรัมป์พยายามสร้างประเด็นเรื่องความนิยมของเซเลนสกี โดยอ้างว่าประธานาธิบดียูเครนมีคะแนนความนิยมเพียง 4% อย่างไรก็ตาม บีบีซี เวริฟาย (BBC Examine) รายงานว่าผลสำรวจที่จัดทำในเดือนนี้พบว่า 57% ของชาวยูเครนระบุว่า พวกเขาให้ความไว้วางใจกับประธานาธิบดี
ในข้อความที่ทรัมป์โพสต์บนทรูธ โซเชียล เมื่อวันพุธ ทรัมป์โจมตียุโรปโดยกล่าวว่า สงครามในยูเครน “สำคัญต่อยุโรปมากกว่าสหรัฐฯ” และ “เรามีมหาสมุทรที่กว้างใหญ่และสวยงามเป็นเขตแบ่งกั้น” พร้อมเสริมว่า ยุโรป “ล้มเหลวในการนำสันติภาพ” มาสู่ภูมิภาคนี้
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยระบุว่าเขาจะพบทรัมป์ “ด้วยความยินดี”
ทางด้านสหภาพยุโรป (EU) พวกเขาได้ประกาศว่าจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย โดยมาตรการใหม่เหล่านี้จะมุ่งเป้าไปที่อะลูมิเนียมของรัสเซีย และเรืออีกหลายสิบลำที่ต้องสงสัยว่าลักลอบขนส่งน้ำมัน นอกจากนี้ อียูยังเตรียมตัดธนาคารรัสเซียหลายแห่งออกจากระบบการชำระเงิน สวิฟต์ รวมถึงสั่งห้ามสื่อรัสเซียเพิ่มเติมไม่ให้แพร่ภาพออกอากาศในยุโรป
รายงานเพิ่มเติมโดย บีบีซี เวริฟาย (BBC Examine) แผนกตรวจสอบข้อเท็จจริงของบีบีซี
ที่มา BBC.co.uk