Doge คืออะไร และอีลอน มัสก์ มีอิทธิพลในทำเนียบขาวมากเกินไปหรือไม่

data
- Creator, เจมส์ ฟิตซ์เจอรัลด์ และ ฮอลลี ฮอนเดอริช
- Role, บีบีซีนิวส์ ณ กรุงลอนดอน และ กรุงวอชิงตัน ดีซี
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ได้จัดตั้งหน่วยงานที่ปรึกษาใหม่ขึ้นมา โดยมีบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเป็นผู้นำ หน้าที่สำคัญของหน่วยงานนี้คือการลดจำนวนพนักงานของรัฐบาลกลางและตัดงบประมาณด้านต่าง ๆ
อีลอน มัสก์ เป็นผู้นำในความพยายามปรับลดจำนวนข้าราชการลงอย่างมากครั้งนี้ รวมถึงการกำจัดสิ่งที่เขามองว่าเป็นการใช้ภาษีของประชาชนอย่างสิ้นเปลือง
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เขาก่อตั้งขึ้นภายใต้ชื่อ กระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล หรือ Department of Authorities Effectivity (Doge) อ่านว่า “โดจ” ต้องเผชิญกับอุปสรรคทางกฎหมาย ข้อกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และความกังวลว่ามันจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงกับสหรัฐฯ
ขณะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในห้องทำงานรูปไข่ มัสก์ได้พยายามปกป้องแผนการของเขา และปฏิเสธข้อกล่าวหาจากพรรคเดโมแครตฝ่ายตรงข้ามที่มองว่าเขากำลัง “เข้ายึดรัฐบาลอย่างเป็นปฏิปักษ์”
ผลสำรวจความคิดเห็นชี้ให้เห็นว่า แนวคิดในการปรับลดงบประมาณของรัฐบาลได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวาง
and proceed readingเรื่องแนะนำ
End of เรื่องแนะนำ
Doge คืออะไร ?
แม้จะใช้คำว่า “กระทรวง” แต่ Doge ไม่ใช่กระทรวงอย่างเป็นทางการภายใต้รัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากการตั้งกระทรวงใหม่ ต้องได้รับการจัดตั้งผ่านกฎหมายที่ออกโดยสภาคองเกรส
แต่ Doge ถูกก่อตั้งขึ้นโดยคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับหนึ่งของประธานาธิบดีทรัมป์ และดำเนินงานในฐานะหน่วยงานที่ปรึกษา โดยมีพนักงานอย่างน้อยสี่คนที่รับผิดชอบแต่ละหน่วยงานของรัฐบาล
ตามคำสั่งดังกล่าว ภารกิจส่วนหนึ่งของ Doge เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงระบบไอทีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งนี้ หน่วยงานดังกล่าวต้องดำเนินงานให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ค. 2026
บุคลากรของ Doge ส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี รวมถึงพนักงานคนหนึ่งที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ หลังจากถูกเชื่อมโยงกับบัญชีโซเชียลมีเดียที่มีเนื้อหาเหยียดเชื้อชาติ ซึ่งมัสก์ให้คำมั่นว่าจะรับเขากลับเข้าทำงานอีกครั้ง
อีลอน มัสก์ เป็นพนักงานของรัฐบาลหรือไม่ ?
แม้ตอนแรก มัสก์ได้ระบุว่าเขาจะทำงานในฐานะอาสาสมัครภายนอก แต่ต่อมาทำเนียบขาวก็ชี้แจงว่าเขากำลังปฏิบัติงานในฐานะ “ลูกจ้างพิเศษของรัฐบาลที่ไม่ได้รับค่าตอบแทน”
สถานะนี้ถูกกำหนดอย่างเป็นทางการให้ครอบคลุมบุคคลที่ทำงานให้รัฐบาลเป็นระยะเวลาไม่เกิน 130 วันต่อปี
ผู้ที่เห็นด้วยและสนับสนุนหน่วยงานใหม่นี้บางคนเห็นว่า “สถานะคนนอก” ของ Doge รวมถึงอำนาจหน้าที่ที่ค่อนข้างคลุมเครืออาจเป็นข้อได้เปรียบ
“พวกเขาไม่ถูกผูกมัดกับระบบราชการและกระบวนการที่ทำให้ทุกอย่างล่าช้า”
เควิน เครเมอร์ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐนอร์ทดาโกตา กล่าวกับบีบีซี
“ผมคิดว่าการไม่มีข้อจำกัดที่เข้มงวด อาจเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ที่มาของภาพ : Getty Photography
Doge ทำอะไรไปแล้วบ้าง ?
มัสก์ระบุว่าภารกิจของ Doge คือการประหยัดเงินภาษีของประชาชนและลดหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 36 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,200 ล้านล้านบาท) ลง
ในช่วงแรก เขาประกาศว่าเป้าหมายคือการประหยัดงบประมาณให้ได้มากถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 67 ล้านล้านบาท) ต่อปี แต่ต่อมาได้ปรับลดตัวเลขดังกล่าวลง
มัสก์ยังกล่าวว่าเขาต้องการยุติ “เผด็จการของระบบราชการ” ซึ่งเขาอธิบายว่าเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยฝ่ายที่สี่ (นอกเหนือจากฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ) “ที่ทำงานขัดขวางนโยบายของทรัมป์” อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์มองว่ามูลเหตุจูงใจของ Doge เป็นเรื่องอุดมการณ์ที่ตรงไปตรงมากว่านั้น
“พวกเขาไม่ได้เข้าไปแทรกแซงหน่วยงานที่พวกเขาชื่นชอบ แต่เข้าไปในหน่วยงานที่พวกเขาไม่เห็นด้วย” ดักลาส โฮลทซ์-อีคิน อดีตผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณรัฐสภาสหรัฐฯ (Congressional Finances Space of industrial – CBO) กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์
นับจนถึงตอนนี้ ยังไม่ชัดเจนว่า Doge สามารถประหยัดงบประมาณไปได้เท่าใด แต่บัญชีเอ็กซ์ขององค์กรนี้มักโพสต์อัปเดตเป็นระยะ และฉลองความสำเร็จถึงสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าตัดงบประมาณได้
การดำเนินการสำคัญของ Doge ที่เป็นข่าวดัง ได้แก่:
- การส่งตัวแทนเข้าไปในหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งเพื่อตรวจสอบการใช้จ่าย ทรัมป์กล่าวว่าพวกเขาพบ “การฉ้อโกงและการใช้งบประมาณในทางที่ผิด” แต่ไม่ได้ให้หลักฐานประกอบเพิ่มเติม
- การตัดงบประมาณของโครงการที่เกี่ยวข้องกับ “การตื่นรู้ทางสังคม” หรือ “โวก” (woke) โดยมัสก์กล่าวว่าทีมของเขา “ช่วยประหยัดเงินภาษีได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการลดงบประมาณที่ใช้ในนโยบายด้านความหลากหลายและความเท่าเทียม
- การลดบทบาทของ USAID ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือด้านการต่างประเทศหลักของสหรัฐฯ ที่ให้ทุนแก่โครงการในหลายสิบประเทศ โดยทั้งมัสก์และทรัมป์มองว่าเป็น “การใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง”
- การเสนอจ้างข้าราชการ 2 ล้านตำแหน่งให้ลาออก เพื่อลดขนาดข้าราชการของรัฐบาลกลาง
- การพยายามเข้าควบคุมหรืออาจปิดสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคทางการเงิน (Particular person Financial Safety Bureau – CFPB) ซึ่งก่อตั้งขึ้นหลังวิกฤติการเงินปี 2007-2008 เพื่อปกป้องผู้บริโภค แต่ถูกกล่าวหาจากพรรครีพับลิกันว่า “ใช้อำนาจเกินขอบเขต”

ชาวอเมริกันคิดอย่างไร ?
Doge ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างกว้างขวาง ตามผลสำรวจของ CBS News ซึ่งเป็นพันธมิตรของบีบีซีในสหรัฐฯ
ผลสำรวจระบุว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่เลือกพรรครีพับลิกัน สนับสนุนการดำเนินงานของ Doge แม้ว่าจะมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับอิทธิพลส่วนตัวของมัสก์ต่อโครงการนี้
ปัจจุบันสหรัฐฯ มีข้าราชการประจำมากกว่า 2 ล้านคน โดยหนึ่งในการเพิ่มจำนวนข้าราชการครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นในปี 2023 อันเป็นผลมาจากการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลไบเดนในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน
เดวิด ดิทช์ นักวิเคราะห์อาวุโสจากศูนย์นวัตกรรมนโยบายด้านเศรษฐกิจ (Financial Policy Innovation Center) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเชิงอนุรักษ์นิยม กล่าวว่า Doge มีบทบาทที่จำเป็น
“พวกเขากำลังส่องไฟให้เห็นจุดต่าง ๆ ของรัฐบาลกลาง และตั้งคำถามกับสาธารณชน รวมถึงสมาชิกสายกลางของพรรครีพับลิกันว่า นี่คือวิธีที่คุณต้องการให้เงินภาษีของอเมริกาถูกใช้ไปหรือ”

Doge เผชิญกับการคัดค้านอะไรบ้าง ?
ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองและองค์กรตรวจสอบรัฐบาลกล่าวหา Doge ว่าขาดความโปร่งใสและเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล นอกจากนี้ พวกเขายังมองว่า มัสก์ใช้อำนาจเกินขอบเขตในฐานะบุคคลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
นักวิจารณ์ยังชี้ให้เห็นถึงผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากบริษัทของมัสก์มีสัญญามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐกับรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์และมัสก์ย้ำว่าปัญหานี้จะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ
กลุ่มต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงสหภาพแรงงานหลายแห่งและอัยการสูงสุดของหลายรัฐ ได้ยื่นฟ้อง Doge และรัฐบาลทรัมป์ โดยกล่าวหาว่าพวกเขากำลังแทรกแซงงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจของประธานาธิบดี ทั้งนี้ ทำเนียบขาวปฏิเสธว่า Doge ไม่ได้ละเมิดกฎหมายใด ๆ
ศาลได้เข้ามาแทรกแซงหลายครั้งเพื่อระงับมาตรการตัดงบประมาณของ Doge และมีอย่างน้อยหนึ่งครั้งที่ได้มีคำสั่งห้าม Doge เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในฐานข้อมูลของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ
ขณะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในห้องทำงานรูปไข่ มัสก์ยอมรับว่า เขาคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด แต่ยืนยันว่าประชาชนชาวอเมริกันลงคะแนนเสียงเลือกทรัมป์เพื่อให้เกิดการปฏิรูปรัฐบาลตาม “สามัญสำนึก”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนตั้งคำถามว่า มัสก์จะสามารถทำตามคำมั่นสัญญาอันยิ่งใหญ่ของเขาได้จริงหรือไม่
อีเลน คามาร์ก นักวิจัยอาวุโสด้านการบริหารภาครัฐจากสถาบันบรูกกิงส์ (Brookings Institution) ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า “ความพยายามในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้จ่ายของรัฐบาลสามารถทำได้” โดยอ้างอิงจากประสบการณ์ของเธอที่เคยทำงานให้กับประธานาธิบดีบิล คลินตันในช่วงทศวรรษ 1990
อย่างไรก็ตาม เธอวิจารณ์แนวคิดของมัสก์ที่ต้องการลดงบประมาณรัฐบาลลงถึงหนึ่งในสามว่า เป็นเรื่องที่ “ไร้สาระ” เนื่องจากงบประมาณส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายภาคบังคับ ซึ่งนี่รวมถึงโครงการยอดนิยมอย่างประกันสังคมและ Medicare
รายงานเพิ่มเติมโดย เจสสิกา พาร์คเกอร์ และ ไค พิกลิอุชชี
ที่มา BBC.co.uk