KBANK แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นชอบจ่ายเงินปันผลกรณีพิเศษเพิ่มเติม หุ้นละ 2.50 บาท รวมกับการอนุมัติเงินปันผลงวดสุดท้าย เป็น 12 บาท นัดจ่ายเงินปันผล 6 มิ.ย.68 – กัลฟ์ ติดลำดับ 5 ถือ 77 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.25 % ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย ครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 อนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2567 แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษในอัตราหุ้นละ 2.50 บาท
ทั้งนี้ธนาคารได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท และได้เสนอขออนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้าย ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 9 เมษายน 2568 ในอัตราหุ้นละ 8.00 บาท ซึ่งเมื่อร่วมกับการเสนอขอจ่ายเงินปันผันเป็นกรณีพิเศษครั้งนี้ ในอัตราหุ้นละ 2.50 บาท รวมเป็น 12.00 บาท
โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 6 มิถุนายน 2568
นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยยังแจ้งต่อตลท.ว่า อนุมัติให้จัดประประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568 ในวันพุธที่ 7 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตามพระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 รวมถึงกฎหมายและระเบียนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568 ในวันที่ 28 มีนาคม 2568 โดยมีระเบียยวาระดังต่อไปนี้
1.พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลกรณีพิเศษ
ความเห็นคณะกรรมการ เเห็นควรเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2567 แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษในอัตราหุ้นละ 2.50 บาท เป็นเงิน 5,923,318,982.50 บาท
ทั้งนี้ ธนาคารได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท เป็นเงิน 3,553,901,389.50 บาท และเสนอขออนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้าย ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 9 เมษายน 2568 ในอัตราหุ้นละ 8.00 บาท เป็นเงิน 18,954,620,744.00 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับการเสนอขอจ่ายเงินปันผลเป็นกรณีพิเศษครั้งนี้ ในอัตราทุนละ 2.50 บาท รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 28,431,931,116.00 บาท
โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในในวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ทั้งนี้ เงินปันผลจ่ายจากกำไรสะสมที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 20 ซึ่ง ผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถขอเครดิตภาษีเงินปันผลคืนได้ในอัตรา 20/80 ของเงินปันผลที่ได้รับ
2.พิจารณาอนุมัติแก้ไขข้อบังคับของธนาคาร
ความเห็นของคณะกรรมการ เห็นควรเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติแก้ไขข้อบังคับของธนาคาร ข้อ 9. วรรคหนึ่ง เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับโครงสร้างคณะกรรมการธนาคาร โดยการปรับลดจำนวนกรรมการในคณะกรรมการ และเพื่อส่งเสริมหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามมาตรฐานสากล รวมถึงมีความคล่องตัวยิ่งขึ้นในการรับมือกับโอกาสและความท้าทายในอนาคต ตามที่ได้สื่อความพันธสัญญานี้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนไปแล้ว (ดูรูปภาพในตารางประกอบ)
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 13 มีนาคม 2568 เฉพาะ 5 รายแรก ประกอบด้วย
ลำดับ 1 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 365,394,442 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 15.42
ลำดับ 2 STATE STREET LIMITED จำนวน 177,909,519 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 7.51
ลำดับ 3 SOTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED จำนวน 114,429,498 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 4.83
ลำดับ 4 สำนักงานประกันสังคม จำนวน 80,643,140 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 3.40
ลำดับ 5 บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 77,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 3.25
ทั้งนี้ KBANK ราคาหุ้น ณ วันที่ 19 มี.ค.68 จำนวน 157.50 บาทต่อหุ้น
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )