‘ครม.’ ไฟเขียว ‘แบงก์อิสลาม’ แสวงหาพันธมิตรร่วมทุนทั้งใน-ต่างประเทศ แต่ ‘ก.คลัง’ ยังต้องถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 10% ด้าน ‘กฤษฎีกา’ ชี้แม้ ‘ธอท.’ พ้นสถานะ ‘รัฐวิสาหกิจ’ แต่ ‘รมว.คลัง’ ยังกำกับดูแลฯได้
…………………………….
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) แสวงหาพันธมิตรร่วมทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเข้าร่วมลงทุนในธนาคารอิสลามฯ โดยการแสวงหาพันธมิตรร่วมทุนฯ จะต้องไม่ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังต่ำกว่า 10% ในช่วง 1 ปี นับจากวันที่การสรรหาพันธมิตรร่วมทุนเสร็จสมบูรณ์
ขณะเดียวกัน พันธมิตรร่วมทุนฯจะต้องมีข้อเสนอเกี่ยวกับการดูแลพนักงานธนาคารอิสลามฯ ที่เหมาะสมและเป็นธรรม และขั้นตอนการสรรหาพันธมิตรร่วมทุนให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ การที่ ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการให้ธนาคารอิสลามฯ แสวงหาพันธมิตรร่วมทุนทั้งในและต่างประเทศดังกล่าว เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2567
กระทรวงการคลังรายงาน ครม. ว่า ธอท. จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ.2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (พ.ร.บ.ธนาคารอิสลามฯ) เพื่อเป็นช่องทางในการให้บริการทางการเงินที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม โดยแรกเริ่ม ธอท. ดำเนินกิจการในรูปแบบธุรกิจเอกชน มีกระทรวงการคลัง และธนาคารออมสิน ถือหุ้นร้อยละ 14.207 และร้อยละ 10.045 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ตามลำดับ
ต่อมาในปี 2550 ธอท. ประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง โดยมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non- Performing Financings : NPFs) เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ภาครัฐจึงเพิ่มทุนให้กับ ธอท. ตามมติคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 2 ต.ค.2550 ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของภาครัฐใน ธอท. เกินร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน ธอท. จึงมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2502 ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้เพิ่มทุนให้กับ ธอท. แล้วจำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นจำนวน 23,062.36 ล้านบาทและคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) มีมติให้ ธอท. สรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนตั้งแต่ปี 2558 โดย ธอท. ได้ดำเนินการสรรหาพันธมิตรแล้ว 2 ครั้ง ซึ่ง ธอท. ยังไม่สามารถสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนได้
ประกอบกับในปี 2560 คนร.มีมติให้กระทรวงการคลังจัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อรับโอนหนี้เสียในส่วนของลูกค้าที่ไม่ใช่มุสลิม จำนวน 22,381.07 ล้านบาท ของ ธอท. ไปบริหาร แต่ ธอท. ยังคงมีปัญหาการบริหารจัดการ ซึ่ง คนร. ได้แก้ไขปัญหาของ ธอท. มาอย่างต่อเนื่อง คนร. ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2566 จึงได้มีมติให้ ธอท. ดำเนินการ ดังนี้
1.เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาองค์กร และปัญหา NPFs อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงดำเนินการตามความเห็นของ คนร. และติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด
2.เร่งดำเนินการสรรหาพันธมิตรต่างประเทศเพื่อเข้าร่วมลงทุน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม
3.ธอท. ควรมีแผนในการดำเนินการให้ชัดเจนในการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ โดยควรลดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Label to Earnings) ให้อยู่ที่ระดับร้อยละ 50 รวมถึงควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง (Probability Administration) เพื่อให้องค์กรมีสถานะทางการเงินและการบริหารจัดการองค์กรที่เข้มแข็ง
ต่อมา คณะกรรมการ ธอท. ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2567 (วาระลับ) เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2567 มีมติเห็นชอบหลักการและแนวทางการดำเนินการเพื่อสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนของโครงการไดมอนด์ (Mission Diamond) เพื่อสรรหาผู้ลงทุนต่างประเทศที่มีศักยภาพ มีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีความรู้ ความชำนาญในการบริหารงาน และดำเนินธุรกิจสถาบันการเงินตามหลักชะรีอะฮ์เข้าร่วมลงทุนและเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ ธอท. โดย ธอท. ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนเพื่อ คนร. พิจารณา
กระทั่งต่อมา คนร. ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2567 (วาระลับ) เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2567 ได้พิจารณาการแก้ไขปัญหาของ ธอท. ซึ่งตั้งแต่เริ่มกิจการ ธอท. ประสบปัญหาขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง จากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งภาครัฐเข้ามาแก้ไขปัญหาของ ธอท. ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา โดยกระทรวงการคลังได้เพิ่มทุนให้กับ ธอท. จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นจำนวน 23,062.36 ล้านบาท และ คนร. มีมติให้ ธอท. สรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนตั้งแต่ปี 2558
โดย ธอท. ได้ดำเนินการสรรหาพันธมิตรแล้ว 2 ครั้ง ซึ่ง ธอท. ยังไม่สามารถสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนได้ คนร. จึงได้มีมติเกี่ยวกับการสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนของ ธอท. ดังนี้
1.รับทราบความคืบหน้าการสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนของ ธอท.
2.เห็นชอบหลักการสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนของ ธอท. ดังนี้
(1) สรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านการเงินตามหลักศาสนาอิสลามเพื่อเข้าร่วมลงทุนใน ธอท. โดยให้คำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม และให้ความสำคัญกับการให้บริการในทุกพื้นที่ที่มีชาวไทยมุสลิม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับ ธอท. ในการให้บริการทางการเงินที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม รองรับความต้องการของชาวไทยมุสลิมได้อย่างยั่งยืน
(2) กระทรวงการคลังจะไม่เพิ่มทุนใน ธอท. โดยการสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนจะต้องไม่ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังใน ธอท. ต่ำกว่าร้อยละ 10 ในช่วง 1 ปี นับจากวันที่การสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนเสร็จสมบูรณ์
(3) พันธมิตรร่วมลงทุนจะต้องมีข้อเสนอเกี่ยวกับการดูแลพนักงาน ธอท. ที่เหมาะสมและเป็นธรรม
(4) ขั้นตอนการสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนให้ดำเนินการให้เป็นไปตาปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
3.เห็นชอบการขอผ่อนผันให้ ธอท. ไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ.2504 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ระเบียบการจำหน่ายกิจการฯ) และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
4.มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณารายละเอียดการถือหุ้น วิธีการ ราคา และสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังที่เหมาะสม โดยให้พิจารณาให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
“การสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนจะช่วยให้ ธอท. มีผู้เชี่ยวชาญด้านการประกอบธุรกิจตามหลักศาสนาอิสลามเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินการตามพันธกิจได้อย่างมั่นคง มีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอรองรับการให้บริการทางการเงินแก่ประชาชนชาวไทยมุสลิมในประเทศ โดยไม่เป็นภาระต่อภาครัฐ ซึ่ง ธอท. ยังคงเป็นสถาบันการเงินตามหลักศาสนาอิสลามที่ประกอบธุรกิจตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ไว้ใน พ.ร.บ. ธนาคารอิสลามฯ ที่มีภาครัฐถือหุ้นในระดับที่เหมาะสม
แม้ว่าการถือหุ้นของกระทรวงการคลัง จะลดลงต่ำกว่าร้อยละ 50 และ ธอท. จะไม่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ก็มิได้ส่งผลต่ออำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการกำกับดูแล ธอท. ในเรื่องต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ. ธนาคารอิสลามฯ” กระทรวงการคลัง รายงาน ครม.
ทั้งนี้ จากโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ ธอท. ณ วันที่ 6 พ.ย.2567 พบว่า กระทรวงการคลังถือหุ้น ธอท. ในสัดส่วน Ninety 9.5927% ส่วนที่เหลือถือหุ้น โดยธนาคารออมสิน สถาบันเอกชน นิติบุคคลอื่นๆ นิติบุคคลธรรม และผู้ถือหุ้นต่างประเทศ
ข้อมูล ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ธอท. ยังคงมีผลการดำเนินงานขาดทุนสะสมจำนวน 20,994 ล้านบาท มี BIS Ratio ติดลบ ร้อยละ 4.51 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดที่ร้อยละ 8.50 และมี NPFs สูงถึงจำนวน 12,222 ล้านบาท ทั้งนี้ ธอท. มีพนักงาน จำนวน 1,369 คน แบ่งเป็นสำนักงานใหญ่ จำนวน 834 คนและสาขา จำนวน 535 คน และมีช่องทางการให้บริการจำนวน 83 สาขา และเครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ (ATM) จำนวน 103 เครื่อง
@‘ธอท.’พ้น‘รัฐวิสาหกิจ’แต่‘รมว.คลัง’กำกับดูแลได้
รายงานข่าวแจ้งว่า กระทรวงการคลังยังได้รายงานให้ ครม. รับทราบบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลับ เรื่องเสร็จที่ 71/2568 เรื่อง สถานะความเป็นรัฐวิสาหกิจและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกรณีที่สัดส่วนการถือหุ้นของหน่วยงานของรัฐใน ธอท. ลดลงต่ำกว่าร้อยละห้าสิบ ของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 3) และคณะกรรมการกฤษฎีกา (ที่ประชุมร่วมคณะที่ 3 และคณะที่ 12) มีความเห็นสรุปได้ ดังนี้
1.หาก ธอท. สามารถสรรหาพันธมิตรร่วมลงทุนได้และมีการลดทุนหรือเพิ่มทุนของ ธอท. จนทำให้การถือหุ้นของกระทรวงการคลังและหน่วยงานอื่นของรัฐใน ธอท. มีสัดส่วนต่ำกว่าร้อยละ 50 ธอท. จะไม่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจตาม พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2562 พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรู้ธวิสาหกิจ พ.ศ.2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 พ.ร.บ.สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ.2561 และระเบียบการจำหน่ายกิจการฯ
2.หาก ธอท. มีการลดทุนหรือเพิ่มทุน ซึ่งส่งผลให้กระทรวงการคลังมีสัดส่วนการถือหุ้นใน ธอท. ลดลง โดยไม่มีการขาย แลกเปลี่ยน ให้ ให้เช่า ให้เช่าซื้อ หรือโอนกรรมสิทธิ์ในหุ้นของกระทรวงการคลังให้กับบุคคลอื่น จึงไม่เข้าข่ายเป็นการจำหน่ายตามข้อ 3 แห่งระเบียบการจำหน่ายกิจการฯ
3.เมื่อ พ.ร.บ.ธนาคารอิสลามฯ ยังคงมีผลใช้บังคับ อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการกำกับดูแล ธอท. ในเรื่องต่างๆ ยังคงเป็นไปตามที่ พ.ร.บ. ธนาคารอิสลามฯ กำหนดไว้ทุกประการ การถือหุ้นของกระทรวงการคลังต่ำกว่าร้อยละ 50 หรือการที่ ธอท. จะมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ ก็มิได้ส่งผลกับกลไกการกำกับดูแลของของรัฐนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามที่ พ.ร.บ.ธนาคารอิสลามฯ บัญญัติไว้
4.หากสัดส่วนการถือหุ้นของภาครัฐใน ธอท. ลดลงต่ำกว่าร้อยละ 50 จนทำให้ภาครัฐ ไม่มีอำนาจในการควบคุมการบริหารจัดการหรือการประกอบธุรกิจของ ธอท. ในฐานะเป็นเจ้าของทุนส่วนใหญ่ จึงไม่ถือว่า ธอท. เป็นสถาบันการเงินของรัฐ และไม่เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจตามมาตรา 119 (1) แห่ง พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (พ.ร.บ. สถาบันการเงินฯ)
สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังคงมีอำนาจในการกำกับดูแล ธอท. ตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการใช้สิทธิในฐานะความเป็นเจ้าของทุนในสถาบันการเงินของรัฐนั้น เนื่องจาก ธอท. เป็นนิติบุคคลและมีกฎหมายจัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะ
หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเห็นว่ายังคงมีความจำเป็นที่จะต้องกำกับดูแล ธอท. ในลักษณะเช่นเดียวกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจอื่น ก็อาจประกาศกำหนดให้ ธอท. เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจตามมาตรา 119 (2) แห่ง พ.ร.บ. สถาบันการเงินฯ ได้ ไม่ว่าผู้ถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 50 ใน ธอท. นั้น จะเป็นนิติบุคคลต่างประเทศหรือไม่ก็ตาม
อ่านประกอบ :
คดีที่ 2 รอด! สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตีตกข้อกล่าวหาอดีต ปธ.แบงก์อิสลาม-พวก อนุมัติสินเชื่อลูกหนี้ 409 ล.
‘สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ’ไต่สวน‘แบงก์อิสลาม’อนุมัติสินเชื่อ‘หมื่นล.’ส่อไม่ชอบ-‘อัยการ’สั่งฟ้องแล้ว 2 คดี
คอนเฟิร์ม! เลขาฯ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ยืนยันมติชี้มูลผู้บริหารแบงก์อิสลาม คดีทุจริตปล่อยสินเชื่อเอกชน
โดนอาญา 2 ราย! สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชี้มูลผู้บริหารแบงก์อิสลาม คดีทุจริตปล่อยสินเชื่อ-บ.เจอฉ้อโกง
ใครโดน-รอด? เปิดครบทุกชื่อผู้ถูกกล่าวหาคดีอดีตปธ.แบงก์อิสลาม-พวก อนุมัติสินเชื่อ 1.9 พันล.
วงเงินเกินอำนาจ! เปิดข้อกล่าวหาคดีอดีตปธ.แบงก์อิสลาม-พวก อนุมัติสินเชื่อมิชอบ1.9 พันล.
ตามหา 2 บ.โรงแรม คดีอดีตปธ.แบงก์อิสลามอนุมัติสินเชื่อมิชอบ ย้ายไปซอยรางน้ำไม่รู้อยู่ไหน
2 รร.ลูกค้า ส่อเป็น NPL-บสอ.แจงปม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชี้มูลอดีตปธ.แบงก์อิสลาม อนุมัติสินเชื่อมิชอบ
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )