
เวียดนามเผยผลสอบสวน หมู-ไก่ ซี.พี.เวียดนาม ไม่ละเมิดกฎหมายความปลอดภัยอาหาร

ที่มาของภาพ : Jonny Lieu/CTV/BBC Vietnamese
ผ่านมาราวหนึ่งเดือนที่ทางการเวียดนามสอบสวนกรณีที่บริษัท ซี.พี.เวียดนาม ไลฟ์สต็อค จอยท์ สต็อค ถูกกล่าวหาว่าขายเนื้อหมูป่วยให้กับตลาดจังหวัดซ็อกจาง (Soc Trang) หลังอดีตพนักงานร้าน ซี.พี. เฟรช ช็อป คนหนึ่ง ออกมาโพสต์กล่าวหาพร้อมเผยแพร่ภาพหมูรอชำแหละที่มีจุดทั่วตัว
สื่อมวลชนในเวียดนามหลายสำนักอย่าง เว็บไซต์เวียดนาม อินเวสเมนต์ รีวิว (Vietnam Investment Overview) รายงานเมื่อ 1 ก.ค. ว่า ผลการสอบสวนจากตำรวจจังหวัดซ็อกจาง ยืนยันว่าบริษัท ซี.พี.เวียดนาม ไม่ได้ฝ่าฝืนข้อกำหนดด้านความปลอดภัยทางอาหาร ซึ่งได้แถลงต่อสาธารณะในวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ต่อมา เวียดนาม นิวส์ และ วอยซ์ ออฟ เวียดนาม (วีโอวี) รายงานในทำนองเดียวกันแต่ระบุว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา บริษัท ซี.พี. ไลฟ์สต็อค เจเอสซี (ซี.พี.เวียดนาม) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (2 ก.ค. ) เปิดเผยผลการสอบสวนดังกล่าว เพื่อยืนยันในเรื่องนี้เช่นกัน
สำหรับผลการสอบสวนดังกล่าว สืบเนื่องจากที่กระทรวงเกษตรและสิ่งแวดล้อมได้ส่งเอกสารไปที่กระทรวงความมั่นคงสาธารณะเพื่อร้องขอให้มีการสืบสวนในเรื่องนี้ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยเว็บไซต์ “เวียดนาม อินเวสเมนต์ รีวิว” ระบุในรายงานชิ้นล่าสุดว่าหน่วยงานที่ร่วมสอบสวน ประกอบด้วย กองป้องกันและควบคุมอาชญากรรมสิ่งแวดล้อม ตำรวจจังหวัดเหิ่วซาง ตำรวจจังหวัดซ็อกจาง หน่วยงานท้องถิ่นด้านปศุสัตว์และสัตวแพทย์ต่าง ๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอื่น ๆ
เว็บไซต์ดังกล่าวยังรายงานอีกว่า บริษัท ซี.พี.เวียดนาม ทั้งสาขาต่าง ๆ โรงงานต่าง ๆ ตลอดจนระบบการกระจายสินค้าไปทั่วประเทศทั้งหมดของบริษัท ได้มอบบันทึก เอกสาร และข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตและฆ่-าสัตว์ มาตรการควบคุมคุณภาพ และระบบติดตามด้านความปลอดภัยทางอาหารที่ใช้ทั่วทั้งระบบของ ซี.พี.เวียดนาม ให้กับเจ้าหน้าที่ทางการด้วย
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and proceed finding outได้รับความนิยมสูงสุด
ได้รับความนิยมสูงสุด
ซึ่งผลของการสืบสวนปรากฎในประกาศเลขที่ 10922/TB-CSKT ระบุวันที่ 29 มิ.ย. สรุปว่า ซี.พี.เวียดนาม ไม่ได้ละเมิดข้อกำหนดด้านความปลอดภัยทางอาหาร ตามวรรค 2 แห่งมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของเวียดนาม สำนักงานตำรวจสืบสวนจึงตัดสินใจไม่ดำเนินคดีกับบริษัทฯ ในกรณีนี้ จากการรายงานของเว็บไซต์ “เวียดนาม อินเวสเมนต์ รีวิว”

ที่มาของภาพ : Jonny Lieu/Fb
ก่อนหน้านี้ บริษัท ซี.พี.เวียดนาม เผชิญกับข้อกล่าวหาว่าได้ผสมหมูและไก่ที่ป่วยส่งมายังร้าน ซี.พี. เฟรช ช็อป เพื่อขายในซ็อกจาง มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา จากการกล่าวหาของ นายลิว กุย งัน (Lieu Quy Ngan) อดีตพนักงานของบริษัทที่โพสต์ข้อความและภาพถ่ายผ่านทางโซเชียลมีเดีย
ภาพดังกล่าวคือภาพหมูที่มีจุดทั่วตัว โดยในภาพระบุวันที่ 26 มี.ค. 2022 ซึ่งต่อมามีตัวแทนของบริษัทฯ ในจังหวัดเหิ่วซาง ออกมายอมรับกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจสอบว่าเป็นภาพที่ถ่ายในโรงฆ่-าสัตว์ดงงา (Dung Nga) และบันทึกไว้เพื่อรายงานกับทางบริษัท แต่ได้ทำลายหมูทั้งสองตัวไปแล้ว และไม่มีการส่งออกสู่ตลาด
อย่างไรก็ตาม จากภาพดังกล่าวพบความผิดปกติของรอยประทับบนตัวหมู เพราะถูกประทับตราด้วยสัญลักษณ์สี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่แสดงว่าสัตว์จะถูกฆ่-าเพื่อส่งไปยังตลาด แทนที่จะประทับตราด้วยสัญลักษณ์สามเหลี่ยมหรือวงกลม ซึ่งจะแสดงว่าเป็นผู้ป่วยหรือต้องถูกทำลาย จากการเปิดเผยของ น.ส.เหวียน ทู ทูย (Nguyen Thu Thuy) รองอธิบดีกรมปศุสัตว์และสุขภาพสัตว์ของเวียดนาม เมื่อ 3 มิ.ย.
ก่อนหน้านี้ ผู้ตรวจการกรมการเกษตรและสิ่งแวดล้อมของจังหวัดซ็อกจาง (Soc Trang) ได้ออกคำสั่งให้ลงโทษทางปกครองกับร้าน เฟรช ช็อป ซี.พี. 3 แห่ง ของบริษัท ซี.พี.เวียดนาม ไลฟ์สต็อค จอยท์ สต็อค หลังพบว่าใบอนุญาตด้านความปลอดภัยทางอาหารของร้านค้าทั้ง 3 แห่งหมดอายุ โดยมีค่าปรับรวม 105 ล้านดอง (ราว 131,500 บาท) จากรายงานข่าวของเว็บไซต์ Cong an nhan dan เมื่อ 11 มิ.ย.
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบในครั้งนั้น ซึ่งตรวจสอบร้าน ซี.พี.เฟรช ช็อป 4 สาขาในจังหวัด ไม่พบว่ามีผลิตภัณฑ์หมูหรือไก่ที่ติดเชื้อ มีกลิ่นเหม็น หรือหมดอายุ พบเพียงกรณีใบอนุญาตด้านความปลอดภัยทางอาหารหมดอายุ 3 ใน 4 สาขาที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเท่านั้น
ด้านบริษัท ซี.พี.เวียดนาม เคยออกมาโต้ข้อกล่าวหานี้ตั้งแต่แรกเริ่ม โดยเปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊กของบริษัทว่าโพสต์ที่ออกมากล่าวหาบริษัทนั้น “บิดเบือนและเป็นเท็จ” โดยมีเจตนาเพื่อทำลายชื่อเสียงของบริษัท ส่วนภาพที่ถูกเผยแพร่ก็ “ไม่มีแหล่งที่มา และเวลาที่ชัดเจน และไม่ใช่ภาพผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซี.พี.เวียดนาม ไลฟ์สต็อค จอยท์ สต็อค”
ในแถลงดังกล่าวยังยืนยันด้วยว่า บริษัทปฏิบัติตามข้อกำหนดทางสัตวแพทย์และขั้นตอนการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจได้ในสุขอนามัยและความปลอดภัยของอาหาร
ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวรายหนึ่งจากบริษัท ซีพีเอฟ ซึ่งประกอบกิจการในไทยนั้น เคยบอกกับ.ว่า แม้ซีพีเอฟจะถือหุ้นอยู่ในบริษัท ซี.พี. เวียดนาม ด้วย แต่การดำเนินกิจการของทั้งสองบริษัทแยกส่วนกันอย่างชัดเจน และกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนดำเนินการในประเทศนั้น ๆ ไม่มีการนำเข้าหรือส่งออกเนื้อสัตว์ รวมถึงเนื้อสัตว์แปรรูปซึ่งกันและกัน
ที่มา BBC.co.uk