ทำไมผู้คนถึงมีอายุยืนเกิน 100 ปี มากกว่าในอดีต ?
Article recordsdata
- Creator, เฟอร์นันโด ดูอาร์เต
- Role, บีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส
สัปดาห์สุดท้ายของเดือน พ.ย. หากไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ ผิดแผกไป โจอาโอ มารินโญ เนโต อดีตเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ ตั้งตารอจะได้กินไก่ตุ๋นเป็นอาหารกลางวันตามปกติที่บ้านพักผู้สูงอายุซึ่งเขาอยู่มา 10 ปี ในเมืองอาปุยอาเรส เมืองเล็ก ๆ อันแห้งแล้งทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล
ทว่า 3 วันต่อมา นายเนโต วัย 112 ปี ตกเป็นข่าวพาดหัวทั้งในและต่างประเทศในฐานะชายที่อายุยืนที่สุดในโลก
“ผมก็หล่อที่สุดเหมือนกัน” เขาพูดติดตลกกับพยาบาลคนหนึ่งที่แจ้งข่าวให้เขาฟัง
นายเนโตสืบทอดสถิติจากกินเนสส์เวิลด์บุ๊ก ภายหลัง จอห์น ทินนิสวูด ชาวอังกฤษ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ขณะมีอายุ 112 ปีเช่นกัน
บุคคลที่อายุยืนที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่คือ โทมิโกะ อิโตโอกะ ชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีอายุถึง 116 ปีแล้ว นางอิทูกาเองก็เป็นเจ้าของสถิติที่ค่อนข้างใหม่นี้เช่นกัน โดยเธอเพิ่ง “รับมงกุฎ” ในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา
Skip เรื่องแนะนำ and continue readingเรื่องแนะนำ
Stay of เรื่องแนะนำ
ทั้ง 2 คน มีอายุเกิน 100 ปี ซึ่งกลุ่มคนที่อายุเกินร้อยกลุ่มนี้ กำลังเติบโตไปทั่วโลก
เกือบ 1 ล้านคนภายในปี 2030
แผนกประชากรแห่งสหประชาชาติ (The UN's Population Division) ประมาณการว่า ในปี 2024 จะมีผู้คนประมาณ 588,000 คนที่อายุครบ 100 ปีอาศัยอยู่ในโลก และคาดว่าจะเข้าใกล้ 1 ล้านคนภายในสิ้นทศวรรษนี้
ในปี 1990 มีคนอายุครบ 100 ปีที่มีชีวิตอยู่เพียง 92,000 คนเท่านั้น
มนุษย์เดินทางมาไกลในแง่ของอายุขัย เพราะความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ที่ทำให้เราได้รับยา อาหาร และมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับบรรพบุรุษของเรา
ค่าเฉลี่ยของคนที่เกิดในปี 1960 ซึ่งเป็นปีแรกสุดที่สหประชาชาติเริ่มเก็บข้อมูลอายุขัยทั่วโลก คาดว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 52 ปี
6 ทศวรรษต่อมา อายุขัยเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่มากกว่า 73 ปี และสหประชาชาติคาดการณ์ว่าอายุขัยจะสูงถึง 77 ปีภายในปี 2050
โดยสรุปแล้ว การมีอายุไปถึง 100 ปีไม่ใช่เรื่องยาก ตัวเลขขององค์การสหประชาชาติระบุว่า ในปี 2023 คนที่มีอายุมากกว่า 100 ปี มีเพียง 0.007% ของประชากรโลก และนักวิทยาศาสตร์เตือนว่ามีโอกาสน้อยที่คนเราจะมีอายุเป็นตัวเลข 3 หลัก แต่การศึกษาในปี 2024 โดยสถาบันศึกษาประชากรศาสตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส (National Institute of Demographic Analysis) ประมาณการว่า จะมีเด็กผู้ชายมากกว่า 2% และเด็กผู้หญิงน้อยกว่า 5% ที่เกิดในปี 2023 ที่จะมีอายุยืนยาวได้ขนาดนั้น
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ คนส่วนใหญ่ที่เข้าสู่วัยชรามักประสบกับความเจ็บป่วยเรื้อรัง
เจเนต ลอร์ด ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาเซลล์จากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมในสหราชอาณาจักร กล่าวว่า “การมีอายุยืนยาวขึ้นไม่ได้หมายถึงการมีชีวิตที่ดีเสมอไป”
ศาสตราจารย์ลอร์ดอธิบายว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ชายใช้เวลา 16 ปีสุดท้ายของชีวิตในการจัดการกับสภาวะต่าง ๆ ตั้งแต่โรคเบาหวานไปจนถึงภาวะสมองเสื่อม ส่วนผู้หญิงใช้เวลา 19 ปีในการทำสิ่งเดียวกันนี้
ความลับของ ‘ซูเปอร์เซนเทเรียน' (หรือคนที่มีอายุเกิน 110 ปีขึ้นไป)
อายุถึง 100 ว่ายากแล้ว อายุยืนกว่านั้นยิ่งยากขึ้นไปอีก
ในสหรัฐอเมริกา การศึกษาโดยมหาวิทยาลัยบอสตันประมาณการว่ามีชาวอเมริกันเพียง 1 ใน 5 ล้านคนเท่านั้นที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ จะมีโอกาสมีชีวิตอยู่ถึงอย่างน้อย 110 ปี (คนที่มีอายุเกิน 110 ปีขึ้นไป มีคำศัพท์เฉพาะเรียกว่า “อภิศตวรรษิกชน” – Supercentenarian)
ตัวเลขจากการสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นจากประมาณ 50,000 คนในปี 2010 เป็นมากกว่า 80,000 คนในปี 2020
“ผู้มีอายุเกิน 100 ปี” เป็นที่สนใจเป็นอย่างมากในหมู่นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาการสูงอายุของมนุษย์
“คนเหล่านั้นต่อต้านสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนชราส่วนใหญ่ และเรายังไม่แน่ใจว่าทำไม” ศาสตราจารย์ลอร์ดกล่าวเสริม
นอกจากอายุยืนแล้ว คนที่มีอายุยืนยังโดดเด่นด้วยการมีสุขภาพที่ค่อนข้างดีหากเทียบกับวัย อาเลลูยา เตเซย์รา หนึ่งในพยาบาลที่ดูแลผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 100 ปีกล่าวและว่า นอกจากสายตาที่แย่มากแล้ว นายเนโตไม่มีปัญหาด้านสุขภาพอื่น ๆ เลย
“เขาไม่ต้องการยาใด ๆ หรือมีประวัติการเจ็บป่วยร้ายแรง เขาอายุ 112 ปี” เธอกล่าวกับบีบีซี
สิ่งที่เป็นปริศนาสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านอายุ คือ คนบางคนที่มีอายุเกิน 100 ปีและเกินกว่านั้น ไม่ได้ปฏิบัติตามตามแนวปฏิบัติด้านสุขภาพที่ดีแต่อย่างใด
ในขณะที่นายเนโตใช้ชีวิตค่อนข้างจะดูแลรักษาสุขภาพและไม่แตะต้องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ตามคำบอกเล่าของอันโตนิโอ ลูกชายคนโตของเขา) คนที่มีอายุเกิน 100 ปี กลับใช้ชีวิตในแบบ “ไร้กังวล”
จีนน์ คาลมองต์ ชาวฝรั่งเศส ซึ่งเสียชีวิตในปี 1997 ด้วยวัย 122 ปี และเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่ได้รับการบันทึกอย่างเป็นทางการว่ามีอายุเกิน 120 ปี เป็นนักสูบบุหรี่และกินช็อกโกแลตแท่งตัวยง
งานศึกษาในปี 2011 ที่ตีพิมพ์ในวารสารของสมาคมผู้สูงอายุแห่งอเมริกา (Journal of the American Geriatric Society) ซึ่งมุ่งเน้นศึกษาชาวยิวในสหรัฐฯ มากกว่า 400 คนที่มีอายุ 95 ปีขึ้นไป พบว่ามีลักษณะการใช้ชีวิตที่ไม่ดีนัก
ผู้เข้าร่วมการวิจัยเกือบ 60% สูบบุหรี่จัด ครึ่งหนึ่งเป็นโรคอ้วนมาเกือบทั้งชีวิต และมีเพียง 3% เท่านั้นที่เป็นมังสวิรัติ นอกจากนี้ยังมีข้อเท็จจริงที่น่าทึ่งอื่น ๆ อาทิ หลายคนไม่ได้ออกกำลังกายในระดับปานกลางด้วยซ้ำ
“สิ่งแรกที่เราต้องบอกผู้ที่สนใจในการมีชีวิตยืนยาวนั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการดำเนินชีวิตจากผู้ที่อายุยืน” ริชาร์ด ฟาราเกอร์ ศาสตราจารย์สาขา Biogerontology จากมหาวิทยาลัยไบรท์ตัน สหราชอาณาจักร ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาเรื่องความชรากล่าว
“มีบางอย่างที่พิเศษในตัวพวกเขา เพราะพวกเขาทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เรารู้ว่าสามารถช่วยให้ใครบางคนมีอายุยืนยาวขึ้นได้” ฟาราเกอร์ กล่าวเสริม
นักวิทยาศาสตร์สงสัยว่าพันธุกรรมได้มีบทบาทสำคัญในการมีอายุยืนยาว
คนที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไป (และคนที่มีอายุมากกว่า 110 ปีขึ้นไป ) ดูเหมือนจะสามารถปกป้องตัวเองจากการสึกหรอของร่างกายที่ส่งผลกระทบต่อคนที่อายุน้อยกว่านี้ผ่านกาลเวลา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสามารถชดเชยความเสื่อมของร่างกายนี้ได้ แม้ว่าจะมีนิสัยที่ไม่ดีต่อสุขภาพที่ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องจากโลกนี้ไปก่อนเวลาอันควร
เราจะแก่กว่านี้ได้อีกไหม?
จำนวนคนที่อายุยืนถึง 100 ปี ซึ่งเพิ่มมากขึ้น ยังทำให้นักวิทยาศาสตร์ตั้งคำถามว่า ขีดจำกัดของการมีอายุยืนยาวของมนุษย์จะถูกขยายออกไปด้วยหรือไม่
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ในสหรัฐฯ อ้างว่าการมีอายุยืนยาวจะยิ่งยาวนานขึ้นอีกภายในศตวรรษนี้ และอาจนำไปสู่การมีคนที่มีอายุ 125 ปี หรือแม้กระทั่ง 130 ปี ในวันเกิดของพวกเขา
“เราเชื่อว่าเกือบจะแน่นอนแล้วว่าจะมีคนที่ทำลายสถิติอายุปัจจุบันภายในปี 2100 และค่อนข้างเป็นไปได้ที่บางคนจะมีชีวิตจนถึงอายุ 126, 128 หรือแม้แต่ 130 ปี” ไมเคิล เพียร์ซ นักสถิติและผู้ร่วมวิจัยการศึกษาครั้งนี้ อธิบาย
เพียซ และศาสตราจารย์ เอเดรียน ราฟเทอรี ใช้ฐานข้อมูลระหว่างประเทศว่าด้วยอายุยืนยาวเพื่อจำลองขีดจำกัดอายุขัยในทศวรรษหน้า พวกเขาสรุปว่ามีโอกาสเกือบ 100% ที่จะมีคนทำลายสถิติเดิม และมีความน่าจะเป็น 68% ที่ใครบางคนจะได้ฉลองวันเกิดครบรอบ 127 ปี
ณ วันที่ 9 ธ.ค. 2024 คน 50 คนที่มีอายุยืนที่สุดในโลกเป็นผู้หญิง โดยนายเนโตอยู่ในอันดับที่ 54
อย่างไรก็ตาม มีคำถามมากมายที่วิทยาศาสตร์ยังคงต้องตอบเพื่อทำความเข้าใจการสูงวัยอย่างถ่องแท้
ผู้เชี่ยวชาญ เช่น ดร.ริชาร์ด เซียว ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยผู้สูงอายุที่คิงส์คอลเลจลอนดอน เชื่อว่าความเข้าใจนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการปัญหาคุณภาพชีวิตของประชากรโลกที่มีอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังที่สหประชาชาติประเมินว่าโลกนี้มีผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นมากว่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ
“คำถามที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การพูดคุยว่าเราจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน แต่ถามว่าเราจะชะลอการเริ่มเสื่อมถอยตามอายุและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงให้ยืนยาวกว่าที่เคยเป็นอยู่ได้อย่างไร” เขาระบุ
“ด้วยวิธีนี้ ถ้าเราโชคดีพอที่จะเข้าสู่วัยชรา เราก็สามารถเพลิดเพลินกับปีเหล่านั้นได้ แทนที่จะทนทุกข์ทรมาน”
ที่มา BBC.co.uk