8 ปีแล้วยังไม่คืบ! กรมที่ดินพังงาแจ้งยังไม่มีคำสั่งลงมา-รอ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชี้มูล ปมเพิกถอนโฉนด 8 แปลง ทับซ้อนพื้นที่ป่าชายเลน หมู่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา จ.พังงา ชาวบ้านทวงถามไปเมื่อ 2 ปีก่อน ก็ยังเงียบ
กรณีการออกโฉนด 8 แปลงปัจจุบันมีชื่อเอกชนผู้ครอบครอง ทับซ้อนพื้นที่ป่าชายเลน หมู่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา จ.พังงา หลังจากถูกร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐหลายแห่งมานานหลายปี ตามที่สำนักข่าวอิศรา . รายงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2560 และมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบหลายชุดจากหลายหน่วยงาน รวมถึงมีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้ามาสอบสวนชาวบ้านในพื้นที่หลังจากได้ร้องเรียน จนถึงขณะนี้ เป็นเวลา 8 ปี โฉนดที่ดิน 8 แปลงดังกล่าวยังไม่ถูกเพิกถอนจากกรมที่ดิน
เมื่อต้นปี 2567 พนักงานที่เจ้าดินจังหวัดพังงา เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา ว่า อยู่ในการกระบวนการพิจารณาตั้งคณะกรรมการ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานและได้ผลพิจารณา เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
ต่อมาปลายปี 2567 นายมนูญกฤช ทองขโชค เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศราว่า ยังไม่มีคำสั่งจากคณะกรรมการตรวจสอบของกรมที่ดิน คาดว่าน่าจะรอทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ชี้มูลก่อน โดยทาง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้มีการยื่นขอข้อมูลเอกสารเพิ่มเติมเพื่อเปรียบเทียบพิสูจน์ลายมือของเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อในการออกโฉนด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่ถูกตั้งกรรมการสอบอ้างว่า ลายมือชื่อที่ปรากฎ เจ้าตัวไม่ได้เป็นคนเซ็น เนื่องจากเอกสารโฉนดที่ดิน มี 2 ชุด ซึ่งพิกัดไม่ตรงกัน และเจ้าหน้าที่อ้างว่าไม่ได้เป็นคนส่งข้อมูลชุดที่ไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ ชาวบ้านสอบถามความคืบหน้าไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายหลังได้มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้ามาสอบสวนชาวบ้านในพื้นที่หลังจากได้ร้องเรียนก่อนหน้านี้ ล่าสุดมีรายงานว่าดีเอสไอมีความเห็นว่าการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบและส่งเรื่องให้คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดำเนินการตามกฎหมายต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2568 สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังนายทรงกรด ชูจร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการเพิกถอนโฉนด 8 แปลง ที่ทับซ้อนพื้นที่ป่าชายเลน หมู่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา จ.พังงา
นายทรงกลด กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งจากคณะกรรมการตรวจสอบของกรมที่ดิน คาดว่าน่าจะรอทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ชี้มูลก่อน
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรารายงานก่อนหน้านี้ว่า กรณีโฉนดที่ดิน 8 แปลง นั้น ผลสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและหยุดยั้งการบุกรุกที่ดินในเขตป่าชายเลนจังหวัดพังงา ซึ่งมีนายบุญเติม เรณุมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานกรรมการ เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2564 มีความเห็นว่า
-
โฉนดที่ดิน 2 แปลง ได้แก่ หมายเลข 18633 และ 18634 เป็นการออกโฉนดที่ดินในเขตป่าชายเลน ภายหลังประกาศเป็นเขตป่าชายเลน จึงน่าเชื่อว่าออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้เสนออธิบดีกรมที่ดินดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
-
โฉนดอีก 6 แปลง ได้แก่ โฉนดหมายเลข 18627, 18628, 18629, 18630, 18631 และ 18632 ให้คณะทำงานดำเนินการตรวจสอบว่ามีการครอบครองทำประโยชน์มาก่อนที่จะถูกกำหนดให้เป็นป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2530 และออกตรงตามหลักฐานหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 21, 142 และ 144 หมู่ที่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา จ.พังงา และ ส.ค.1 เลขที่ 21 ,137 (28) และ 138 (29) หมู่ที่ 3 ตำบลและอำเภอเดียวกันหรือไม่ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พ.ค.2564 แล้วรายงานให้สำนักงานที่ดินจังหวัดทราบ และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและหยุดยั้งการบุกรุกที่ดินในเขตป่าชายเลนจังหวัดพังงาอีกครั้ง
ขณะที่ ผลสอบสวนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2564 นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน ขอให้พิจารณาตามอํานาจหน้าที่เพิกถอนโฉนดที่ดิน เนื่องจากผลสอบสวนพบว่า โฉนดทั้ง 6 แปลง ได้ แก่ โฉนด หมายเลข 18627, 18628, 18629, 18630, 18631 และ 18632 ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ภายหลังจากที่นายต่อศักดิ์ วาณะกรรม และ นายบัญชา ถิ่นลิพอน ผู้รับมอบอำนาจจากนางพนิดา ระฆัง ภรรยานายสมนึก ระฆัง ผู้ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ส่งเรื่องให้อธิบดีกรมที่ดิน มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ โฉนดที่ดิน เลขที่ 18627 – 18634 หมู่ที่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา จ.พังงา จำนวน 8 แปลง โดยอ้างอิงความเห็นคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามคำสั่งกรมที่ดินที่ 117/2565 ลงวันที่ 20 พ.ค.2565 และ ที่ 281/2566 ลงวันที่ 1 ก.พ.2566 ตามรายงานการประชุมครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2566 ที่มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า โฉนดดังกล่าวออกจากหลักฐาน น.ส.3 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่มีการทำประโยชน์ในที่ดินในขณะออก น.ส.3 แต่อย่างใด เป็นไปตามผลการอ่าน แปล วิเคราะห์ ภาพถ่ายทางอากาศของผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศฯ ของกรมที่ดิน
หากมีความคืบหน้าอย่างไร สำนักข่าวอิศราจะนำมารายงานให้ทราบต่อไป
เรื่องเกี่ยวข้องก่อนหน้า:
เรื่องเกี่ยวข้องอื่นๆ
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )