พล.ต.ท. คำรบ ปัญญาแก้ว นำทีม สว.สำรอง ร้อง ปปป. แจ้งความเอาผิด แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ปม ละเลยหน้าที่สอบฮั้วเลือกสว.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 19 มีนาคม บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้นำกลุ่มสมาชิกวุฒิสภา (สว.) สำรอง พร้อมสว.สำรอง กว่า 10 คน หอบหลักฐานร้องกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เอาผิด นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีละเลยหน้าที่ตรวจสอบฮั้วเลือก (สว.)
พล.ต.ท.คำรบ เปิดเผยว่า วันนี้คณะสว.สำรอง มาแจ้งความร้องทุกข์กับบก.ปปป. เพื่อเอาผิดนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.โดยสาเหตุที่มาที่นี่เพราะคณะสว.สำรอง ได้หารือและพบว่านายแสวง มีพฤติกรรมต่อการตรวจสอบการเลือกสว. ครั้งที่ผ่านมา ในลักษณะหลีกเลี่ยงไม่ดำเนินการเพื่อที่จะรักษาไว้ด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม โดยเราได้รายงานพฤติกรรมไปถึงประธานกกต. มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการตั้งคณะกรรมการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ยังไม่ปรากฏความคืบหน้าประการใด
“อย่างไรก็ตามการกระทำของนายแสวง ก็ปรากฏความผิดอย่างชัดเจน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (พ.ร.ป.สว.) ปี 2561 ม. 32 ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสว. ที่กระทำการไม่เป็นไปตามกฏหมาย เพื่อให้การเลือกสว. เป็นไปอย่างสุจริตเที่ยงธรรม ซึ่งมีอัตราโทษถึง 10 ปี และเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้งถึง 20 ปี รวมถึงยังมีความผิดย่อยอื่นๆอีก ที่กลุ่มสว.สำรองจะมาให้ข้อมูลในฐานะพยาน”พล.ต.ท.คำรบกล่าว
พล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า ดังนั้นกลุ่มสว.สำรองจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์บก.ปปป. เพื่อให้รับคดีนี้ไว้ ซึ่งเราได้ประสานพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ไว้แล้ว โดยพยานหลักฐานที่นำมาในวันนี้ เป็นหลักฐานที่เคยนำไปร้องเรียนกับทางกกต. อาทิ แช็ตการตอบโต้ของนายแสวง
“ยืนยันไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้ง หรือรังแกอะไรนายแสวง แต่นายแสวงไม่ตั้งใจดำเนินการและหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ ซึ่ง 8 เดือน ในฐานะที่ดูแลควบคุมการเลือกสว. พบว่าการสืบสวนไต่สวนต่างๆ ไม่มีความคืบหน้า จึงมีความจำเป็นที่เราต้องดำเนินการ เพื่อให้มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง และให้กระบวนการของประเทศเราสามารถเดินหน้าต่อไปได้”พล.ต.ท.คำรบกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการดำเนินคดีตามมาตร 157 ด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ก็สามารถดำเนินคดีตามมาตร 157 ทันทีอยู่แล้ว ส่วนการมาแจ้งความในครั้งนี้ให้เป็นคดีอาญา เพื่อนำไปสู่การสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น พล.ต.ท.คำรบ ระบุว่า มีหลายกรณีที่นายแสวงควรจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ และควรถูกตั้งกรรมการพิจารณาทางวินัย และควรจะถูกสั่งพักการทำงานตามมาตรา fifty three ดังนั้นเมื่อเจ้าพนักงานถูกกล่าวหาในคดีอาญา ผู้บังคับบัญชาจะต้องนำเรื่องมาประกอบการพิจารณาว่าจะทำหน้าที่ต่อไปได้หรือไม่
พล.ต.ท.คำรบกล่าวถึงประเด็นที่มีการเอื้อสว. กลุ่มไหนเป็นพิเศษหรือไม่นั้น ว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้อยากกล่าวหาใคร แต่มองว่าเป็นความเสียหายในภาพรวม โดยเห็นได้จากเรื่องที่มีการร้องเรียนกว่า 500 เรื่อง แต่ทำเสร็จเพียงแค่ 200 เรื่อง และเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ แต่ประเด็นสำคัญ 300 เรื่อง อาทิ เรื่องการฮั้วสว. จำนวน 40 – 50 สำนวน กลับมีคนรับผิดชอบเรื่องละ 3 คนเท่านั้น และไม่มีความคืบหน้า
“ยังทราบมาอีกว่าเพิ่งมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อมาตรวจสอบเรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี้ จึงมองว่าคดีนี้จะไม่มีความต่อเนื่อง อีกทั้งการที่ประธานกกต. มีการส่งสำนวนร้องเรียนไปที่ศาลแล้วนั้น ก็มองว่าเป็นเพียงคดีเล็กๆ และเป็นเรื่องการเล่นการพนันก่อนที่จะมาสมัครสว.เท่านั้น”พล.ต.ท.คำรบกล่าว
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )