‘พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช’ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่งสำนวน ‘หมอบุญ’ น.พ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี กับพวก คดีฉ้อโกงประชาชน ให้ ‘กรมสอบสวนคดีพิเศษ’ ภายหลังผู้เสียหายมาร้องทุกข์ 12 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,970 ล้านบาท จึงเข้าข่ายเป็น ‘คดีพิเศษ’
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ส่งสำนวนการสอบสวนคดีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ น.พ.บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี กับพวกในคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงชักชวนให้ลงทุนให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม โดยได้ส่งมอบสำนวนดังกล่าวไปเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา หลังพบว่ามีมูลค่าทรัพย์สินความเสียหายเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้เป็นการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาเป็นคดีที่สองหลังจากเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ออกหมายจับ น.พ.บุญ กับพวกไปแล้ว
โดยคดีในส่วนของ บก.ปอศ. นั้น สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2567 ที่ผานมา ได้มาผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก 4 บก.ปอศ. ให้ดำเนินคดีกับ น.พ.บุญกับพวก เนื่องจากเมื่อประมาณต้นปี 2565 น.พ.บุญ ได้ทำสัญญากู้ยืมเพื่อให้ตัวแทนนำไปติดต่อกับผู้เสียหายซึ่งมีจำนวนหลายราย ผู้เสียหายหลงเชื่อตามคำชี้ชวน เนื่องจากเห็นว่าการลงทุนดังกล่าวจะได้ดอกเบี้ยจาก น.พ.บุญ ร้อยละ 8.5 ต่อปี และจะได้หุ้น THG เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินที่ปล่อยกู้กู้ด้วย
นอกจากนี้ยังรวมถึงโครงการต่าง ๆที่จะนำเงินไปลงทุน เพื่อให้ได้ผลกำไรมาจ่ายผลตอบแทน เช่น โครงการจินเวลล์ บีอิ้ง, โครงการคอนโดที่พระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา, โรงงานถุงมือยาง, ตึกสหไทย, รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง โดยการลงทุนดังกล่าว มีหลักทรัพย์เป็นหุ้น THG ค้ำประกันเงินกู้ยืม ภายหลังจากเข้าร่วมลงทุน จึงทราบว่า น.พ.บุญ ปกปิดข้อเท็จจริง อันมีลักษณะเป็นการฉ้อโกง ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ กก.4 บก.ปอศ. โดยมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์จำนวน 12 ราย รวมมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนเงินประมาณ 1,970 ล้านบาท
ต่อมา บช.ก. ได้ดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหาย รวมทั้งพยานและตรวจสอบเอกสาร พิจารณาแล้วเห็นว่าคดีดังกล่าวมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์จำนวนหลายราย มีมูลค่าเสียหายเกือบ 2,000 ล้านบาท เข้าหลักเกณฑ์ตามประกาศ กคพ.(ฉบับที่8) พ.ศ.2565 เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 23 วรรคหนึ่ง 1 แห่ง พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ข้อ 1 คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนที่มีหรือมีมูลน่าเชื่อว่ามีจำนวนผู้เสียหายตั้งแต่สามร้อยคนขึ้นไป หรือมีจำนวนเงินที่กู้ยืมรวมกันตั้งแต่หนึ่งร้อยล้านบาทขึ้นไป กรณีจึงเข้าหลักเกณฑ์ที่อยู่ในบังคับที่ต้องทำการสอบสวนโดยพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเป็นไปตามข้อกฎหมายรวมทั้งระเบียบที่เกี่ยวข้อง จึงได้ส่งสำนวนไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ นพ.บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรีตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 2567 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ,สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น
พร้อมด้วย นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นพ.บุญ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของ นพ.บุญ และพวก รวม 9 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามพบว่า นพ.บุญ เดินทางออกนอกประเทศเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2567 เวลา 14.25 น.โดยสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก เที่ยวบินที่ CX712 ไปยังฮ่องกง
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )