สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชี้มูลอดีตนายก อบต.เหล่าไฮงาม พร้อมพวกคดีทุจริต 59 โครงการช่วงปี 57-62

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชี้มูลอดีตนายก อบต.เหล่าไฮงาม พร้อมพวกรวม 5 ราย นำร้านค้าเข้าไปคู่สัญญา 59 โครงการช่วงปี 57-62 หลังปี 65 เจ้าตัวโดนศาลฯพิพากษาจำคุก 2 ปี คดีอนุมัติขุดลอกลำห้วยโดยมิชอบ

สำนักข่าวอิศรา (www.israenws.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 23 ก.ย. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ออกเอกสารข่าวแจก กรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติชี้มูล นายบัณฑิต  ภูนากลม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเหล่าไฮงาม อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ กับพวก ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเข้ามีส่วนได้เสียในสัญญาจ้างที่ทำกับองค์การบริหารส่วนตำบลเหล่าไฮงาม โดยนำร้านค้าเข้าเป็นคู่สัญญาแทน เมื่อปี พ.ศ.2557 ถึงปี พ.ศ.2562 รวม 59 โครงการ เป็นคดีหมายเลขดำที่ 44 – 1 – 228/2564  คดีหมายเลขแดงที่ 0515 – 1 – 50/2568

นอกเหนือจากนายบัณฑิตแล้ว สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติยังได้ชี้มูลบุคคลอื่นๆได้แก่ นางสมบูรณ์  งอยจันทร์ศรี และ นายสมจิต  ตลบหอม ในฐานะผู้สนับสนุน และชี้มูลนายวรินทร  ศรีแนน ในฐานะเจ้าหน้าที่พัสดุ และนางสาวนครศรี  สาระวัน ในฐานะหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ และผู้อำนวยการกองคลัง ในฐานะที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ

สำหรับรายละเอียดการชี้มูลระบุว่า ในการประชุมครั้งที่ 33/2568 ลงวันที่ 31  มีนาคม  2568 ที่ประชุม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติพิจารณาแล้ว มีมติว่าการกระทำของนายบัณฑิต มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91

ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินกิจการเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 100 (1) ประกอบมาตรา 122 และมาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ดำเนินกิจการเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าพนักงานของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานของรัฐซึ่งมีอำนาจไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมในการกำกับดูแล ควบคุม ตรวจสอบหรือดำเนินคดี

และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561  มาตรา 126 (1) ประกอบมาตรา 168 และมาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

และมีมูลความผิด ฐานเป็นผู้มีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมที่องค์การบริหารส่วนตำบลเป็นคู่สัญญาหรือในกิจการที่กระทำให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบลนั้น หรือที่องค์การบริหารส่วนตำบลนั้นจะกระทำ และฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 64/2 และ มาตรา 92

สำหรับการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 100 (1) ประกอบมาตรา 122 ระหว่างปี 2557 ถึงวันที่ 26 มีนาคม 2558 ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธิการดำเนินคดีอาญาย่อมระงับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) ให้ยุติการดำเนินคดีตามฐานความผิดดังกล่าว

การกระทำของนางสมบูรณ์  งอยจันทร์ศรี และ นายสมจิต  ตลบหอม มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86

และมาตรา 91 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดำเนินกิจการเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบหรือดำเนินคดี และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 100 (1) ประกอบมาตรา 122 และมาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

และมาตรา 91 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐดำเนินกิจการเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าพนักงานของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ  ซึ่งมีอำนาจไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ในการกำกับดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 126 (1) ประกอบมาตรา 168 และมาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91

สำหรับการกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 100 (1) ประกอบมาตรา 122 และมาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ระหว่างปี 2557 ถึงวันที่ 26 มีนาคม 2558 ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธิการดำเนินคดีอาญาย่อมระงับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) ให้ยุติการดำเนินคดีตามฐานความผิดดังกล่าว

สำหรับนางสาววิภาภรณ์  สาสุนทร จากการไต่สวนเบื้องต้น ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่า ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

ส่วนนายวรินทร  ศรีแนน ในฐานะเจ้าหน้าที่พัสดุ และนางสาวนครศรี  สาระวัน ในฐานะหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ และผู้อำนวยการกองคลัง องค์การบริหารส่วนตำบลเหล่าไฮงาม จากการไต่สวนเบื้องต้น ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ จึงมีมติให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอนเพื่อดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 64

ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายบัณฑิต  ภูนากลม นางสมบูรณ์  งอยจันทร์ศรี และนายสมจิต  ตลบหอม  และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับ นายบัณฑิต  ภูนากลม ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต  พ.ศ. 2561

สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับนายบัณฑิต ภูนากลม นั้นเคยปรากฎเป็นข่าวในช่วงปี 2565 ว่าถูกศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุก 4 ปี แต่นายบัณฑิตรับสารภาพ ลดเหลือโทษ 2 ปี ในคดีสมคบกับพรรคพวก อนุมัติจ่ายเงินสะสมเพื่อจัดทำโครงการขุดลอกลำห้วยโปร่งช้าง-กุดจับ บ้านเหล่าไฮงาม หมู่ที่ 9 เมื่อปี พ.ศ. 2552 โดยมิชอบ