ทีมนักวิจัยนานาชาติ ได้ค้นพบหลักฐานของเหตุการณ์คอขวดทางพันธุกรรม (bottleneck discontinue) ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 110,000 ปีก่อน โดยการตรวจสอบโครงสร้างสมดุลขนาดเล็กในหูชั้นในของตัวอย่างฟอสซิลที่มีอายุกว่า 400,000 ปีของวิวัฒนาการของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล
.
การศึกษาที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ในวารสาร Nature Communications ได้ท้าทายสมมติฐานที่ยึดถือกันมายาวนานเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล ในขณะเดียวกันก็ให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ เกี่ยวกับประวัติประชากรของญาติที่สูญพันธุ์ใกล้ชิดที่สุดของเรา
.
การเปลี่ยนแปลงที่ลดลงนี้สอดคล้องกับการค้นพบล่าสุดจากการศึกษา DNA ในสมัยโบราณซึ่งบ่งชี้ถึงปัญหาคอขวดทางพันธุกรรมในสายพันธุ์นีแอนเดอร์ธัล ปัญหาคอขวดดังกล่าวมักเกิดขึ้นเมื่อประชากรมีขนาดลดลงอย่างมาก ส่งผลให้สูญเสียความหลากหลายทางพันธุกรรม
.
การวิเคราะห์สัณฐานวิทยาของหูชั้นในของทีมช่วยยืนยันได้อย่างอิสระถึงคอขวดทางพันธุกรรมนี้ และช่วยระบุเวลาได้ว่าเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 110,000 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตรงกับช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในยุโรป
.
Mercedes Conde-Valverde ผู้เขียนร่วมและผู้อำนวยการ Cátedra de Otoacústica Evolutiva de HM Hospitales y la Universidad de Alcalá กล่าวว่า “การรวมฟอสซิลจากช่วงทางภูมิศาสตร์และเวลาที่กว้าง ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของวิวัฒนาการของมนุษย์นีแอนเดอร์ธัลได้อย่างครอบคลุม ความหลากหลายที่ลดลงที่สังเกตได้ระหว่างตัวอย่างกับมนุษย์นีแอนเดอร์ธัลคลาสสิกนั้นชัดเจนและน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง โดยเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์คอขวดที่ทำให้นีแอนเดอร์ทัลสูญพันธุ์ในเวลาต่อมา หรือราว ๆ 40,000 ปีก่อน”
.
อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่ https://ngthai.com/ancient previous/76850/neanderthal-inhabitants-bottleneck/
.
#NationalGeographicThailand
RSS)