
เหตุใดยิ่งสงครามปะทุทั่วโลก ผู้คนยิ่งสนใจโหราศาสตร์เพิ่มขึ้น ?

ที่มาของภาพ : Getty Pictures
Article Records
-
- Author, เลโบ ดิเซโก
- Characteristic, ผู้สื่อข่าวศาสนาและความเชื่อของโลก
พวกเราหลายคนน่าจะเคยมีเพื่อน “สายมู” กับเขาอย่างน้อยคนหนึ่ง ที่คอยเช็กดวงชะตาประจำวันตามเว็บไซต์ หรือตามสืบว่าคนที่แอบรักแอบชอบเกิดราศีใด เพื่อที่จะได้รู้ว่าดวงสมพงศ์เป็นคู่กันหรือไม่
แม้การดูดวงแบบนี้จะเป็นเรื่องที่ทำกันเล่นสนุก ๆ ไม่ถือเป็นจริงเป็นจังอะไรมากนัก แต่ในโลกนี้ยังมีคนจำนวนไม่น้อย ที่ยึดถือโหราศาสตร์เป็นสรณะในการดำเนินชีวิต โดยเชื่อว่าตำแหน่งการโคจรของดวงดาวในเวลาเกิดของแต่ละบุคคล สามารถจะมีอิทธิพลต่อชะตาชีวิต, อุปนิสัย, และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้
โหราศาสตร์เป็นสิ่งที่ผู้คนเชื่อถือกันอย่างแพร่หลายในประเทศทางตะวันออก อย่างเช่นจีนและอินเดียมานานนับพันปี แม้ในปัจจุบันนักการเมืองชาวอินเดียบางคน ถึงกับต้องขอคำปรึกษาจากโหรกันบ่อย ๆ เพื่อให้รู้ล่วงหน้าว่ามีโอกาสจะชนะการเลือกตั้งมากน้อยเพียงใด
ตอนนี้ดูเหมือนว่า แม้กระทั่งผู้คนบางส่วนในโลกตะวันตก ก็ยังใช้โหราศาสตร์มาพยายามทำความเข้าใจ รวมทั้งทำนายความเป็นไปในอนาคตของสถานการณ์ทางการเมืองด้วย แม้คนกลุ่มนี้จะเป็นเพียงส่วนน้อยในสหรัฐฯ และยุโรป แต่ก็กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อลองสำรวจสื่อสังคมออนไลน์อย่างติ๊กตอก (Til Tok) ก็พบว่ามีคลิปวิดีโอสั้นเกี่ยวกับการดูดวงมากมาย ที่มาจากหมอดูในแถบอเมริกาเหนือ บ้างก็พยากรณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยมักจะนั่งอยู่หน้าตารางราศีจักร ที่แสดงถึงตำแหน่งของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวนพเคราะห์อื่น ๆ ตาม “ดวงเมือง” หรือวันเวลาในการสถาปนาก่อตั้งประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ อิหร่าน หรือแม้กระทั่งชาติต่าง ๆ ในภูมิภาคยุโรป
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับความนิยมสูงสุด
Cease of ได้รับความนิยมสูงสุด

ที่มาของภาพ : ANTHONY WALLACE/AFP thru Getty Pictures

ที่มาของภาพ : Arrush Chopra/NurPhoto thru Getty Pictures
โหรในคลิปวิดีโอหนึ่งที่เผยแพร่หลังสหรัฐฯ โจมตีอิหร่านเพียงวันเดียว บอกว่า “ดวงของโดนัลด์ ทรัมป์ มีเส้นเงาของดาวมฤตยูตกในอิหร่าน ซึ่งหมายถึงความสัมพันธ์ที่ผันผวนเปลี่ยนแปลงได้ง่าย” ส่วนคลิปวิดีโอของโหรอีกคนหนึ่งที่โพสต์ในวันเดียวกัน พยากรณ์ว่าอิหร่านจะโจมตีตอบโต้ ในวันที่ 1 หรือ 2 ก.ค. แน่นอน
แม้คำทำนายถึงเหตุการณ์ใหญ่ ๆ อย่างกรณีข้างต้น มักจะผิดพลาดคลาดเคลื่อนอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ทำให้ความนิยมในการดูดวงชะตา หรือการเช้าชมคลิปวิดีโอที่พยากรณ์อนาคตของโลกลดน้อยลง
ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เว็บไซต์ตรวจสอบความนิยม “กูเกิล เทรนด์” (Google Traits) เผยว่าจำนวนครั้งในการค้นหาบนอินเทอร์เน็ต โดยใช้คำว่า “โหราศาสตร์” และ “สงคราม” พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงเริ่มเกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 เมื่อเดือนก.พ. ปี 2020 และในช่วงที่รัสเซียเปิดฉากทำสงครามรุกรานยูเครน เมื่อเดือนก.พ. ปี 2022 และในตอนที่เกิดการสู้รบระหว่างอินเดีย-ปากีสถาน ด้วยเหตุความขัดแย้งเหนือดินแดนแคชเมียร์ เมื่อเดือนพ.ค. ของปีนี้ รวมทั้งครั้งล่าสุดในเดือนมิ.ย. ที่สหรัฐฯ โจมตีอิหร่านด้วย
ชาวอิหร่านคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร บอกกับผู้สื่อข่าวบีบีซีว่า ในตอนที่มีการทิ้งsะเบิดโจมตีกรุงเตหะรานเมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา เธอและพี่สาวที่อยู่ในอิหร่าน รีบขอคำปรึกษาจากโหรในทันที เพื่อความอุ่นใจและความกระจ่างเกี่ยวกับอนาคตของประเทศบ้านเกิด
ในช่วงที่ยอดการใช้คำค้นหา “โหราศาสตร์” และ “สงคราม” พุ่งสูงขึ้นมากที่สุดทางกูเกิลนั้น ปรากฏว่าเป็นผู้ใช้งานจากอินเดียและภูมิภาคอเมริกาเหนือ ที่แสดงความสนใจอย่างต่อเนื่อง ในการค้นหาตามหัวข้อดังกล่าวมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร. กาเลน วัตต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมวิทยาเชิงวัฒนธรรมและศาสนา จากมหาวิทยาลัยวอเทอร์ลูของแคนาดา บอกว่าการใช้โหราศาสตร์มาพยายามทำความเข้าใจ “ความซับซ้อนไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ขนาดใหญ่” ถือเป็นความคิดที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะโดยนิยามของโหราศาสตร์แล้ว ไม่มีหลักฐานใดเลยที่ใช้พิสูจน์ยืนยันได้ว่า วิชาดูดวงมีประสิทธิภาพและความแม่นยำจริง

ที่มาของภาพ : Majority World/Kuldeep Singh Rohilla/Universal Pictures Neighborhood thru Getty Pictures
อลิซา เคลลี โหรหญิงผู้หนึ่งในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ บอกว่าเธอรู้สึกยินดีที่ผู้คนสนใจในการดูดวงและวิชาชีพโหร แต่ก็เป็นห่วงเรื่องของจริยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ผลิตเนื้อหาด้านการดูดวงบางคนทางสื่อสังคมออนไลน์ “การทำนายบางสิ่งที่มีความเสี่ยงสูงมาก อย่างเช่นจะเกิดการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ และจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามเมื่อใด ไม่สมควรทำอย่างยิ่งในคลิปวิดีโอที่สั้นเพียง 90 วินาที มันค่อนข้างไร้จริยธรรม หากจะเผยแพร่ข้อมูลแบบนั้นผ่านทางสื่อดังกล่าว”
เคลลียังแสดงความเห็นว่า คลิปวิดีโอที่พยากรณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญของโลก มักได้รับความสนใจจากผู้คน เพราะมีเนื้อหาที่อุจาดหยาบคาย “มันเป็นการเล่นเกมที่อันตราย เมื่อชื่อเสียงของคุณขึ้นอยู่กับความใจกล้าหน้าด้าน ที่จะบังอาจพยากรณ์เรื่องใหญ่ขนาดนั้น นี่ไม่ใช่แนวทางของวิชาชีพโหรที่ฉันต้องการจะทำ”
อย่างไรก็ตาม เคลลีสังเกตเห็นว่าผู้คนให้ความสนใจกับโหราศาสตร์มากขึ้น เพื่อใช้ทำนายแนวโน้มของสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ เธอจำได้ว่าในคืนนับคะแนนเพื่อชี้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะฮิลลารี คลินตัน เธอกับเพื่อนร่วมกันจับกลุ่มติดตามการนับคะแนนทางโทรทัศน์ด้วย ในตอนที่มาตรชี้วัดผลคะแนนของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ เริ่มไม่เป็นไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ คนที่รู้ว่าเธอเป็นหมอดูต่างเข้ามาถามว่า
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? เราควรคาดหวังอะไรในตอนนี้ ? ดวงชะตาของฮิลลารีเป็นยังไง ? แล้วดวงของทรัมป์ล่ะ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?” เคลลีเล่า “นั่นเป็นประสบการณ์ครั้งแรก ที่ฉันสัมผัสจับต้องและรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า ผู้คนใช้โหราศาสตร์มาทำความเข้าใจการเมืองระดับชาติและภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ซึ่งถือเป็นการมองผ่านเลนส์แว่นตาอีกชนิดหนึ่ง”

ที่มาของภาพ : Cassie Leventhal
การระบาดใหญ่ของโรคร้ายแรง ถือเป็นจุดพลิกผันสำคัญอีกครั้งหนึ่ง ที่ทำให้ผู้คนพากันมองหาคำชี้แนะและทางออกจากโหราศาสตร์ ท่ามกลางสถานการณ์อันผันผวนไม่แน่นอน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แคสซี เลเวนทัล เป็นอีกคนหนึ่งที่ใช้ทักษะทางโหราศาสตร์ มาทำนายถึงแนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ เนื่องจากทั้งพ่อและแม่ของเธอเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ร่างกายอ่อนแอ และยังต้องเข้ารับการรักษาอยู่ในขณะนั้น ทำให้เธอต้องใช้การดูดวงชะตาเข้าช่วย เพื่อให้ “คำแนะนำพิเศษ” แก่บุพการี ที่นอกเหนือไปจากคำแนะนำทั่วไปของบุคลากรด้านสาธารณสุข ซึ่งเธอและพ่อแม่ได้ปฏิบัติตามอยู่แล้วเป็นประจำ
คำแนะนำพิเศษที่ว่านี้ มาจากการดูดวงเพื่อให้ทราบว่า มีช่วงเวลาใดบ้างที่พ่อแม่ของเธอจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ติดเชื้อโควิด และแม้คำทำนายดังกล่าวจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับสนับสนุน แต่แคสซีบอกว่า “ฉันมองมันเป็นเหมือนเครื่องมือชิ้นหนึ่ง ที่คุณอาจเลือกหยิบออกมาใช้ได้ในเวลาที่ต้องการ เพื่อเพิ่มความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่”
แคสซียังบอกว่า เธอใช้เคล็ดลับทางโหราศาสตร์เข้าช่วยเล็กน้อย เพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจในเรื่องของการเมืองสหรัฐฯ “ดวงชะตาของทรัมป์ไม่มีดาวนพเคราะห์ในราศีธาตุดิน ส่วนดาวจันทร์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอารมณ์ความรู้สึกนั้น อยู่ในลัคนาราศีธนูซึ่งเป็นธาตุไฟ ทำให้เขามีอารมณ์ร้อนแรงเหมือนไฟแผดเผา ซ้ำยังมุทะลุหุนหันพลันแล่นอยู่บ่อยครั้ง”
ศาสนาหรือความเชื่อทางจิตวิญญาณ ?
ดร.วัตต์ ให้คำอธิบายเกี่ยวกับโหราศาสตร์ว่า “ในทางเทคนิคแล้ว มีบางกรณีที่อาจถือได้ว่าโหราศาสตร์เป็นความเชื่อทางจิตวิญญาณ หรือแม้กระทั่งนับเป็นความเชื่อทางศาสนาก็ยังได้”
“คนที่สนใจดูดวงชะตานั้น อย่างน้อยเขาหรือเธอก็จะมีข้อสันนิษฐานในใจอยู่แล้วว่า โลกและจักรวาลมีระบบระเบียบที่เป็นหลักการครอบคลุมอยู่ ซึ่งระเบียบนี้สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ต่อชีวิตส่วนตัวของแต่ละบุคคลได้” ดร.วัตต์กล่าว
แต่ถึงกระนั้น แนวทางในการตีความหรือการนำคำพยากรณ์ไปปฏิบัติตาม ก็มีความแตกต่างหลากหลายกันออกไปในแต่ละภูมิภาคของโลก เช่นที่อินเดียนั้นผู้คนเชื่อถือและปฏิบัติตามคำทำนายอย่างเคร่งครัด โดยยึดตามแนวทางที่โหราจารย์แนะนำแบบตรงตัว อย่างเช่นการดูดวง “สมพงศ์เนื้อคู่” ที่ใช้พยากรณ์คู่ชายหญิงว่ามีความเหมาะสมที่จะแต่งงานอยู่กินกันหรือไม่ สามารถจะตัดสินชี้ขาดให้ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายได้ว่า จะเดินหน้าทำพิธีมงคลสมรสให้ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน หรือจะถอนหมั้นยุติความสัมพันธ์ลงเพียงเท่านี้
อย่างไรก็ตาม ดร.วัตต์บอกว่าโหราศาสตร์ในโลกตะวันตกยุคปัจจุบัน เปิดกว้างต่อการตีความของปัจเจกบุคคลมากขึ้น “เมื่อคนสมัยใหม่ดูดวง พวกเขาจะไม่ยึดถือคำทำนายเป็นสรณะอย่างเคร่งครัดเหมือนในสมัยก่อน โดยมีความยืดหยุ่นในการตีความ และตัดสินใจได้เองว่าจะเชื่อถือเป็นจริงเป็นจังถึงขนาดไหน โดยสรุปแล้วโหราศาสตร์เป็นเพียงกรอบแนวทางกว้าง ๆ ที่ไม่ต้องเชื่อและทำตามแบบสุดจิตสุดใจก็ได้”

ที่มาของภาพ : Photograph by Morteza Nikoubazl/NurPhoto thru Getty Pictures
คำตอบแบบง่าย ๆ สำหรับยุคสมัยอันซับซ้อน
แม้พาดหัวข่าวของสื่อต่าง ๆ จะพากันบอกว่า ความนิยมในโหราศาสตร์กำลังเพิ่มสูงขึ้นในโลกตะวันตก แต่ข้อมูลจากศูนย์วิจัยพิว (Pew Research Center) ในสหรัฐฯ ระบุว่าจำนวนของชาวอเมริกันที่ใช้โหราศาสตร์ในการดำเนินชีวิต ค่อนข้างคงที่โดยไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลง เช่นในปี 2017 และ 2024 สัดส่วนของคนที่บอกว่าเชื่อในโหราศาสตร์ อยู่ที่ 27% เท่ากันทั้งสองปี
ดร.วัตต์ได้อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ดูเหมือนว่า มีปรากฏการณ์ที่ความนิยมในการดูดวงชะตาเพิ่มสูงขึ้น ทั้งที่ข้อมูลการสำรวจกลับบ่งชี้ว่า ข้อเท็จจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น
ดร.วัตต์บอกว่า การพูดคุยสนทนาเรื่องศาสนาและจิตวิญญาณ เคยเป็นหัวข้อที่ไม่สุภาพเหมาะสม ทั้งในสื่อและในที่สาธารณะมาก่อน แต่หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2016 ได้ทำให้สภาพการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์พลิกผันเปลี่ยนไปอย่างมาก “ตอนนี้เราสามารถพูดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เคยนึกฝันกันมาก่อนว่าจะพูดได้อย่างเปิดเผยในที่สาธารณะ ดังนั้นผู้คนจึงกล้ายอมรับกันมากขึ้นว่า ตนเองเชื่อโหราศาสตร์และดูดวงชะตาเป็นประจำ”
สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว โหราศาสตร์คือเรื่องสนุกสนานที่อาจให้การปลอบประโลมหรือคำแนะนำไปด้วยได้ แต่สำหรับเหตุการณ์สำคัญระดับโลกที่ยุ่งเหยิvซับซ้อน จนแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังไม่อาจทำความเข้าใจหรือคาดการณ์ล่วงหน้าได้นั้น ดร.วัตต์มองว่าการใช้โหราศาสตร์มาถอดรหัสตีความวิกฤตการณ์ที่ร้ายแรง เสี่ยงจะทำให้สังคมโลกที่แตกแยกเป็นฝักฝ่ายหรือขั้วต่าง ๆ อยู่แล้ว ยิ่งจะร้าวฉานกันมากขึ้น
“แต่ก็เข้าใจได้ว่า ทุกวันนี้มนุษย์เราถูกรุมล้อมไปด้วยปัญหาเลวร้ายมากมาย ซึ่งแต่ละปัญหาแก้ไขได้ยากยิ่ง จึงเกิดความปรารถนาตามสัญชาตญาณ ที่จะแสวงหาทางออกหรือคำตอบแบบง่าย ๆ ให้กับปัญหาเหล่านั้น” ดร.วัตต์กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา BBC.co.uk