บิ๊กทอท. ‘’กีรติ กิจมานะวัฒน์' อัพเดทกรณีงานจ้างพิมพ์สติกเกอร์เฉลิมพระเกียรติฯ ที่สนามบินภูเก็ต เผยทำหนังสือตอบ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไปแล้วส่วนการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนฯยังไปไม่ถึงการสอบสวนวินัยร้ายแรง แต่บอกปลายเดือน มี.ค.นี้รู้ผล ยันไม่มีแพะหรือมวยล้มต้มคนดู
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 9 มีนาคม 2568 จากกรณีที่ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ได้ทำหนังสือถึง บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เพื่อขอรับทราบข้อเท็จจริงและขอเอกสารเกี่ยวกับงานจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พร้อมติดตั้ง ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต มูลค่าสัญญาจ้าง 11.02 ล้านบาท
และเมื่อเดือน ต.ค. 2567 ทางสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยนายกริชศักดิ์ ดิลกพรหิรัณย์ ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนทุจริตภาครัฐวิสาหกิจ 2 ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ทำหนังสือที่ ปช. 0024/0898 ถึง ทอท. เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง และขอหลักฐานเพิ่มเติม กรณีการจ้างพิมพ์สติกเกอร์ซีทรูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบฯ โดยให้ ทอท. แจ้งข้อเท็จจริง พร้อมทั้งจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ สำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ภายใน 30 วันนั้น (อ่านประกอบ‘สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ’แจ้ง‘ทอท.’ส่งข้อมูลงานจ้างพิมพ์‘สติกเกอร์เฉลิมพระเกียรติฯ’เพิ่ม-ขอผลสอบวินัย‘พนักงาน’)
@ทำหนังสือตอบ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไปแล้ว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสอบถามกับนายกีรติ กิจมานะวัฒน์. กรรมการผู้อำนวยการใหญ่และเลขานุการคณะกรรมการ ทอท.ถึงกรณีดังกล่าว โดยนายกีรติกล่าวว่า ทอท.ก็ทำหนังสือตอบกลับไป ส่วนตอบทาง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกลับไปว่าอย่างไรนั้น ก็ตอบกลับไปตามที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติขอมา ก็ตอบกลับไปทั้งหมด ยืนยันว่าทางทอท.เองก็มีข้อสังเกตตามที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตามคำสั่งคำสั่ง ทอท.ที่ 1866/2567 ลงวันที่ 6 ส.ค.2567 มีไว้ โดยยังไม่มีการถามกลับมาจากทาง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แล้วการดำเนินการกับพนักงานทั้ง 4 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ 1.นายจีรัฐติกุล เอี่ยมหิรัญ ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (สายปฏิบัติการและบำรุงรักษา), 2.นายพีระ อากาศไชย ตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายท่าอากาศยานภูเก็ต สายสนับสนุนธุรกิจท่าอากาศยานภูเก็ต, 3.นายภาคิน ศิริจันทร์ ตำแหน่ง ฝ่ายการท่าอากาศยาน (สายปฏิบัติการและบำรุงรักษา) ท่าอากาศยานภูเก็ต และนายวิวัฒนา เอี่ยมจ้อย ตำแหน่ง ผู้อำนวยการส่วนพัสดุ ฝ่ายท่าอากาศยานภูเก็ต สายสนับสนุนธุรกิจท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นอย่างไรบ้าง นายกีรติตอบว่า ได้ย้ายทั้ง 4 คนขาดจากตำแหน่งเดิม โดยให้อยู่ในที่ตั้ง (สนามบินภูเก็ต) ไม่ได้มีการย้ายเข้ามาที่ ทอท.สำนักงานใหญ่แต่อย่างใด โดยให้ทำหน้าที่ที่ไม่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง
@ปลายเดือนนี้ คกก.สอบสวน สรุปผล
เมื่อถามต่อว่า แล้วกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของ ทอท. สอบไปถึงไหนแล้ว นายกีรติตอบว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาสอบสวนความผิดอยู่ โดยผ่านการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ยังไปไม่ถึงการสอบสวนเพื่อเอาผิดวินัยร้ายแรง
“จริงๆผมมีไทม์ไลน์อยู่แล้วว่า จะต้องสอบสวนให้ได้ภายใน 30 วัน แต่ว่าคณะกรรมการสอบสวนก็มีความกังวลว่าที่จะตัดสินลงไปมีความถูกต้องรอบคอบหรือเปล่า ตอนนี้ก็ขยายเวลาสอบสวนถึงประมาณปลายเดือนมีนาคมนี้แหละ ถ้าพบมีความผิดวินัยร้ายแรงก็ถึงขั้นไล่ออก” นายกีรติกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การสอบสวนนี้จะไม่พบแพะ หรือเป็นมวยล้มต้มคนดูใช่หรือไม่ นายกีรติตอบว่า ไม่มี การลงโทษข้าราชการข้อเท็จจริงมันต้องชัดเจนก่อน หน่วยงานที่พิจารณาความปิดทั้ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือศาลยุติธรรม จะต้องชัดมาก่อน ส่วนการพิจารณาของคณะกรรมการสอบสวนจะต้องถาม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเพิ่มเติมไหม คาดว่าไม่ต้อง แต่การพิจารณาตัดสินโดยคณะกรรมการสอบสวนจะต้องรอบคอบมากๆ เพราะหากคณะกรรมการสอบสวนให้ใครผิด แต่ถ้าพอไปชั้น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแล้วไม่มีการชี้มูลความผิด ผู้ถูกกล่าวหาก็อาจจะฟ้องร้องเอาได้ ก็ต้องระมัดระวัง
อ่านประกอบ
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )