RILCA และ UNICEF ร่วมเฉลิมฉลอง “วันภาษาแม่สากล 2568”: เสริมพลังความร่วมมือเพื่อการพัฒนาภาษาแม่อย่างยั่งยืน
สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย (RILCA) มหาวิทยาลัยมหิดล โดยศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต (CD-RELC) ร่วมกับองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย (UNICEF Thailand) และองค์กรเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ จัดงานเฉลิมฉลอง “วันภาษาแม่สากล 2568” (World Mother Language Day 2025) ภายใต้หัวข้อ “สร้างพลังความร่วมมือเพื่อการพัฒนาภาษาแม่อย่างยั่งยืน” (Fostering Collaboration for Sustainable Mother Language Pattern) ณ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล
ในปี 2568 นี้ เป็นปีที่ UNESCO จัดการเฉลิมฉลองวันภาษาแม่สากล ครบรอบ 25 ปี และ RILCA ก็ได้จัดกิจกรรมวันภาษาแม่สากลอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 13 ปี นับตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน โดยสืบสานพันธกิจสำคัญที่สถาบันฯ ได้ดำเนินงานมาต่อเนื่องกว่ากึ่งศตวรรษ ทั้งด้านการวิจัย อนุรักษ์ และพัฒนาภาษาและวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในประเทศไทย ผ่านโครงการวิจัยกว่า 100 โครงการ ครอบคลุมกว่า 30 กลุ่มชาติพันธุ์ จนได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เช่น รางวัล Endangered Languages Award (2008) และ King Sejong Literacy Prize (2016) จากองค์การ UNESCO งานวิจัยเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อชุมชนในระดับ Exact-World Impact โดยการปฏิบัติการด้านการส่งเสริมภาษาแม่ในการศึกษา (MTB-MLE) และการส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างภาษาและวัฒนธรรมในบริบทความหลากหลายทางสังคม (ICE) รวมถึงการทำงานเพื่อพัฒนาและฟื้นฟูภาษาแม่/ภาษาชาติพันธุ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นร่วมกับชุมชนชาติพันธุ์และเครือข่ายทั้งในประเทศและนานาชาติ ได้นำไปสู่การพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรทุกกลุ่มของประเทศ และเสริมสร้างสังคมพหุภาษา-พหุวัฒนธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างแท้จริง การทำงานที่ผ่านมาเป็นไปเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่เท่าเทียมและทั่วถึง, SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ และ SDG 16: ส่งเสริมสังคมสงบสุขและยุติธรรม และในปีนี้แนวทางการดำเนินงานและการจัดงานร่วมกับเครือข่ายยังสอดคล้องกับ SDG 17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
กิจกรรมสำคัญภายในงานคือ การประกาศความร่วมมือของเครือข่ายปฏิบัติการด้านการศึกษาทวิ-พหุภาษาในประเทศไทย (Thailand MTB-MLE Action Network) ซึ่งเป็นการรวมตัวขององค์กรสำคัญที่ทำงานด้านการศึกษาภาษาแม่และสิทธิทางภาษาทั้งในประเทศและระดับสากล ประกอบด้วย 15 องค์กร ได้แก่ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย, ศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต (CD-RELC) สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย (RILCA) มหาวิทยาลัยมหิดล, องค์การยูเนสโก กรุงเทพฯ, SIL World, มูลนิธิหมู่บ้านเด็กเพซตาล๊อตซี่ (PCF), มูลนิธิภาษาศาสตร์ประยุกต์ (FAL), สมาคมศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมของชาวไทยภูเขาในประเทศไทย (IMPECT), สภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย (CIPT), กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (EEF), มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (PSU), มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (YRU), มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (CMRU), มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (CRRU), มูลนิธิช่วยเหลือเด็กชายแดนจังหวัดตาก (TBCAF) เราลืมมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงไหมคะ? และชมรมนักจัดการศึกษาในเขตพื้นที่ภูเขาสูงและถิ่นทุรกันดาร (Instructional Administration in Highland and Far flung ing) เพื่อดำเนินงานร่วมกันให้บรรลุเป้าหมายและขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษาภาษาแม่และการศึกษาสำหรับกลุ่มชาติพันธุ์อย่างมีความเท่าเทียม
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ เวทีเสวนาวิชาการในหัวข้อ “การส่งเสริมภาษาแม่หรือภาษาชาติพันธุ์ในระดับโรงเรียน และระดับมหาวิทยาลัย” โดยตัวแทนครูทวิ-พหุภาษาในหลายพื้นที่ เช่น จังหวัดปัตตานี กระบี่ สุรินทร์ และเชียงใหม่ รวมถึงผู้แทนหน่วยงานระดับอุดมศึกษาที่สนับสนุนการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาแม่เป็นฐานจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เชียงใหม่ และยะลา และเวทีเสวนาเกี่ยวกับ “การส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างวัฒนธรรม (ICE)” จากปราชญ์ ครู และผู้ปฏิบัติการเรียนการสอนที่เชื่อมโยงภาษาแม่และองค์ความรู้ท้องถิ่นเข้ากับบริบทการศึกษาและการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากพื้นที่แม่สอด เกาะลันตา และชายแดนใต้ พร้อมกันนี้ยังมีเวทีนำเสนอ โครงการที่ส่งเสริมความร่วมมือระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ เช่น โครงการพัฒนาสื่อเพื่อส่งเสริมสุขภาวะของชาวอูรักลาโวยจ, โครงการนิทานท้องถิ่นหลากหลายภาษา, และโครงการส่งเสริมภาษาและวัฒนธรรมชาวญัฮกุร เป็นต้น ผู้เข้าร่วมงานจะได้เพลิดเพลินไปกับการแสดงดนตรีจากกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น “รำมะนา” จากชาวอูรักลาโวยจ และ “เตหน่ากู” จากชาวปกาเกอะญอ และเชิญเลือกซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นได้ตลอดงาน
งานนี้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจ ทั้งนักวิจัย นักการศึกษา ครู นักเรียน และประชาชนทั่วไป ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองและร่วมขับเคลื่อนภาษาแม่สู่ความยั่งยืน
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )