กฟภ.แจงจำหน่ายไฟฟ้าให้ สปป.ลาว เป็นไปตามมติ ครม. มี 4 จุดซื้อขาย รวม 24 เมกะวัตต์ เป็นหน่วยงานภาครัฐทำสัญญาโดยตรง
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า สืบเนื่องจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ระงับการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับสาธารณรัฐแห่งสหภาพภรรยานมา จำนวน 5 จุด เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2568 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จุดจำหน่ายไฟฟ้าจากไทยไปฝั่งภรรยานมามี 6 จุด ยังมีอีก 1 จุด ที่ยังไม่ได้ระงับ และภายหลังจากการระงับการจ่ายไฟฟ้า มีข่าวว่าฝั่งภรรยานมาหันไปใช้ไฟจากลาวแทน ซึ่ง กฟภ.ได้มีการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับลาวด้วย ดังนั้น ต้องดูว่าการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับลาวของไทยเชื่อมโยงไปที่ท่าขี้เหล็กหรือไม่
- กมธ.ความมั่นคงฯ จี้ กฟภ. ขายไฟ ลาว-ควานหา จุดที่ 6 กระทุ้ง มหาดไทย ปิดท่าข้าม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังนายประสิทธิ์ จันทร์ประสิทธิ์ รองผู้ว่าการธุรกิจและการตลาด กฟภ. เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการจำหน่ายไฟฟ้าไปยัง สปป.ลาว
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า การซื้อขายไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2539 เห็นชอบหลักการให้ กฟภ. ขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านในบริเวณหมู่บ้านที่ใกล้กับเขตชายแดนของประเทศไทย
สำหรับการจำหน่ายไฟฟ้าไปยัง สปป.ลาว มีจำนวน 4 จุด ดังนี้
-
จุดซื้อขายไฟฟ้าบ้านหัวเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ประเทศไทยฝั่งประเทศไทย ถึงเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว
-
จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านนาข่า อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ประเทศไทย ถึงบ้านนาข่า เมืองบ่อแตน แขวงไชยบุรี สปป.ลาว
-
จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านห้วยเกี๋ยง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย ถึงเขตพัฒนาดอกงิ้ว เมืองตันผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว
-
จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านฮวก กิ่งอำเภแภูซาง จังหวัดพะเยา ประเทศไทย ถึงบ้านปางมอฐ เมืองคอบ แขวงไชยบุรี สปป.ลาว
นายประสิทธิ์ ให้ข้อมูลว่า สัญญาการซื้อขายไฟฟ้าเป็นหน่วยงานภาครัฐ สปป.ลาวทำสัญญากับ กฟภ.โดยตรง สัญญามีระยะเวลา 12 ปีและต่ออัตโนมัติทุกๆ ปี รวมกระแสไฟฟ้าทั้ง 4 จุด 24 เมกะวัตต์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับการยืนยันจากหน่วยความมั่นคงว่า 5 บริเวณของภรรยานมาที่ถูกระงับไฟฟ้าจากไทย มีการนำไฟฟ้าจาก สปป.ลาว มาใช้แทนจริงหรือไม่
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )