‘ศรีสวัสดิ์’ แจงปม ‘สภาผู้บริโภค’ กล่าวหาปล่อยสินเชื่อไม่เป็นธรรม ย้ำคิดดอกเบี้ยตามกฎหมาย-ไม่มีนโยบายให้ลูกค้าเซ็นกระดาษเปล่า ระบุนำ ‘กม.หลักประกันธุรกิจ’ มาใช้ เฉพาะลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง แต่หากผิดนัดชำระหนี้ฯ จะให้โอกาส ‘ปรับโครงสร้างหนี้’ ก่อน
………………………………
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้เปิดแถลงข่าว โดยระบุว่า สภาผู้บริโภคจะดำเนินการยื่นฟ้องกลุ่มบริษัท ศรีสวัสดิ์ ทั้งทางแพ่งและทางอาญา เนื่องจากมีผู้บริโภคกว่า 100 ราย ได้รับความเดือดร้อนจากการบริษัท ศรีสวัสดิ์ฯ เอาเปรียบ รวมทั้งมีพฤติการณ์ที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค ทั้งเรื่องการฟ้องดำเนินคดี การถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากการยกเลิกสัญญาหรือการต่อสัญญา เป็นต้น
สภาผู้บริโภค ระบุด้วยว่า บริษัท ศรีสวัสดิ์ฯ ได้นำลายเซ็นที่ผู้บริโภคเซ็นไว้ในกระดาษเปล่า ไปทำเป็นหนังสือแสดงความยินยอมจดทะเบียนเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ตาม พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558 หากผู้กู้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด บริษัทฯสามารถยึดหลักประกันโดยไม่ผ่านกระบวนการศาล และหากผู้กู้ปฏิเสธก็เสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีอาญา นั้น (อ่านประกอบ : จ่อฟ้อง‘ศรีสวัสดิ์ฯ’เอาเปรียบผู้บริโภค-เผยกลยุทธ์ใช้กม.ดำเนิน‘คดีอาญา’บีบลูกหนี้คืนเงิน)
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค. บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ Sawad โดยนางสาวดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น ทำส่งหนังสือชี้แจงสำนักข่าวอิศรา เรื่อง ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการกล่าวอ้างของสภาองค์กรของผู้บริโภค โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่สภาองค์กรของผู้บริโภคได้กล่าวอ้างถึงการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในประเด็นต่างๆ บริษัทฯ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้
1.ประเด็นการดำเนินคดีอาญาตาม พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ บริษัทฯ ขอเรียนว่าบริษัทฯ มีระบบการจัดความเสี่ยงของลูกค้าตามขั้นตอนของบริษัทฯ หากลูกค้ามีความเสี่ยงสูงบริษัทจะมีการตกลงกับลูกค้าให้จดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจตาม พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 ซึ่งมีเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการประกอบธุรกิจ ภายใต้มาตรา 8 ซึ่งกำหนดประเภททรัพย์สินที่สามารถใช้เป็นหลักประกันชัดเจน มีการจดทะเบียนซึ่งดำเนินการโดยเจ้าพนักงานทะเบียนตามกฎหมาย มีการชำระเงินและได้รับใบเสร็จรับเงินจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการชี้แจงสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดตามมาตรา 11, มาตรา 13 และมาตรา 18 3.2 กระบวนการบังคับหลักประกันตามหมวด 5 หากลูกค้ามีปัญหาในการชำระหนี้หรือค้างชำระ ลูกค้ามีสิทธิเลือกที่จะเข้ามาปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อชำระค่างวดต่อ ปิดบัญชีชำระหนี้ หรือส่งมอบหลักประกันคืนกับบริษัทเพื่อเป็นการชำระหนี้ โดยมากลูกค้าเลือกจะเข้ามาปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อชำระค่างวดต่อ หรือส่งมอบหลักประกันคืนบริษัทแทนการชำระหนี้ แต่ยังมีลูกค้าอีกจำนวนหนึ่งที่ค้างชำระมากกว่า 365 วัน และย้าย ซ่อนเร้น หรือโอนหลักประกันไปให้แก่ผู้อื่นโดยทุจริต บริษัทจึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิตามมาตรา 86
2.ประเด็นเรื่องการผ่อนชำระแบบบอลลูน (ชำระแต่ดอกเบี้ย) บริษัทฯ เรียนชี้แจงว่าบริษัทมีผลิตภัณฑ์บ้านแลกเงินซึ่งเป็นสินเชื่อระยะสั้น 12 เดือน บริษัทมีการผ่อนชำระนำเสนอให้ลูกค้าเลือก 3 แบบ กล่าวคือ แบบลดต้นลดดอก (จ่ายทั้งต้นทั้งดอกเบี้ย) แบบลดต้นงวดละ 1% (จ่ายต้นงวดละ 1% และดอกเบี้ย) และ แบบจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย โดยลูกค้าสามารถเลือกได้โดยพิจารณาจากความสามารถในการผ่อนชำระ
3.ประเด็นการจัดทำเอกสารสัญญา บริษัทฯ ขอยืนยันว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและหลักกฎหมายโดยเคร่งครัด บริษัทฯ ไม่มีนโยบายในการให้ผู้ใช้บริการลงนามในเอกสารเปล่าหรือดำเนินการใดๆ ที่เป็นการปลอมแปลงเอกสาร โดยเอกสารทุกฉบับที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมได้จัดทำขึ้นภายใต้หลักความโปร่งใสและหลักความยินยอม (Informed Consent) กล่าวคือ ลูกค้ามีสิทธิและโอกาสในการพิจารณาเงื่อนไขและข้อตกลงอย่างละเอียดเพื่อตัดสินใจว่าจะใช้บริการของบริษัทหรือไม่ก่อนการลงนามเอกสาร
4.ประเด็นเรื่องอัตราดอกเบี้ย บริษัทฯ ขอชี้แจงว่าการคำนวณดอกเบี้ยของบริษัทฯ เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 982-986 ประกอบมาตรา 911, 968(1) และมาตรา 985 ว่าด้วยเรื่องตั๋วสัญญาใช้เงิน
“บริษัทฯ ขอยืนยันว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เป็นไปตามกรอบของกฎหมายและจริยธรรมทางธุรกิจ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ในกรณีที่บริษัทพบว่ามีบุคคลที่เจตนาทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือมีผู้ละเมิดสิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทสงวนสิทธิที่จะดำเนินคดีทางกฎหมายกับบุคคลดังกล่าวทั้งทางแพ่งและทางอาญาเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย และให้บุคคลนั้นได้รับการลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด” หนังสือของบมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น ลงนามโดย น.ส.ดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น ระบุ
รายงานข่าวแจ้งว่า บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น ได้แนบเอกสารคำพิพากษากรณีที่ พนักงานอัยการจังหวัดตราด (โจทก์) และบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 จำกัด (โจทก์ร่วม) ยื่นฟ้องลูกหนี้รายหนึ่ง (จำเลย) ซึ่งกู้เงินจากบริษัทฯ โดยนำรถแทร็กเตอร์ (รถตักดิน) ทำเป็นหลักประกันชำระหนี้ โดยทำสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ เป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานแล้ว แต่จำเลยรายนี้ ได้เอาไปเสีย ทำให้เสื่อมค่า ย้าย ซ่อนเร้น ซึ่งรถแทร็กเตอร์ (รถตักดิน) ดังกล่าว
โดยคดีนี้ศาลจังหวัดตราดพิพากษาให้จำเลยมีความ พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2548 มาตรา 38 วรรคหนึ่ง ,86 ประกอบมาตรา 84 วรรคสอง จำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 25,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี จำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56
อ่านประกอบ :
จ่อฟ้อง‘ศรีสวัสดิ์ฯ’เอาเปรียบผู้บริโภค-เผยกลยุทธ์ใช้กม.ดำเนิน‘คดีอาญา’บีบลูกหนี้คืนเงิน
‘ศรีสวัสดิ์'รับข้อเสนอ'สภาผู้บริโภค' ขึ้นป้าย'กู้เงินต้องได้'คู่สัญญา'-ไม่บังคับทำประกัน
‘ศรีสวัสดิ์’ย้ำมี'ธรรมาภิบาล'ปล่อยกู้ลูกค้า-เผย‘บ.ลูก’ยังไม่ได้เอกสาร DSI แจ้งข้อกล่าวหา
DSI รับเรื่อง‘ศรีสวัสดิ์’คิดดบ.เกินกม.เป็นคดีพิเศษ โฆษกฯแจงมีผู้เสียหาย 4 ราย-เร่งสอบสวน
‘สภาผู้บริโภค’ยก 6 ปมชี้สัญญาเงินกู้‘ศรีสวัสดิ์’ส่อผิดกม.-บริษัทฯแจงแก้ไข-ลงโทษพนักงานแล้ว
‘สภาผู้บริโภคฯ’ โต้ ‘ศรีสวัสดิ์’ แจงปมเอาเปรียบผู้บริโภค‘ไม่-ทำให้คนสับสน’
‘ศรีสวัสดิ์’ร่อนหนังสือแจง 8 ประเด็น หลัง‘สภาผู้บริโภคฯ’จี้ลงโทษกรณีเอาเปรียบผู้บริโภค
ส่อผิดหลายข้อหา!จี้ลงโทษ‘ศรีสวัสดิ์’ คิดดบ.เกินกม.-หักต้น-พ่วงขายประกัน-เรียกค่าไถ่โฉนด
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )