43 บุคคล/องค์กร ที่ร่างกฎหมายสหรัฐฯ ชี้ว่าเกี่ยวข้องกับศูนย์สแกมเมอร์ในอาเซียน มีเครือข่ายไหนเอี่ยวไทยบ้าง

ที่มาของภาพ : AFP via Getty Photos

ในเดือน ก.พ. 2568 ชาวต่างชาติหลายร้อยคนนั่งรวมกันเพื่อรอถูกส่งตัวกลับบ้าน หลังจากพบว่าพวกเขาถูกลวงมาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองเคเคพาร์ค ติดชายแดนไทย-เมียนมา

Article Recordsdata

    • Author, จิราภรณ์ ศรีแจ่ม
    • Role, ผู้สื่อข่าว.

กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา ระบุว่าชาวอเมริกันสูญเงินไปอย่างน้อย 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 320,000 ล้านบาท) จากการถูกลวงลวงทางออนไลน์ ซึ่งมีศูนย์กลางความเคลื่อนไหวอยู่ในหลายประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา นายชรีฟ เจฟเฟอร์สัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จากพรรครีพับลิกันในรัฐอินเดียนา เสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภาของสหรัฐฯ เพื่อจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจร่วมระหว่างหน่วยงานเพื่อปราบปรามกลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ฉ้อโกงชาวอเมริกัน

ในร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวระบุว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19 องค์กรอาชญากรรมจีนที่เคลื่อนไหวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้หันมาใช้รูปแบบการลวงลวงออนไลน์ผ่านกลโกงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่ซับซ้อน โดยรูปแบบที่พบมากที่สุด คือ การลวงลวงแบบเชือดหมู (pig butchering) ซึ่งหมายถึงการสร้างความสัมพันธ์กับผู้เสียหาย เพื่อชักจูงให้ลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในแพลตฟอร์มทางการเงินที่ปลอมขึ้นมา จากนั้นก็โกงเงินของเหยื่อไปจนหมด

พวกเขาพบว่าเหยื่อเหล่านี้มักถูกลวงโดยกลุ่มคนที่มาจากการถูกบังคับใช้แรงงานหรือการค้ามนุษย์ ซึ่งถูกล่อลวงให้มาสมัครงานด้วยประกาศที่เป็นเท็จ จากนั้นถูกกลุ่มอาชญากรนำตัวไปกักขังไว้ในสถานที่ปิด และถูกบังคับให้ทำยอดการลวงลวงตามเป้าที่วางไว้ มิเช่นนั้นจะถูกทรมานหรือลงโทษอย่างรุนแรง

ร่างกฎหมายฉบับนี้ระบุด้วยว่าศูนย์ลวงลวงเหล่านี้พบมากในประเทศเมียนมา ลาว และกัมพูชา “ซึ่งเป็นประเทศที่มีการคอร์รัปชันสูง ขาดความโปร่งใส ไม่มีหลักนิติธรรม ไม่มีระบบตรวจสอบถ่วงดุล โดยองค์กรอาชญากรรมชาวจีนมักดำเนินงานร่วมกันกับรัฐบาลเผด็จการของแต่ละประเทศ”

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and proceed studyingได้รับความนิยมสูงสุด

Cease of ได้รับความนิยมสูงสุด

คำบรรยายในร่างกฎหมายฉบับนี้ ระบุข้อมูลด้วยว่า ปีที่แล้วมีชาวอเมริกันถูกลวงลวงเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับปี 2023 ซึ่งทำให้เห็นว่ากลุ่มอาชญากรเริ่มมุ่งเป้ามายังพลเรือนสหรัฐฯ มากขึ้น ขณะที่ทั่วโลกมีผู้เสียหายจากกลุ่มอาชญากรรมเหล่านี้สูงกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ราว 1.92 ล้านล้านบาท) แต่คาดว่าความเสียหายที่แท้จริงสูงกว่านี้มาก เนื่องจากมีอีกหลายกรณีที่ไม่ได้รับการรายงาน

“มีความเชื่อมโยงที่น่ากังวลระหว่าง รัฐบาลจีน องค์กรอาชญากรรมจีน กับนักการเมืองท้องถิ่นที่คอร์รัปชัน ซึ่งช่วยให้กลุ่มเหล่านี้เติบโต” ร่างกฎหมายของ สส. รีพับลิกัน ระบุ

ในร่างกฎหมายฉบับนี้ยังมีการระบุถึงการให้อำนาจการใช้มาตรการคว่ำบาตรโดยประธานาธิบดี พร้อมกับระบุชื่อชาวต่างชาติและบริษัทที่ถูกพิจารณาว่าจะถูกใช้มาตรการคว่ำบาตร เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับศูนย์ลวงลวงออนไลน์หรือการค้ามนุษย์

.พบว่าทั้งหมดบุคคลชาวต่างชาติจำนวน 43 รายชื่อ เป็นกลุ่มบุคคลและบริษัทที่เคยถูกรายงานในสื่อไทยก่อนหน้านี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นในแง่ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับบุคคลทางการเมืองระดับสูงหรือทางธุรกิจ

เฉิน จื้อ ชายชาวจีนผู้ถือยศเนี๊ยกออกญา ที่ปรึกษาผู้นำตระกูลฮุน

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หน่วยงานของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรออกแถลงการณ์ร่วมกันว่าได้ดำเนินมาตรการจัดการกับนายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่านายวินเซนต์

เขาเป็นชายเชื้อสายจีน วัย 37 ปี สัญชาติสหราชอาณาจักรและกัมพูชา รวมถึงเป็นประธานบริษัทปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป หรือ ปรินซ์กรุ๊ป (Prince Team)

สำนักอัยการสหรัฐฯ ประจำเขตนิวยอร์กตะวันออก และแผนกความมั่นคงแห่งชาติของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ยื่นคำร้องทางแพ่งไปเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2568 เพื่อริบทรัพย์สินเป็นบิตคอยน์มูลค่าประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.88 ล้านล้านบาท) ซึ่งเชื่อว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงและการฟอกเงินของนายเฉิน จื้อ ซึ่งเบื้องหน้าทำธุรกิจกลุ่มบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ในกัมพูชา โดยระบุว่าเป็นบริษัทด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และบริการสำหรับผู้บริโภค แต่ “โดยลับ ๆ แล้ว จำเลย (หมายถึงนายเฉิน จื้อ) และผู้บริหารระดับสูงได้ทำให้กลุ่มปรินซ์กรุ๊ปเติบโต กลายเป็นหนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย”

คำร้องดังกล่าวถือว่าเป็นการดำเนินการริบทรัพย์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ

ที่มาของภาพ : Prince Team

นายเฉิน จื้อ

ทางการสหรัฐฯ กล่าวว่ากลุ่มบริษัทปรินซ์กรุ๊ปดำเนินการศูนย์ลวงลวงโดยใช้บุคคลที่ถูกควบคุมตัวไว้ในศูนย์โดยไม่สมัครใจ และบังคับให้พวกเขาเหล่านี้ปฏิบัติการหาเหยื่อมาลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลด้วยกลโกงแบบ “เชือดหมู” ซึ่งโกงเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเหยื่อเป็นผู้คนที่อยู่ในสหรัฐฯ และทั่วโลก

ปัจจุบันนายเฉิน จื้อ อยู่ระหว่างการหลบหนี แต่ขณะเดียวกันทรัพย์สินของเขาที่อยู่ในสหราชอาณาจักรมูลค่ารวมกันกว่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,300 ล้านบาท) ก็ถูกอายัดด้วยมาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรแล้วด้วยเช่นกัน

มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักรยังครอบคลุมถึงกลุ่มบริษัทอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับปรินซ์กรุ๊ป เช่น เครือบริษัท จินเปย์ กรุ๊ป (Jinbei Team) ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์บันเทิงครบวงจร โรงแรม และกาสิโนในเมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา รวมถึงศูนย์สแกมเมอร์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมี บจก.โกลเดน ฟอร์จูน รีสอร์ต เวิลด์ (Golden Fortune Accommodations World Ltd.) ซึ่งแสร้งว่าเป็น “อุทยานเทคโนโลยีขนาดใหญ่” ชื่อว่าโกลเดน ฟอร์จูน ไซเอนส์ แอนด์ เทคโนโลยี ปาร์ค ใจกลางกรุงพนมเปญ แต่ฉากหลังคือศูนย์สแกมเมอร์

นอกจากนี้ ไบเอ็กซ์ เอกซ์เชนจ์ (Byex Replace) แพลตฟอร์มสกุลเงินคริปโตที่เชื่อมโยงกับจินเปย์กรุ๊ปและปรินซ์กรุ๊ป ก็ตกเป็นเป้าหมายของมาตรการคว่ำบาตรนี้ด้วย

ที่มาของภาพ : U.S. Division of the Treasury

แผนผังการดำเนินการองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติของปรินซ์กรุ๊ป ซึ่งจัดทำโดยหน่วยงานของสหรัฐฯ

ชายชาวจีนคนนี้มีประวัติที่ไม่ธรรมดา รายงานของโครงการริเริ่มระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ (Global Initiative against Transnational Organized Crime หรือ GI-TOC) ในปี 2022 ระบุว่าอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในเมืองสีหนุวิลล์ของกัมพูชา ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมออนไลน์ที่ดำเนินโดยกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ กลุ่มที่มีบทบาทคือเหล่านักธุรกิจที่ดำรงยศ “ออกญา (oknha)” สถานะบรรดาศักดิ์ที่ภายหลังถูกมองว่าเป็นชั้นยศต่างตอบแทน เนื่องจากต้องบริจาคเงินหรือลงทุนในกัมพูชาจำนวนมาก ถึงจะได้สถานะดังกล่าว

รายงานดังกล่าวของ GI-TOC ระบุว่า เฉิน จื้อ ได้รับการแต่งตั้งเป็นออกญาด้วยเช่นกัน ขณะที่สำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียบอกว่า เขามีตำแหน่งเป็น “เนี๊ยก ออกญา (Neak Oknha)” ซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่า

ทั้งสองแหล่งรายงานตรงกันว่า ชายชาวจีนคนนี้มีความใกล้ชิดกับนักการเมืองระดับสูงของกัมพูชาหลายคน โดยดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของนายเฮง สัมริน อดีตประธานรัฐสภา รวมถึงนายซอ เค็ง อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยของกัมพูชา และมีความสนิทสนมกับนายซอ โสกา ผู้เป็นลูกชาย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา

สำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียยังรายงานว่า ในปี 2020 นายเฉินได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฮุน เซน และเคยเดินทางไปทำภารกิจการทูตเคียงคู่กับผู้นำตระกูลฮุนที่คิวบา รวมถึงเป็นตัวแทนมอบความช่วยเหลือลาวในนามรัฐบาลกัมพูชาด้วย และเมื่อสมเด็จฮุน มาเนต ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ชายชาวจีนรายนี้ก็อยู่ในรายชื่อ 1 ใน 104 ที่ปรึกษาของลูกชายคนโตของตระกูลฮุน ซึ่งตำแหน่งนี้มีระดับเทียบเท่ารัฐมนตรี

นอกจากนี้ ในร่างกฎหมายดังกล่าวยังมีชื่อชาวต่างชาติคนอื่น ๆ ซึ่งถูกระบุอยู่ในบัญชีองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (Transnational Criminal Organizations – TCO) ที่จัดทำโดยสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของสหรัฐฯ (OFAC) ด้วย และทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับปรินซ์กรุ๊ป ได้แก่ นายซอ โสกา, เฉิน ซิวหลิง (Chen Xuiling) ชาวสิงคโปร์, นายอิง ดารา ชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นหุ้นส่วนในโครงการโกลเดน ฟอร์จูน ไซเอนส์ แอนด์ เทคโนโลยี ปาร์ค

“เขา (หมายถึงนายเฉิน) และอิง ดารา ยังคงถือครองผลประโยชน์ใน ศูนย์ลวงลวงโกลเดน ฟอร์จูนฯ ซึ่งคนในท้องถิ่นให้ข้อมูลกับนักข่าวว่า พวกเขาเคยเห็นแรงงานถูก ‘ทุบตีจนแทบไม่รอดชีวิต' ก่อนจะถูกบังคับให้กลับเข้าไปหลังจากพยายามหลบหนี” OFAC ระบุ

ทางการสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่าปรินซ์กรุ๊ปและเครือข่ายยังนำรายได้ที่มาจากอาชญากรรมข้ามชาติไปลงทุนผ่านช่องทางอันซับซ้อนตามบริษัทบังหน้า (shell firm) และนิติบุคคลต่าง ๆ ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน หมู่เกาะเคย์แมน สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และปาเลา ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วเงินผิดกฎหมายเหล่านี้จะเข้าไปปะปนกับกิจกรรมถูกกฎหมายขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

ที่มาของภาพ : Prince Valid Property Funding Co., Ltd.

โครงการอสังหาริมทรัพย์ในไทยที่ทางเครือบริษัทปรินซ์กรุ๊ปอ้างว่าเข้าไปลงทุน

ล่าสุด สำนักข่าวไทยพีบีเอสยังรายงานด้วยว่าพวกเขาพบเว็บไซต์ที่มีโลโก้และชื่อเดียวกันกับปรินซ์กรุ๊ปของนายเฉินที่ระบุว่ากลุ่มบริษัทดังกล่าวเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในไทยด้วยเช่นกัน

เว็บไซต์ดังกล่าวเป็นของ บจก.ปรินซ์ อินเตอร์เนชันแนล คอมพานี (Prince Global) ในกรุงลอนดอน และอ้างว่าตนเองมีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับโลก แต่โปรไฟล์บริษัทที่ให้ไว้ในเว็บไซต์ค่อนข้างกระจัดกระจาย จากข้อมูลที่.ได้เห็น

เว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่ามีสำนักงานอยู่ในกรุงไทเปของไต้หวัน, กรุงเทพมหานคร, กรุงลอนดอน, รวมถึงกรุงพนมเปญของกัมพูชา โดยมีพอร์ตการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศwื้นที่มากกว่า 3.6 ล้าน ตำรวจม. และมีพื้นที่พัฒนากว่า 5 ล้าน ตำรวจม. ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม คลับ ศูนย์การค้า ไปจนถึงสำนักงาน โรงแรม วิลลา หรือเกาะต่าง ๆ

ทว่า ในเว็บไซต์กลับใช้ชื่อบริษัทว่าไต้หวัน ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ (Taiwan Prince Valid Property Funding) ที่ระบุเบอร์โทรศัพท์ขึ้นต้นรหัสในไต้หวัน และอ้างว่าบริษัทลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในบางโครงการของ บมจ.ริชี่เพลส 2002, บมจ.แสนสิริ และ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน

ที่มาของภาพ : Prince Valid Property Funding Co., Ltd.

สถานที่ตั้งสำนักงานในกรุงเทพฯ ซึ่งระบุไว้ในหน้าเว็บเพจของ บจก.ปรินซ์ อินเตอร์เนชันแนล คอมพานี (Prince Global) ซึ่งปัจจุบันลบหน้าเว็บเพจนี้ออกไปแล้ว

นอกจากนี้ในหน้าเว็บไซต์ดังกล่าวมีหน้าเพจที่ระบุไปยังที่ตั้งสำนักงานในกรุงเทพฯ แต่ปัจจุบันหน้าเพจดังกล่าวถูกลบออกไปแล้ว

จากการสืบค้นย้อนกลับด้วยเครื่องมือ methodology help machine พบว่าบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนในไทยชื่อว่า บจก. ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล และมีที่ตั้งสำนักงานอยู่ที่อาคารซิโน-ไทย ทาวเวอร์ ย่านอโศก

ทั้งนี้หลักฐานดังกล่าวถูกสืบค้นโดยทีมข่าวสืบสวนของไทยพีบีเอส และรายงานดังกล่าวออกอากาศในค่ำวันนี้ (16 ต.ค.)

เครือข่าย ก๊ก อาน สว. “เจ้าพ่อปอยเปต” ผู้มีลูกถือสัญชาติไทย

ชาวต่างชาติที่ถูกระบุว่าต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรภายใต้ร่างกฎหมาย ได้แก่ นายก๊ก อาน (Kok An) ชายเชื้อสายจีน สัญชาติกัมพูชา ปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภา และนักธุรกิจผู้ก่อตั้งบริษัท แอนโค บราเธอร์ส (Anco Brothers) ซึ่งทำธุรกิจนำเข้าและขายสินค้า กาสิโน ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ อินเทอร์เน็ต จัดส่งน้ำ และไฟฟ้า ในกัมพูชา ซึ่งส่งผลให้เขาติดอันดับมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของประเทศ

นอกจากดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว เขายังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของสมาคมออกญากัมพูชา และมักบริจาคเงินจำนวนมากเพื่อองค์กรการกุศลต่าง ๆ ในประเทศอยู่เสมอ

บริษัทของเขายังเป็นผู้ถือใบอนุญาตประกอบกิจการกาสิโนชื่อว่า คราวน์ รีสอร์ต กาสิโน ในเมืองปอยเปต ติดชายแดน จ.สระแก้วของไทย และเป็นที่ทราบกันดีว่าชายคนนี้คือหนึ่งในคนสนิทของสมเด็จฮุน เซน

ข้อมูลจากไซเบอร์ สแกม มอนิเตอร์ (Cyber Scam Computer screen) โครงการติดตามการลวงลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า นายก๊ก อาน ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับศูนย์อาชญากรรมทางไซเบอร์กลุ่มทุนจีนเทาหลายแห่งในกัมพูชา ซึ่งพบว่ามีการบังคับใช้แรงงานและค้ามนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น คราวน์ รีสอร์ต ปอยเปต ซึ่งรวมถึงตึก 18 ชั้น และตึก 25 ชั้น แหล่งเปิดบัญชีม้า พนันออนไลน์ และศูนย์สแกมเมอร์ ที่พบคนไทยตกลงมาเสียชีวิต รวมถึง คราวน์ กาสิโน ในเมืองบาเวต

เขายังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับศูนย์สแกมเมอร์ในเมืองสีหนุวิลล์หลายแห่งด้วยกัน เช่น คราวน์ เทคโนโลยี, ไคโบ (Kaibo), จินสุ่ย (Jinsui), เคไนน์ไนน์ ไทรอัมพ์ ซิตี (K99 Triumph City), หนานไห่ (Nanhai)

ที่มาของภาพ : Getty Photos

คราวน์ กาสิโน ในเมืองปอยเปต

ในปี 2022 สำนักข่าววีโอดี (VOD) ของกัมพูชาซึ่งปัจจุบันถูกสั่งปิดโดยสมเด็จฮุน เซน ไปแล้วนั้น เคยรายงานข่าวการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นบริเวณศูนย์สแกมเมอร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายก๊ก อาน และสมาชิกครอบครัวของเขา

ใจกลางการสืบสวนของรายงานชิ้นนี้ พยายามเจาะไปที่โรงแรมในศูนย์ลวงลวงไคโบ ซึ่งมีนายริธี ซัมนัง (Rithy Samnang) ลูกเขยนายก๊ก อาน ที่แต่งงานกับ น.ส.ภูเฌอหลิน คล่องกิจกล ผู้เป็นลูกสาว

ในร่างกฎหมายตั้งหน่วยปราบปรามสแกมเมอร์ของสหรัฐฯ ยังพบรายชื่อบริษัท เคไนน์ไนน์กรุ๊ป (K99 Team) รวมถึงชื่อของนายลอง ดีมัง (Long Dimanche) รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระสีหนุ และนายกุช จัมเริญ (Kuoch Chamrouen) ผู้ว่าราชการจังหวัดพระสีหนุ ด้วย เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีส่วนรู้เห็นในอาชญากรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองสีหนุวิลล์

ที่มาของภาพ : ตำรวจไซเบอร์

การแถลงข่าวปฏิบัติการโค่นขุมทรัพย์พันล้าน ก๊ก อาน ของตำรวจไซเบอร์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2568

ท่ามกลางวิกฤตปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา และเกิดกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างสมเด็จฮุน เซน กับอดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พบว่าวันที่ 8 ก.ค. 2568 ตำรวจไซเบอร์ของไทยเปิดปฏิบัติการ “Kok An Endgame” เข้าบุกค้นอสังหาริมทรัพย์ 20 แห่ง ในกรุงเทพฯ สมุทรปราการ และชลบุรี พร้อมกับอายัดทรัพย์สินมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยกล่าวหาว่านายก๊ก อาน วัย 71 ปี มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับฐานสแกมเมอร์ออนไลน์ในฐานะ “เจ้าพ่อปอยเปต”

ทั้งนี้ นายก๊ก อาน ถูกออกหมายจับจากทางการไทยด้วย ตามมาด้วยหมายจับลูกของเขาอีก 3 คน ได้แก่ นางสาวจุรี คล่องกิจกล นายกิตติศักดิ์ คล่องกิจกล และ นางสาวภูเฌอหลิน คล่องกิจกล

รายงานของไทยพีบีเอส ระบุว่าทั้งสามคนมีใบแจ้งเกิดในไทย และมีบัตรประชาชนคนไทย โดยจากข้อมูลทะเบียนราษฎร์ใน อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ระบุว่าพวกเขามีพ่อแม่เป็นคนไทยชื่อว่านายบุญเลี้ยงและนางอำไพ ทั้งคู่เสียชีวิตแล้วและอัฐิถูกเก็บไว้ที่วัดคลองเพ็ชร ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด ขณะที่นายทะเบียนที่รับแจ้งเกิดลูกนายก๊ก อาน ก็เสียชีวิตไปแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์ยังพบว่านายบุญเลี้ยงแจ้งเกิดลูกถึง 24 คน ด้วยกัน จากภรรยาจำนวน 6 คน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวปรากฏชื่อของลูกนายก๊ก อาน

ในช่วงที่ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการยึดทรัพย์และกวาดล้างเครือข่ายนายก๊ก อาน ในไทย ทางนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ออกมาเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ขยายผลไปยังคนไทย เพราะเชื่อว่านายก๊ก อาน ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามลำพัง แต่มีเจ้าหน้าที่ไทยและนักการเมืองท้องถิ่นบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าว

ปรากฏชื่อ “เบน สมิธ-ยิม เลียก” อีกครั้ง

ชาวต่างชาติอีกรายที่อยู่ในบัญชีผู้จะถูกดำเนินการมาตรการคว่ำบาตรในร่างกฎหมายของสหรัฐฯ คือ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ (Benjamin Mauerberger) หรือ เบน สมิธ ชายชาวแอฟริกาใต้ที่ถูกนายรังสิมันต์ โรม สส.จากพรรคประชาชน อภิปรายระหว่างการแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา

ในการอภิปรายเพื่อชี้ให้รัฐบาลนายอนุทินดำเนินนโยบายปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาอย่างจริงจัง สส.รายนี้อ้างถึงรายงานของนายทอม ไรท์ นักข่าว อดีตนักข่าวสืบสวนจากวารสารวอลล์สตรีท ที่ระบุว่าเรือยอชต์หรูที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ใช้โดยสารไปพบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย รวมถึงเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวที่เขาโดยสารไปนครดูไบเมื่อไม่นานนี้ ล้วนมาจากการจัดหาโดยนายเบน สมิธ ซึ่งนายรังสิมันต์โรมหวังว่าข้อมูลนี้จะไม่ใช่ความจริง เพราะ “นั่นหมายความว่าเงินจากการค้ามนุษย์ เงินจากสแกมเมอร์ในกัมพูชา ได้แปรสภาพเป็นของขวัญสุดหรูเพื่อสร้างอิทธิพลของตัวเองในประเทศไทย”

นายรังสิมันต์บอกว่าชายชาวแอฟริกาใต้ผู้นี้ เคยมีประวัติทำธุรกิจสแกมเมอร์รุ่นดั้งเดิมมาก่อน ปัจจุบันมีสัญชาติกัมพูชาและเป็นที่ปรึกษาสมเด็จฮุน เซน ด้วย

นอกจากนี้ เขายังเปิดเผยว่านายเบน สมิธ เคยมีความพยายาม “ปักหลักที่ประเทศไทยอย่างถาวร” เพราะได้มีการสละสัญชาติกัมพูชา และขอสัญชาติไทย แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากนายอนุทิน สมัยนั่งเป็น รมว.มหาดไทย เนื่องจากเอกสารไม่ครบถ้วน

ที่มาของภาพ : Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม

นายเบน สมิธ เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาการอภิปรายในวันที่ 30 ก.ย. 2568 ที่นายรังสิมันต์ โรม สส. พรรคประชาชน (ปชน.) พยายามเชื่อมโยงให้เห็นว่านักธุรกิจรายนี้มีเครือข่ายทางธุรกิจที่แนบแน่นระหว่างนักการเมืองในไทยและกัมพูชาอย่างไร

ระหว่างการอภิปรายเขายังเสนอภาพถ่ายหลายชุดด้วยกัน เพื่อยืนยันว่านักธุรกิจชาวแอฟริกาใต้ผู้นี้มีความกว้างขวางเพียงใด

เช่นในเดือน มิ.ย. 2567 พบภาพของนักธุรกิจรายนี้ยืนพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า (ปัจจุบันเป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (ปัจจุบันเป็น รมว.กระทรวงศึกษาธิการ) ในงานบุญวัดดวงแข ในกรุงเทพมหานคร

ต่อมาในวันที่ 27 ต.ค. 2567 พบภาพนักธุรกิจรายดังกล่าวกับ ร.อ.ธรรมนัส ออกงานบุญใหญ่ ที่วัดดงช้างดี จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งนักธุรกิจคนดังกล่าว และภรรยาของเขาเป็นเจ้าภาพงานบุญด้วย นอกจากนี้ยังมีการเสนอภาพที่พวกเขาพบปะกันอีกหลายครั้ง

นอกจากบุคคลในรัฐบาลอนุทินแล้ว รังสิมันต์ยังเปิดภาพที่แสดงให้เห็นว่า ที่ปรึกษาของสมเด็จฮุน เซน รายนี้ ได้พบกับผู้มีอิทธิพลทางการเมืองไทยอย่าง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เกาะหลีเป๊ะ ในระหว่างการพบกับนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียด้วย ซึ่งในที่นั้นมีภาพ ร.อ.ธรรมนัส อยู่ในเหตุการณ์ด้วย

นายเบน สมิธ ยังอยู่ในการอภิปรายของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งอภิปรายเรียกร้องให้นายอนุทินตรวจสอบการซื้อขายหุ้น บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชัน ที่อาจเกี่ยวโยงกับขบวนการทุนเทาข้ามชาติ เนื่องจากกังวลว่าเงินสกปรกกำลังทะลักเข้ามาใช้ตลาดทุนไทยเป็นช่องทางฟอกเงิน โดยในการอภิปรายเดียวกันนี้ เขายังได้เอ่ยชื่อนายยิม เลียก ชายชาวกัมพูชา ประธานกรรมการบริษัทบีไอซีกรุ๊ป (BIC Team) กลุ่มทุนการเงินขนาดใหญ่ของกัมพูชาด้วย

ทั้งนี้ นายยิม เลียก (Yim Leak) ก็เป็นรายชื่อชาวต่างชาติที่อยู่ในร่างกฎหมายของสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน และบริษัท BIC Team ของเขาก็มีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วย

จากข้อมูลการอภิปรายของนายรังสิมันต์ยังทำให้เห็นด้วยว่า BIC Team ของนายยิม เลียก ซึ่งถูกนายวิโรจน์อภิปรายตั้งคำถามว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเงินสีเทามาฟอกในตลาดทุนไทยหรือไม่นั้น จะไม่สามารถเติบโตได้เลยหากไม่มีนายเบน สมิธ

นายรังสิมันต์บอกว่าจากข้อมูลของนายทอม ไรท์ ระบุว่า นายเบนเป็นผู้แนะนำให้นายยิม เลียก ผู้มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลฮุนของกัมพูชานั้น สร้างรายได้ผ่านการพัฒนาที่ดินเป็นกาสิโนเพื่อใช้ฟอกเงินให้กับพวกทุนจีน โดยหนึ่งในนั้นคือโครงการเมืองใหม่ดาราสาครที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ชายฝั่งทะเลในจังหวัดเกาะกงของกัมพูชา ที่มีชายแดนติดกับจังหวัดตราดของไทย

สำหรับโครงการเมืองใหม่ดาราสาครนั้น .พบว่าผู้ลงทุนหลัก คือ บริษัท ยูเนียนเดเวลล็อปเม้นท์ กรุ๊ป หรือ ยูดีจี (Union Pattern Team-UDG) บริษัทสัญชาติจีน ซึ่งถูกกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ คว่ำบาตรเมื่อปี 2020 รวมถึงนายเฉอ จื้อเจียง นักธุรกิจเชื้อสายจีน สัญชาติกัมพูชา ซึ่งต่อมาเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรเมืองชเวโก๊กโก่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ศูนย์กลางสแกมเมอร์จีนเทาที่เพิ่งถูกทางการไทยดำเนินการตัดน้ำ ไฟ และน้ำมัน เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ที่มาของภาพ : THAI NEWS PIX

การอภิปรายของนายรังสิมันต์ โรม เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2568

หลังลงทุนในเมืองใหม่ดาราสาคร นายเฉอ ก่อตั้งบริษัทยาไท่ อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิ้ง กรุ๊ป หรือ YATAI IHG โดยมีผู้ถือหุ้นอย่างนายหม่า ตงลี (Ma Dongli) และนายซ่ง เป่าเจีย (Zhong Baojia) รวมถึง พ.อ.ชิต ตุ ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง หรือ กะเหรี่ยงบีจีเอฟ

ในปี 2022 กลุ่มทุนยาไท่ นำโดย นายหม่า ตงลี และ นายซ่ง เป่าเจีย ยังเข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร และกาสิโนถูกกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ผ่านการประชุมออนไลน์ และบอกว่ามีความต้องการสร้างเมืองฝาแฝดในฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก รวมถึงกำลังบริษัทได้เข้าครอบครอง หรือ rob over โครงการ Bangkok Smile Sq. ตึก 32 ชั้น ในย่านใจกลางกรุงเทพ บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ซึ่งมีแผนทำเป็นสถานบันเทิงครบวงจร จากรายงานของไทยพีบีเอส

ปัจจุบัน นายเฉอ จื้อเจียง ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ฐานฉ้อโกงและลวงลวงออนไลน์ชาวจีนมูลค่าหลายพันล้านบาท ตามหมายจับของตำรวจสากล โดยทางการจีนพยายามอย่างหนักเพื่อให้ไทยส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่ขณะนี้คดีของเขาอยู่ระหว่างศาลอุทธรณ์ส่งคำโต้แย้งของนายเฉอ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าคำสั่งส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ขาดคดีวันที่ 22 ต.ค. นี้

.พบว่า ในร่างกฎหมายของสหรัฐฯ ว่าด้วยการแต่งตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจเพื่อปราบปรามอาชญากรรมลวงลวงข้ามชาตินั้น มีรายชื่อของบริษัท ยูเนียนเดเวลล็อปเม้นท์ กรุ๊ป รวมถึง นายหม่า ตงลี และ ซ่ง เป่าเจีย ด้วย

หลังการอภิปรายดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส เผยว่าจะดำเนินคดีกับนายรังสิมันต์ที่พาดพิงว่าเขามีความเกี่ยวข้องกับนายเบน รวมถึงกล่าวหาว่าอาจมีส่วนรู้เห็นในธุรกิจสีเทาและธุรกิจสแกมเมอร์

ด้านนายเบน สมิธ มอบอำนาจให้นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ยื่นฟ้องนายรังสิมันต์ในข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมกับเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท เนื่องจากถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์และเครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ

ร่างกฎหมายสหรัฐฯ จ่อคว่ำบาตรผู้เกี่ยวข้องกับเมืองสแกมเมอร์ติดชายแดนไทย-เมียนมาด้วย

รายชื่อชาวต่างชาติที่อยู่ในบัญชีถูกคว่ำบาตรยังปรากฏชื่อของพลจัตวา ซาย จอ หล่า (Sai Kyaw Hla) ผู้นำอันดับ 3 ของกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตยหรือดีเคบีเอ (Democratic Karen Buddhist Military – DKBA) ผู้มีประวัติพัวพันกับการค้ายาเสพติดและของเถื่อนข้ามแดนมาอย่างยาวนาน

นายทหารผู้นี้ให้ทุนจีนที่ย้ายฐานสแกมเมอร์จากเมืองสีหนุวิลล์มาตั้งศูนย์ลวงลวงในดินแดนที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก ที่ผู้คนเรียกกันในหลากหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น “ช่องแคบ” อันมาจากลักษณะภูมิประเทศของแม่น้ำเมยที่แคบมากจนเดินข้ามถึงกันได้ หรือ “ไท่ฉาง (Taizhang)” ในภาษาจีน อันมาจากชื่อบริษัทสแกมเมอร์ออนไลน์ชื่อดังในเมืองดังกล่าว

ช่องแคบเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายที่ไทยดำเนินการ “3 ตัด” เช่นเดียวกันกับเมืองชเวโก๊กโก่ และเมืองเคเคพาร์ค (KK Park) ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกองกำลังกะเหรี่ยงบีจีเอฟ

ที่มาของภาพ : Getty Photos

เคเคพาร์ค ศูนย์สแกมเมอร์ติดชายแดนไทย-เมียนมา ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

อีกรายชื่อหนึ่งในร่างกฎหมายของสหรัฐฯ คือ บริษัทตงเหมย กรุ๊ป (Dongmei Team) และสมาคมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมหงเหมินโลก (Hongmen World Cultural and Historical Affiliation) ทั้งสององค์กรเป็นของนายหวัน ค็อกคอย ฉายาไอ้ฟันหลอ อดีตหัวหน้ากลุ่ม 14K จากมาเก๊า ซึ่งตอนนี้เคลื่อนไหวอยู่ในกัมพูชา และเดินทางไป ๆ มา ๆ ระหว่างไทยและมาเลเซีย

ทั้งนี้ บริษัทตงเหมยกรุ๊ป เป็นผู้ลงทุนหลักของเมืองเคเคพาร์คในช่วงเริ่มต้นโครงการ

ในปี 2018 นายหวัน เคยจัดพิธีเปิดสำนักงานใหญ่ของสมาคมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมหงเหมินโลกในไทย โดยเชิญ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมงานด้วย

จากนั้นในปี 2020 กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ จึงประกาศมาตรการลงโทษคว่ำบาตรทางการเงินบริษัทที่เกี่ยวข้องกับนายหวันทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือสมาคมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมหงเหมินโลกที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศกัมพูชา

สำหรับเมืองเคเคพาร์ค ถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์ลวงลวงทางไซเบอร์แห่งหนึ่งของโลก ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ควบคุมของกองกำลังกะเหรี่ยงบีจีเอฟภายใต้การนำของ พ.อ.เต่ง วิน

หากร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะส่งผลอย่างไร ?

ร่างกฎหมาย H.R.5490 ของสหรัฐฯ เสนอให้จัดตั้งคณะทำงานระหว่างหน่วยงานเพื่อรื้อถอนศูนย์ลวงลวงออนไลน์ข้ามชาติ โดยกำหนดยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมหลายด้าน เช่น การกดดันรัฐบาลต่างประเทศที่ให้ที่พักพิงแก่ศูนย์ลวงลวง การสืบสวนบทบาทของจีนและกองทัพเมียนมา รวมถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อผู้เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ยังมียุทธศาสตร์เน้นการเสริมศักยภาพหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างประเทศ การคุ้มครองเหยื่อการค้ามนุษย์ และการใช้เทคโนโลยีไซเบอร์เชิงรุกเพื่อทำลายเครือข่ายลวงลวง พร้อมผลักดันให้ประเทศที่เกี่ยวข้องถูกจัดอยู่ในบัญชีสีเทาหรือดำของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (FATF)

เป้าหมายสุดท้าย คือ การติดตามและคืนทรัพย์สินให้แก่ผู้เสียหายชาวอเมริกัน และป้องกันไม่ให้เงินจากอาชญากรรมข้ามชาติแทรกซึมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลก

รายชื่อบริษัทและชาวต่างชาติทั้ง 43 รายการมีดังนี้

  • Aik Paung
  • Benjamin Mauerberger (เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์)
  • Chen Xiuling (เฉิน ซิวหลิง)
  • D. Chen Zhi (ดี. เฉิน จื้อ)
  • Chou Bun Eng
  • Dy Vichea
  • Edward Lee
  • Gabriel Tan
  • Honn Sorachna
  • Hun To (ฮุน โต)
  • Ing Dara (อิง ดารา)
  • Kok An (ก๊ก อาน)
  • Kuoch Chamrouen (กุช จัมเริญ)
  • Li Xiong
  • Long Dimanche (ลอง ดีมัง)
  • Ma Dongli (หม่า ตงลี)
  • Michael Chiam
  • Mote Thun
  • Neth Savoeun
  • Rithy Raksmei
  • Sai Aung Lin
  • Sai Kyaw Hla (ซาย จอ หล่า)
  • Sar Sokha (ซอ โสกรา)
  • Noticed Min Min Oo
  • Su Zhongkian
  • Yan Borith
  • Yan Narong
  • Yan Sathya
  • Yim Leak (ยิม เลียก)
  • Yu Jianjun
  • Yu Lingxiong
  • Zhong Baojia (ซ่ง เป่าเจีย)
  • 9 Dynasty
  • Dongmei Team (ตงเหมยกรุ๊ป)
  • Fully Light Team of Companies, LTD
  • Hongmen World Cultural and Historical Affiliation (สมาคมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมหงเหมินโลก)
  • Huione Team (ฮุยวันกรุ๊ป)
  • K99 Team (เคไนน์ไนน์กรุ๊ป)
  • Prince Team Maintaining Company (ปรินซ์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง คอมพานี)
  • Trans-Asia Global Maintaining Team
  • Union Pattern Team (ยูเนียน เดเวลลอปเมนท์ กรุ๊ป)
  • White Sands Palace On line casino
  • Xinwang Global