สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติขออุทธรณ์สู้ ยกฟ้อง นายก อบต.เกาะขันธ์-พวก คดีจัดซื้อที่ดินสร้างศูนย์พัฒนาฯ

เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา ‘อุดม ไชยภักดี' นายก อบต.เกาะขันธ์ อำเภอชะอวด นครศรีธรรมราช-พวก ทุจริตโครงการจัดซื้อที่ดินเพื่อสร้างศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุผู้พิการ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 8 พิพากษายกฟ้อง – สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเห็นควรอุทธรณ์สู้

สำนักข่าวอิศรา  รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายอุดม ไชยภักดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะขันธ์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช กับพวก กรณีทุจริตโครงการจัดซื้อที่ดินเพื่อสร้างศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้พิการของ อบต.เกาะขันธ์ ซึ่งถูกคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 ประกอบ มาตรา 86 และตาม พ.ร.ป.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติพ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบ ป.อ. ม. 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย

เบื้องต้น คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 เห็นควรที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาศาลในประเด็นยกฟ้องจำเลยทั้งสี่

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐเทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท