
ครม.ไฟเขียวร่างกฎกระทรวงฯ ขยายเวลา ห้าม ‘ตั้ง-ขยาย’ โรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต-เหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต อีก 5 ปี แก้ปัญหาเหล็กฯล้นตลาด-รักษาเสถียรภาพอุตฯในประเทศ
………………………………
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ครม. มีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ทุกขนาด ทุกห้องที่ในราชอาณาจักร พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
สำหรับร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตฯ มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตทุกขนาด ทุกท้องที่ในราชอาณาจักร จากเดิมที่สิ้นสุดการใช้บังคับเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2568 ออกไปอีกเป็นเวลา 5 ปี หรือตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.2568- 9 ม.ค.2573 มีรายละเอียด ดังนี้
1.กำหนดนิยาม “เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต” หมายถึง เหล็กเส้นที่มีลักษณะหน้าตัดกลมหรือเหล็กเส้นกลมที่มีบั้งหรือครีบ ซึ่งอาจนำไปใช้เสริมคอนกรีตสำหรับงานก่อสร้างทั่วไปได้ และ “เหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต” หมายถึง เหล็กแท่งเล็ก สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีภาคตัดขวางเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือเหล็กแท่งเล็กสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่มีภาคตัดขวางเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีด้านยาวไม่เกิน 1.25 เท่าของด้านกว้าง โดยมีความยาว ด้าน 50 มิลลิเมตร ถึง 150 มิลลิเมตร
2.ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือโรงงานผลิตเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ซึ่งรวมถึงโรงงานที่ใช้เครื่องจักร ที่สามารถนำไปใช้รีดเหล็กเส้นได้ทุกขนาด ทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร โดยมิให้ใช้บังคับกับโรงงานที่ผลิตเหล็กเพลา เหล็กลวดหรือเหล็กรูปพรรณที่ทำขึ้นด้วยกรรมวิธีการรีดร้อน หรือลวดเหล็ก ที่ทำขึ้นด้วยกรรมวิธีการรีดเย็นที่ได้รับเอกสารการตรวจสอบกระบวนการผลิต เครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ และลูกรีด จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ร่างข้อ 2-3)
3.กำหนดให้ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากสิ้นกำหนดระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศอุตสาหกรรม เรื่อง ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ทุกขนาด ทุกท้องที่ในราชอาณาจักร พ.ศ. 2562 ลงวันที่ 25 พ.ย.2562 (วันที่ 10 ม.ค.2568) และมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปี นับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ (ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.2568 ถึงวันที่ 9 ม.ค.2573) (ร่างข้อ 4)
กระทรวงอุตสาหกรรม รายงานว่า ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมฉบับนี้ จะช่วยควบคุมกำลังการผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตและเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต เพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหากำลังการผลิตเกินความต้องการของตลาด ทำให้เกิดการใช้อัตรากำลังการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีกับระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานของประเทศ
อย่างไรก็ดี ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมฉบับดังกล่าว เป็นการจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลที่จะขออนุญาตประกอบกิจการโรงงานใหม่ในลักษณะดังกล่าว และกรณีผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตรายเดิม ที่จะขยายโรงงานเพื่อขยายกำลังการผลิต หรือปรับปรุงกระบวนการผลิตที่กระทบต่อปริมาณการผลิตเหล็กประเภทดังกล่าว
แต่การจำกัดสิทธินั้น จะสามารถแก้ไขปัญหาอัตรากำลังการผลิตตกต่ำ และทำให้สามารถใช้กำลังการผลิผลิตที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้อุตสาหกรรมเหล็กมีเสถียรภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเหล็กในระยะยาว จึงเป็นมาตรการที่ยึดหลักความพอสมควรแก่เหตุ และหลักความได้สัดส่วนระหว่างประโยชน์ที่ส่วนรวมจะได้รับกับสิทธิเสรีภาพของบุคคลที่ได้รับผลกระทบแล้ว
กระทรวงอุตสาหกรรมระบุด้วยว่า สถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตและเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต หลังออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ทุกขนาด ทุกท้องที่ในราชอาณาจักร พ.ศ.2562 ในช่วงปี 2563-2566 พบว่า ปริมาณการผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ทรงตัวอยู่ที่ระทับ 2.4-3 ล้านตัน ในขณะที่การใช้กำลังการผลิตทรงตัวที่ระดับ 22.5-28.2% ส่วนปริมาณการผลิตเหล็กแห่งเล็ก ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.4-3 ล้านตัน และอัตราการใช้กำลังการผลิตทรงตัวอยู่ที่ 26.3-36.3%
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )