
‘จรูญเกียรติ’ สยบข่าวลือโซเชียลฯ ตำรวจสอบพระชั้นสมเด็จ ชี้เป็นพระต่างจังหวัด พบมีการเปิดเผยเป็นพระชั้นธรรมคุมพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง เปิดพฤติการณ์ฉาว ทั้งล้วงเงินวัดไปสร้างศาสนสถานใหญ่โต และเลี้ยงดูสีกาจนร่ำรวยเป็นเศรษฐินี
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) กล่าวว่า กรณีการตรวจสอบพระชั้นผู้ใหญ่มีความสัมพันธืทางเพศกับสีกา และมีพฤติกรรมทุจริตเงินวัด ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง หลังมีผู้ส่งหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของพระรูปดังกล่าวเข้ามายังศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาฯ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักระยะในการตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีการกระทำผิดตามที่ถูกร้องเรียนหรือไม่ โดยหลักๆจะมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมไปถึงภาพหลักฐานต่างๆ ให้แน่ชัด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวย้ำว่า ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวลือตามสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ว่า พระที่ตำรวจกำลังตรวจสอบนั้น เป็นพระระดับสมเด็จ จนมีการนำไปพาดพิงกับพระขั้นผู้ใหญ่หลายรูปตามวัดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งพระที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นพระผู้ใหญ่ในพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ไม่ถึงระดับสมเด็จแต่อย่างใด
@พระระดับ ‘ธรรม’ กับสีการะดับเศรษฐินี
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพระรูปดังกล่าวที่ทางตำรวจ บก.ปปป. กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่นั้น เป็นพระราชาคณะระดับชั้นธรรม มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างหรือภาคกลางตอนบน หลังพบมีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าพัวพันธ์กับสีกาในลักษณะสัมพันธ์ฉาว จนถึงขั้นใช้ชีวิตอยู่กินด้วยกันในลักษณะสามีภรรยา คอยส่งเสียเลี้ยงดู ให้เงินซื้อรถ ซื้อบ้านหรู ซื่อที่ดิน และ ทรัพย์สินต่างๆ มากมาย จนกลายเป็นเศรษฐีนีระดับจังหวัด มีหน้ามีตามีผู้คนนับถือมากมายในสังคม โดยทั้งสองแอบคบหากันมาตั้งแต่ปี 2552 หรือ ตั้งแต่สมัยที่เจ้าตัวยังมีตำแหน่งเป็นพระราชาคณะชั้นราช รวมระยะเวลากว่า 15 ปี แต่ชาวบ้านหรือคนในพื้นที่ไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากเข้าใจว่าสีกา หรือ เศรษฐีนีคนดังกล่าว มีฐานะร่ำรวยมาจากการที่ที่มีการกล่าวอ้างว่ามีสามีทำงานอยู่ต่างประเทศคอยส่งเงินให้ใช้
นอกจากนี้จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ยังพบข้อมูล ว่า พระรูปนี้ เคยดึงเงินจากวัดหลายแห่งรวมกันนับร้อยล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการก่อสร้างศาสนสถานขนาดใหญ่ ซึ่งดำเนินการมากว่า 10 ปีแต่ยังไม่แล้วเสร็จ อีกทั้งเงินบางส่วนถูกโอนไปให้สีกา หรือ คนใกล้ชิด และนำไปใช้จ่ายในลักษณะผิดวัตถุประสงค์ อีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากการตรวจสอบยังพบว่า พระเจ้าคณะจังหวัดท่านนี้ รวมถึงเศรษฐีนีสีกาคนสนิท ยังเป็นบุคคลเดียวกันกับที่สีกากอล์ฟ และ อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เคยพูดพาดพิงถึงในคลิปวิดีโอรูปหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ที่ถูกบันทึกไว้ในขณะที่สีกากอล์ฟ และ อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร กำลังโทรพูดคุยในลักษณะเจรจาปัญหาที่เกิดจากความเข้าใจผิด ซึ่งในคลิปเสียงดังกล่าวมีการพูดพาดพิงถึงเจ้าคณะจังหวัดอื่น หนึ่งในนั้นก็คือ เจ้าคณะจังหวัดที่กำลังจะถูกตรวจสอบดังกล่าว
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )