แพทองธาร-ทักษิณ ปลุกใจพรรคร่วมฯ ประกาศจับมือไปกันต่อถึงรอบหน้า

‘แพทองธาร-ทักษิณ’ ปลุกใจพรรคร่วมรัฐบาล เผยเอกภาพของรัฐบาลคือชัยชนะต่อทุกสิ่ง ‘สทร.’ ประกาศเองไปกันต่อพรรคร่วมฯ เอาให้ถึงการเลือกตั้งรอบหน้า ซัด ‘ภูมิใจไทย’ ถอนตัวไม่เป็นสุภาพบุรุษ ชี้ต้องปราบยาเสพติด ยันจุดยืนล้มกัญชาเสรี ก่อนโปรยยาหอมพร้อมเป็นที่ปรึกษาให้สส.ทุกคน ขอแค่ยกหู

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท พรรคร่วมรัฐบาลจัดงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นจ้าภาพ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ภายใต้ชื่อ “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” ซึ่งได้เชิญ บรรดารัฐมนตรี หัวหน้าพรรค แกนนำและสส. ของพรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ไฮไลท์วันนี้ มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาบรรยายพิเศษอีกด้วย โดยถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ระหว่างพรรคร่วมฯ หลังพรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ขอขอบพระคุณสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่านสำหรับการสนับสนุนที่มีมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ได้เป็นหัวหน้ารัฐบาลในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ต้องขอบคุณความทุ่มเทและการร่วมมือของทุกท่านที่ทำให้รัฐบาลของเราแข็งแรง การที่เรามีรัฐบาลที่แข็งแรง เราก็จะมีโอกาสในการทำโอกาสเพื่อพี่น้องประชาชนมากขึ้นด้วย

นางสาวแพทองธารกล่าวต่อว่า แล้วก็ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะมีสถานการณ์มากมายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ของโลก เศรษฐกิจทุกวันนี้ สถานการณ์ภาษี สถานการณ์ต่างๆที่เข้ามา รวมถึงสถานการณ์ของเสถียรภาพของในเรื่องของการเมืองของบ้านเรา และเรื่องของภัยคุกคามจากภายนอกภายในเรื่องของความมั่นคงด้วย แต่ก็มั่นใจในเอกภาพของพรรคพวกรัฐบาลนี่แหละที่จะทำให้ชนะทุกสิ่ง ผ่านพ้นทุกอย่างไปได้

“ชนะที่พูดถึงนี่ก็คือ ชนะในเรื่องของการที่เราจะสามารถรักษาอธิปไตย และรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ในวันนี้เอง ถึงจะไม่ได้ทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี แต่ขอให้มั่นใจว่า ไม่มีสักนาทีที่รู้สึกว่าจะวางภาระหรือทิ้งภาระเรื่องพี่น้องประชาชนไว้ อย่างน้อยในฐานะรัฐมนตรีวัฒนธรรม ยังคิดถึงช่องทางที่จะทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนเสมอ อย่างน้อยดิฉันเองเป็นรัฐมนตรีวัฒนธรรมนะคะ เพราะฉะนั้นนี่แหละค่ะคือความแข็งแรงแล้วก็รัฐบาลเรา แล้วก็ดิฉันก็ยังมั่นใจในเจตนาอันบริสุทธิ์ที่จะรักษาไว้ซึ่งชีวิตของพี่น้องประชาชน รักษาไว้ซึ่งชีวิตของเจ้าหน้าที่ของทหาร แล้วก็การยึดหลักในเรื่องของสันติวิธีเป็นสิ่งที่สำคัญแล้วก็หวังว่า สิ่งพวกนี้จะสามารถ พิสูจน์ตามกระบวนการต่างๆได้ แล้วดิฉันจะได้มีโอกาสกลับมาทำเพื่อพี่น้องประชาชนรับใช้พี่น้องประชาชน รับใช้สถาบัน ได้มีโอกาสกลับมาทำงานร่วมกับท่านอีกครั้งค่ะ” นางสาวแพทองธารกล่าว

นางสาวแพทองธารกล่าวช่วงท้ายว่า แน่นอนว่าวันนี้ก็เป็นการทักทายสั้นๆบนเวที  ตนเองมั่นใจสูงขึ้นว่า หลังจากที่เรามีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีคณะใหม่มาดีแล้ว ก็เชื่อมั่นในตัวของทุกท่านว่า เราจะทำทุกอย่างเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ให้ผิดพลาด แล้วก็รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับทุกท่าน

@จับมือพรรคร่วมฯ ไปกันต่อถึงรอบหน้า

ด้านนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า 51 ปีที่แล้ว มีอายุ 25 ปี มีประสบการณ์ทางการเมืองเหมือนวันนี้ ตอนนั้นช่วยงานนายปรีดา พัฒนาถาบุตร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเป็นตัวแทนวิปรัฐบาลในสมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี บรรยากาศคล้ายกัน เพราะตอนนั้นพรรคร่วมรัฐบาลมีหลายพรรค อันมาจากการเขียนกฎหมายทางการเมือง ทำให้ไม่มีพรรคใหญ่ ตอนที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2540 รัฐบาลแข็งแรงมาก แต่หลังจากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยน คงเป็นเพราะไม่อยากเห็นการเมืองแข็งแรง แต่ตนไม่มองปัญหาเป็นปัญหา มองเป็นความท้าทายว่า ต้องสร้างความเป็นปึกแผ่น ความแข็งแรงของพรรคร่วมรัฐบาล ถึงแม้เสียงจะเกินครึ่งไม่มาก แต่ถ้ามีความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชาติ 1 เสียงก็พอ

นายทักษิณกล่าวต่อว่า 51 ปีที่แล้ว ตนคือผู้มีบทบาทคุม สส.ให้มาโหวตทุกรอบ ต้องอยู่ในสภาฯ ตามหัวหน้าพรรคต่างๆ เพื่อทำบัญชี ขอละตรงนี้ไว้ในฐานที่เข้าใจ ทำบัญชีเพื่อให้มั่นใจว่นะโหวต ประคองมาระยะหนึ่ง มีเหตุการณ์มาแทรก แต่ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาล ในจังหวะที่คิดว่า ได้เปรียบทางการเมือง แต่ไม่เป็นสุภาพบุรุษก็ไม่เป็นไร วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นปึกแผ่น จากการที่ได้พบกับทุกๆคน หัวหน้าพรรคทุกๆคน ทุกคนก็ยังยืนยันว่าจะไปด้วยกัน และส่วนตัวได้บอกกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ทีมนี้แหละที่เมื่อเลือกตั้งแล้วก็จะเป็นพันธมิตรกันอีกครั้งหนึ่ง

“เมื่อไม่ทิ้งกันขนาดนี้ ก็ต้องไม่ทิ้งกันตลอดไป จริงไหมครับ เพราะฉะนั้นจากประสบการณ์ 51 ปีที่แล้ว มีความรู้สึกว่า วันนี้ดีกว่าวันนั้นเยอะ วันนี้ตัวผมเอง ไม่ใช่เด็กอายุ 25 ที่นั่งไล่ตะครุบ สส.ให้มาประชุม แต่วันนี้อย่างน้อยความที่เป็นพี่ๆของทุกท่าน บางคนก็รุ่นลูกรุ่นหลาน ผม76 แล้ว ก็ง่ายกว่า วันนั้นยังต้องขอตังค์คนอื่นมาใช้ วันนี้ก็มีตังค์ใช้เองบ้าง เชื่อว่าน่าจะโอเค และสามารถประคองรัฐบาลได้ และปัญหาที่ต้องแก้ให้กับประชาชนมีเยอะ อย่างที่พูดในรายการอสมท.วันนี้บ้านเมืองเราเสียหายไปมาก การบริหารที่ผิดพลาดโดยเฉพาะการบริหารทางเศรษฐกิจ และระบบราชการที่เติบโตเยอะไปและซับซ้อนไป ซึ่งระบบมันจะต้องเปิดเผยชัดเจน ที่จะต้องทำให้ประชาชนใช้บริการมากขึ้น เพราะฉะนั้นการปรับปรุงรัฐบาลและการบริหารประเทศจะแย่ก็แย่ จะว่าดีก็ดี เพราะเรามีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วยให้มันดีขึ้น แก้ปัญหาดีขึ้น แต่วันนี้เราต้องการพวกท่านทั้งหลาย เราจะต้องอดทนช่วยกัน และรัฐมนตรีทั้งหลายก็ทำงานไปด้วยและแบ่งเวลาให้ดีแบ่งเวลาให้กับความอบอุ่นกับสส.ด้วย เพราะสส.อยู่ใกล้ที่ประชาชน บางทีมีทุกข์มา ก็ไม่รู้จะเอาไปบ่นกับใคร ก็ต้องเอาไปบ่นกับลูกพรรคและรัฐมนตรี” นายทักษิณกล่าว

@แนะรมต.ให้ความสำคัญ สส.

นายทักษิณกล่าวต่อว่า ถ้ารัฐมนตรีแบ่งเวลาให้ สส.บ้าง ก็เชื่อว่าจะมั่นคง เพราะบางทีบางครั้ง ถ้าไม่ดูแลก็อาจถูกตีท้ายครัว ถ้าดูแลดีก็ไม่ถูกใครตีท้ายครัว เพราะวันนี้เรามีพวกชอบตีท้ายครัว เชื่อว่ามีปัญหาก็ถอย เวลามีอะไรโต้กลับมา ต้องแข็งแรงกว่า ก็เชื่อว่ารัฐบาลนี้แข็งแรงกว่ารัฐบาลที่แล้วมา เพราะมีความสามัคคีกัน ไม่มากเกินไปไม่เทอะทะเกินไป น่าจะทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นกระทรวงที่ส่งนโยบายเป็นมือประชาชน วันนี้ได้รองภูมิธรรม (ภูมิธรรม เวชยชัย) เข้าไปนั่ง ก็ไม่ค่อยดุเท่าไหร่ แต่มาถึงอาทิตย์แรกย้ายอธิบดี 2 คน ซึ่งบางครั้งประเทศก็ต้องการความเด็ดขาดเฉียบพลัน ถ้าช้าไปรำวงมากไปก็ไม่ค่อยดี แต่ถ้าจะเฉียบพลันต้องแม่นยำ และเมื่อแม่นยำก็ต้องตัดสินใจเร็ว อย่ารำวงมาก คนอื่นรำวง ก็เลิกกัน

นายทักษิณอีกว่า ได้เห็นรัฐมนตรีหลายท่านขยันตั้งใจทำงาน แต่ต้องระวัง วันนี้ผู้คนหลากหลาย รู้หน้าไม่รู้ใจ บางทีมาในรูปแบบต่างๆ อยากให้รัฐมนตรีหนักแน่นเข้มแข็ง จะได้ทำการเมืองให้ดี ตอนนี้ว่างงาน ถ้าใครอยากใช้งาน โทรศัพท์มาปรึกษาก็โอเคยินดี แม้กระทั่งสส. อยากชวนไปเที่ยวบ้าง ก็ยินดี วันนี้ไม่มีอะไรทำก็อยากขับรถทั่วประเทศ จะได้รู้ว่าพ่อึ้ายามันหลงเหลือที่ไหนบ้าง จะได้เอามาฟ้อง เพราะชาวบ้านวันนี้ยอมรับว่า เดือดร้อนปัญหาเศรษฐกิจหนักที่สุด แต่ขอให้จัดการปัญหายาเสพติดก่อน วันนี้จับได้เยอะมากแต่ปัญหาคือ เรื่องของการฟื้นฟู ก็ให้คำแนะนำไปว่า สถานที่ฟื้นฟูบำบัดต้องมีทุกอำเภอที่ยาเสพติดระบาด ตรงไหนแล้วที่เหลือร้าง ปิดไปแล้วก็มาทำสถานที่บำบัด

ส่วนกัญชา นายทักษิณมองว่า เป็นปัญหาต่อการท่องเที่ยวมากนักท่องเที่ยวหายไปเพราะกัญชา เพราะฉะนั้น กัญชาเสรี อันตรายต้องรีบกลับมาควบคุมให้ได้

“มั่นใจว่าเราทุกคนวันนี้มีความสามัคคีกัน ผมพอพ้นบ่วงผมแล้วเนี่ย ผมจะแวะไปเยี่ยมท่านทั้งหลาย ไปทุกจังหวัด แวะไปเยี่ยมไปให้คำปรึกษาคำแนะนำ มีอะไรก็ไม่ต้องเกรงใจ ไม่รู้จะบรรยายเรื่องอะไรเพราะพูดไปเยอะแล้ว ก็ขออย่างเดียวว่า 51 ปีที่แล้วผมมีบรรยากาศเหมือนวันนี้ และผมก็เป็นผู้ที่ทำหน้าที่โดยตรง ต่อการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล และ ก่อนวันแต่งงานผม ผมแต่งงานหลังจากรัฐบาลม.ร.ว.คึกฤทธิ์ยุบสภาไปแล้ว มีแขก 1,000 คนเป็นสส. 800-900 คน รวมถึงนักการเมืองตำรวจติดตามก็ไปร่วมงานเยอะมาก อยู่มาจนเป็นปู่แล้ว ก็หวังว่า จะช่วยเป็นกำลังใจให้พวกท่านทุกคนมีผมอยู่ที่นี่ อย่าว้าเหว่ ผมอยู่ที่นั่นอยากปรึกษาแวะมาหา อยากมากินข้าวด้วยแวะมา เพื่อที่พวกเราจะได้ทำงานอย่างสบายใจ และไม่ต้องไปตกใจกับคะแนนเสียงที่หายไป มันหายไปได้ก็กลับมาได้ ก็หวังว่า ทุกท่านจะมีกำลังใจ และมีผมอยู่ทั้งคน นายกฯอิ๊งได้เป็นนายกฯในยุคนี้ แถมพ่อนายกเองช่วยเป็นที่ปรึกษาให้ก็แล้วกัน” นายทักษิณสรุป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า การรับประทานอาหารค่ำของพรรคร่วมรัฐบาลรอบนี้ ทางทีีมงานของพรรคเพื่อไทยได้ขอให้สื่อมวลชนงดการถ่ายทอดสดบรรยากาศงานผ่านสื่อโซเชียลมีเดียตลอดทั้งาน