กรุงเทพมหานครปั้นต่อขยายสายสีเขียวใหม่ บางหว้า-ตลิ่งชัน ปักหมุดปี 74 ได้ใช้

กรุงเทพมหานครไปต่อ ทำส่วนต่อขยายเขียวใหม่ ‘บางหว้า-ตลิ่งชัน’ ระยะทาง 7.5 กม. วงเงิน 3-4 หมื่นล้านบาท ทำ PPP ศึกษา 1 ปี เปิด 3 แนวทาง ‘กรุงเทพมหานครทำเอง-BTS ทำต่อ-ประมูลใหม่’ บนเงื่อนไขรัดคอ สัญญาจ้างเดินรถปี 85 ต้องเอาไปด้วย คาดใช้เวลา 3 ปี ในการผลักดัน ปักปี 74 ได้ใช้

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 17 สิงหาคม 2568 แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร ( กทม. ) เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า ในวันที่ 19 ส.ค. 2568 นี้ กรุงเทพมหานครจะจัดการประชุมสัมมนาประชาสัมพันธ์โครงการ และรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุนโครงการหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน (Market Sounding Stakeholder Discussion board)โครงการศึกษาและวิเคราะห์ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายสายสีลม ตอนที่ 3 ช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน ระยะทาง 7.5 กม. ประเมินมูลค่าโครงการ 30,000-40,000 ล้านบาท ให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562) ที่ห้องพุทธรักษา ราชพฤกษ์ฮอลล์ แอนด์ เวิร์กสเปซ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร

แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานครกล่าวว่า การศึกษาครั้งนี้ กรุงเทพมหานครใช้งบประมาณที่ 27 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปี สาเหตุที่ต้องทำการศึกษานี้ เพราะว่า กรุงเทพมหานครมีนโยบายจะทำโครงการนี้ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 ซึ่งตามขั้นตอนในการ พ.ร.บ.นี้จะต้องทบทวนผลการศึกษาเดิมที่มีทั้งการลงทุน ต้นทุน รวมถึงจะต้องรับฟังความเห็นเอกชน (Market Sounding) ด้วย ประกอบกรุงเทพมหานครเพิ่งได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่จากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยเฉพาะบริเวณถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นส่วนที่ ทช.กำกับดูแล ซึ่งจะต้องมีการสร้างสถานจ่ายไฟบริเวณใกล้ๆกับสถานรถไฟฟ้าสายสีเขียวบางหว้าด้วย

สำหรับการศึกษา PPP ครั้งนี้ แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานครกล่าวว่า มี 3 รูปแบบการลงทุนที่คณะที่ปรึกษาจะต้องไปศึกษามา ได้แก่ 1. กรุงเทพมหานครทำเอง 2.ให้ตกลงกับบมจ.ระบบขนส่งมวลขนกรุงเทพ (BTSC) ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานรายเดิม และ 3. ให้ประกาศประกวดราคา PPP ซึ่งตอนนี้ กรุงเทพมหานครมีเงื่อนไขสำคัญคือ ยังต้องจ้าง BTSC เดินรถตามสัญญาจ้างเดินรถ ซึ่งจะมีผลไปถึงปี 2585 หากสามารถเจรจาให้ BTSC ทำต่อก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเปิดประมูลตามพ.ร.บ. PPP ก็จะต้องเจรจากับเอกชนที่จะเข้ามาลงทุนว่า อาจจะต้องจ้าง BTSC เดินรถต่อไปตามสัญญาจ้างด้วย ดังนั้น ที่ปรึกษาจึงต้องวิเคราะห์ว่า รูปแบบไหนดีที่สุด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีจึงจะศึกษาเสร็จ

“คงเป็น PPP Tag (ภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยในขณะที่ภาคเอกชนรับผิดชอบงานส่วนที่เหลือทั้งหมด ได้แก่ การออกแบบรายละเอียดและการก่อสร้าง) แต่ถ้าเอกชนลงทุนสร้าง 40,000 ล้านบาทและค่าเดินรถด้วยนั้น รูปแบบคงเหมือนรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง ที่ให้เอกชนสร้างไปก่อน แล้วรัฐบาลผ่อนจ่ายทีหลังจนครบระยะเวลาสัญญา ซึ่งที่ปรึกษาต้องวิเคราะห์ว่าจะให้ทำแบบไหน เพราะ กรุงเทพมหานคร คงไม่มีเงินให้ถึง 40,000 ล้านบาทหรอก” แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานครกล่าว

แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานครเปิดเผยว่า สำหรับการศึกษานี้คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี จากนั้นจะเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (บอร์ด PPP) พิจารณาให้ความเห็นชอบ จากนั้นจะส่งไปที่กระทรวงมหาดไทยเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการ จากนั้นจึงจะเริ่มกระบวนการหาผู้รับจ้างต่อไป ซึ่งตามขั้นตอนที่กล่าวมาจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี หากบวกกับระยะเวลาก่อสร้างที่คาดไว้ประมาณ 2-3 ปี คาดว่าส่วนต่อขยายนี้จะแล้วเสร็จประมาณ 2574 ทั้งนี้ ยังไม่รวมขั้นตอนการเสนอรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ คชก.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากผลการศึกษาความเหมาะสมและรายละเอียดเบื้องต้นเมื่อปี 2558 เปิดเผนรายละเอียดโครงการไว้ว่า จะเป็นทางวิ่งยกระดับจำนวน 2 ทางสูงประมาณ 16.6 เมตร แนวเส้นทางเริ่มต้นที่จุดเชื่อมต่อโรงจอดรถของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายบริเวณสถานบางหว้า วิ่งไปตามทิศเหนือ ตามแนวเกาะกลางถนนราชพฤกษ์ ผ่านทางแยกตัดถนนบางแวก (ซ.จรัญสนิทวงศ์ 13) ผ่านทางแยกถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 จากนั้นจะยกระดับขึ้นไแปเป็น 26.6 เมตร ข้ามทางแยกบรมราชนนี และยกระดับขึ้นไปที่ 31.6 เมตร ข้ามทางด่วนประจิมรัถยา (ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก) และสิ้นสุดที่บริเวณทางลาดลงของสะพานข้ามทางรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ระยะทางรวม 7.5 กม. จำนวน 6 สถานี ประกอบด้วย สถานีบางหว้า, บางแวก, บางเชือกหนัง, บางพรม, อินทราวาส, บรมราชชนนี และตลิ่งชัน