ครม.ไฟเขียวยกเลิกใช้จ่ายงบกลางฯบริหารจัดการภัยแล้ง7.4 พันล้านหลังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรับสอบคดีฮั้ว

‘ครม.’ รับลูก ‘ภูมิธรรม’ ไฟเขียวยกเลิก ‘ใช้จ่าย’ งบกลางฯบริหารจัดการ‘ภัยแล้ง’ 7.4 พันล้าน หลัง ‘สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ’รับสอบคดีฮั้วดึงงบลงพื้นที่ ‘ส.ส.'-ล่วงเข้าฤดูฝนแล้ว

……………………………………….

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม. มีมติยกเลิกการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2568 ตามที่ นายภูมิธรรม เสนอ

“ตามที่ได้ยืนยันแจ้งมติคณะรัฐมนตรี (22 เมษายน 2568) เกี่ยวกับเรื่อง ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 มาเพื่อทราบความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น

ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2568 (เรื่อง ขออนุมัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568)

อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายใต้กรอบวงเงิน 7,404.34 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 จำนวน 2,748 รายการ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ นั้น

เนื่องจากโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและปัจจุบันระยะเวลาได้ล่วงเลยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว จึงอาจทำให้สภาพพื้นที่ของโครงการและเหตุผลความจำเป็นในการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว เปลี่ยนแปลงไปจากที่ได้เสนอขออนุมัติไว้ ประกอบกับปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จะสิ้นสุดลงในวันที่ 10 กันยายน 2568 อันจะทำให้งบประมาณของโครงการดังกล่าวพับไปตามผลของกฎหมาย

ดังนั้น จึงเห็นควรยกเลิกการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ดังกล่าวข้างต้น เพื่อนำงบประมาณไปใช้จ่ายสำหรับโครงการอื่นที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน รวมทั้งให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติพิจารณาทบทวนเหตุผลความจำเป็นของการดำเนินโครงการดังกล่าว

และหากยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการ ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติประสานหน่วยรับงบประมาณเจ้าของโครงการพิจารณาทบทวนรายละเอียดรายการและค่าใช้จ่าย และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีเสนอ” หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร. 0505/ ว(ล)/23146 แจ้งมติ ครม. ลงวันที่ 11 ก.ย.2568 ระบุ

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2568 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) มีมติรับเรื่องกล่าวหา กรณี 1.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย 2.นายสาโรจน์ หงษ์ชูเวช อดีต ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย 3.นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย 4.นายจักรพงษ์ แสงมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย

และ 5.ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงบประมาณ ว่า มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง โดยใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการสั่งการ บังคับ ก้าวก่าย หรือเข้าแทรกแชง ในการจัดทำงบประมาณการอนุมัติงบประมาณ การบริหารงบประมาณ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อประโยชน์ของตนเอง และผู้อื่น หรือพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ 2568

กระทั่งต่อมา สำนักงบประมาณ ได้ชะลอการอนุมัติจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 วงเงิน 51,584 ล้านบาท หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) มีมติรับเรื่องกล่าวหา กรณีการจัดสรรงบฯดังกล่าว ว่า อาจพฤติการณ์ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสองหรือไม่ ไว้ตรวจสอบ

อ่านประกอบ :

เซ็นสัญญาจ้างแล้ว! นายกเทศฯ‘ทาขุมเงิน’ถามหาแหล่งเงิน หลัง‘สำนักงบฯ’เบรก‘งบน้ำ’5 หมื่นล.

ฮั้วดึง 7.4 พันล้านลงพื้นที่'สส.เพื่อไทย' เหตุ'สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ'สอบขัด รธน.-สำนักงบฯเบรก 5 หมื่นล้าน

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรับสอบคดีจัดทำงบฯปี 68 แจกเงินหมื่น ขัดรธน.ม.144 กล่าวหา ‘แพทองธาร-สส.-สว.' ยกคณะ