
อเล็กซ์ อัลบอน นักแข่งรถฟอร์มูล่าวัน มอบหมวกกันน็อกจากสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ เพื่อการประมูลการกุศล สนับสนุนยูนิเซฟช่วยเหลือเด็กในประเทศไทย
อเล็กซ์ อัลบอน อังศุสิงห์ นักแข่งรถฟอร์มูล่าวันชาวไทยเพียงหนึ่งเดียวในปัจจุบัน มอบหมวกกันน็อกที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับการแข่งขันสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ 2025 เพื่อนำออกประมูลการกุศล สนับสนุนงานของยูนิเซฟ ประเทศไทย โดยรายได้ทั้งหมดจะนำไปช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กที่ขาดโอกาสทั่วประเทศ
หมวกกันน็อกใบนี้ออกแบบโดยคาร์ลอตตา เฟรเออร์ (Karlotta Freier) ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากลวดลายไทยและเอเชียที่สะท้อนถึงภูมิลำเนาของอัลบอนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเขาจะสวมใส่หมวกใบดังกล่าวลงแข่งขันในรายการ สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 3–5 ตุลาคม 2568 การประมูลเริ่มต้นที่ 450,000 บาท (ประมาณ 14,100 ดอลลาร์สหรัฐ) เปิดแล้ววันนี้จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ที่ www.unicef.or.th/alex
อัลบอนเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เกิดที่สหราชอาณาจักร โดยมีมารดาเป็นชาวไทย เขาลงแข่งขันภายใต้ธงชาติไทยตลอดเส้นทางอาชีพ ตั้งแต่การแข่งรถโกคาร์ทเมื่ออายุ 7 ขวบ จนก้าวสู่เวทีระดับโลก และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ ในปี 2563 อัลบอนสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักแข่งชาวไทยคนแรกที่ขึ้นโพเดียมในฟอร์มูล่าวัน ทัสกันกรังด์ปรีซ์ และในปี 2564 เขายังเป็นนักแข่งชาวไทยคนแรกที่คว้าชัยชนะในรายการ Deutsche Tourenwagen Masters หรือ DTM การมอบหมวกกันน็อกในครั้งนี้จึงสะท้อนถึงความตั้งใจของอัลบอน ในการมอบโอกาสให้เด็กในประเทศไทยได้เติบโตและพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่
อัลบอนกล่าวว่า “ผมรู้สึกภูมิใจอย่างมากที่ได้ร่วมมือกับยูนิเซฟ ประเทศไทย ในการนำหมวกกันน็อกจากการแข่งขันสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์มาประมูล เพื่อนำรายได้ไปช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดในประเทศไทย ผมหวังว่าการประมูลครั้งนี้จะช่วยสะท้อนให้เห็นถึงงานสำคัญที่ยูนิเซฟกำลังทำ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนจำนวนมากเข้ามามีส่วนร่วม”
อัลบอนเป็นนักแข่งรถชาวไทยคนที่สองที่ก้าวสู่การแข่งขันฟอร์มูล่าวัน ต่อจากพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือ “พระองค์เจ้าพีระ” ผู้เข้าแข่งขันกรังด์ปรีซ์ 19 รายการ ระหว่างปี 2493 – 2497 และยังมีบทบาทเป็นทั้งนักเดินเรือ นักบิน และศิลปิน
แม้ประเทศไทยจะมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่เด็กจำนวนมากยังคงเผชิญอุปสรรคสำคัญในชีวิต เช่น เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ร้อยละ 13 มีภาวะเตี้ยแคระแกร็นจากการขาดสารอาหาร, นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ถึงร้อยละ 40 ยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ตามวัย, เด็กกว่า 13.6 ล้านคนต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศในระดับอันตรายทุกปี และวัยรุ่นราว 1 ใน 7 คนมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิต
รายได้จากการประมูลหมวกกันน็อกครั้งนี้จะถูกนำไปสนับสนุนโครงการของยูนิเซฟ ประเทศไทย เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ ทั้งในด้านการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ การคุ้มครองเด็ก และการส่งเสริมบริการด้านสุขภาพจิต
นางเซเวอรีน เลโอนาร์ดี รองผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “ทุกบาททุกสตางค์จากการประมูลครั้งนี้จะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนให้กับเด็ก ๆ เราขอขอบคุณอเล็กซ์เป็นอย่างยิ่งที่แสดงถึงน้ำใจอันงดงามในการตอบแทนสังคม และยืนหยัดเคียงข้างเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด”
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )